
วันนี้ (8 พฤศจิกายน 2568) จากกรณีเจ้าหน้าที่กองกำกับการ 3 กองบังคับการปราบปราม (กก.3 บก.ป.) เข้าจับกุมนายนิสิต สินธุไพร อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดร้อยเอ็ด และอดีตแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพัทยา ที่ 618/2562 ลงวันที่ 1 พฤศจิกายน 2562
ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากรณีของนายนี้เป็นคดีที่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาให้ลงโทษจำเลยที่ 5 เป็นเวลา 4 ปี และปรับ 200 บาท โดยศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืนในส่วนของโทษจำคุกและโทษปรับ
ต่อมาศาลฎีกาพิพากษายืนในส่วนของจำเลยที่ 5 จำเลยที่ 5 ไม่มาศาลตามนัด ศาลจังหวัดพัทยาจึงอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาลับหลังจำเลยที่ 5 ไปเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2562 และออกหมายจับจำเลยที่ 5 มาปฏิบัติตามคำพิพากษาศาลฎีกา ปรากฏตามรายงานกระบวนพิจารณาฉบับลงวันที่ 31 ตุลาคม 2562 เมื่อวานนี้ (7 พ.ย. 68) จำเลยที่ 5 เข้ามอบตัวตามหมายจับพร้อมทนาย สอบแล้วรับว่าเป็นจำเลยที่ 5 ในคดีนี้จริง จึงให้รับตัวไว้ และให้จำเลยที่ 5 ทราบผลตามคำพิพากษา และออกหมายจำคุกคดีถึงที่สุด
จึงส่งตัวจำเลยที่ 5 ไปขังเรือนจำพิเศษพัทยา ตามคำพิพากษาของศาลฎีกา
ทั้งนี้ คดีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อปี 2552 ตอนที่ นายนิสิต ยังเป็นหนึ่งในแกนนำคนเสื้อแดง ได้ร่วมกับแกนนำคนอื่นๆ พามวลชนคนเสื้อแดงจำนวนมาก บุกก่อความวุ่นวายที่บริเวณด้านหน้า โรงแรมรอยัลคลิฟ เมืองพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เพื่อหวังล้มการประชุมอาเซียน กดดันทางการเมือง จนสร้างความเสียหายให้กับประเทศเป็นอย่างมาก หลังจากนั้น นายนิสิต ถูกดำเนินคดี จนเมื่อคดีดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาชั้นศาล นายนิสิต กลับไม่ยอมไปฟังคำพิพากษา ซึ่งศาลตัดสินจำคุก 4 ปี ศาลจังหวัดพัทยา เมื่อปี 2562 ด้วยเหตุนี้ทางศาลจังหวัดพัทยา จึงทำการออกหมายจับ พร้อมประสานตำรวจหน่วยงานต่างๆ ติดตามจับกุมตัว กระทั่งจับกุมตัวได้ดังกล่าว
สำหรับนายนิสิต เคยเป็น สส.ร้อยเอ็ดหลายสมัย สังกัดพรรคเพื่อไทย พรรคพลังประชาชน และพรรคไทยรักไทย เป็นบิดาของ นางสาวจิราพร สินธุไพร อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลเศรษฐา-แพทองธาร และเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย
Advertisement