
นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีเปรยว่าอาจยุบสภาก่อน 1 เดือน หากมีการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า นายกฯ พูดด้วยความเป็นลูกผู้ชาย สิ่งที่รับปากไว้แล้ว และการตกลงไม่ต้องพูดอะไรเยอะ ครั้งสองครั้งก็รู้กันหมดแล้ว
ส่วนการยุบสภาถือเป็นอำนาจของ นายกรัฐมนตรี และนายกฯยังไม่ได้มีการเปรยอะไรกับพรรคร่วมรัฐบาล แต่ส่วนตัวต้องรู้อยู่แล้ว ตั้งแต่ร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล ก็นับถอยหลังการทำงาน รู้กันอยู่แล้วว่า จะต้องเลือกตั้ง ทางการเมืองมีตารางการทำงานกันอยู่แล้ว ระหว่างทางก็ต้องทำงานอย่างเต็มที่ในฐานะฝ่ายบริหาร แต่ในทางการเลือกตั้ง ก็ต้องนับถอยหลัง เพราะมีการกำหนดกันไว้แล้ว ต่างคนต่างเป็นผู้ทรงเกียรติพูดกันครั้งเดียวก็จบ
เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรี ใช้คำว่าหากสู้เกมการเมืองไม่ไหว ก็ต้องยุบสภา นายสุชาติ กล่าวว่า นายกฯทำงานหนักและสถานการณ์วันนี้ ไม่ควรนำเกมการเมืองมาเล่น ควรจะให้นายกรัฐมนตรี ทำงานอย่างเต็มที่ และทุกสิ่งทุกอย่างก็จะเป็นไปตามที่ได้คุยกันไว้ ประชาชน 70 กว่าล้านคน รู้อยู่แล้วว่าใครรับปากอะไรใครไว้ ดังนั้นควรปล่อยให้นายกรัฐมนตรีทำงานอย่างเต็มที่ เพราะตอนนี้สถานการณ์บ้านเมืองมีหลายด้านเข้ามา ต้องให้กำลังใจนายกรัฐมนตรีเพราะเหลือเวลาอีกไม่กี่เดือน
เมื่อถามว่ามองเป็นการขู่หรือไม่ที่จะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายสุชาติ กล่าวว่า การที่ให้สัญญาประชาคมกับประชาชนทั่วประเทศไว้แล้ว ใครที่ให้สัญญาประชาคมอะไรไว้ก็ต้องปฏิบัติ มิฉะนั้นจะกลายเป็นคนที่พลิกไปพลิกมา ต่อไปประชาชนก็จะไม่เชื่อถือ นายกรัฐมนตรี บอกแล้ว ว่า ชัดเจน 4 เดือนก็คือ 4 เดือนที่ทำงาน หลังจากนั้นก็ว่ากันตามระบอบประชาธิปไตย
เมื่อถามว่าล่าสุด นายรังสิมันต์ โรม สส.พรรคประชาชน เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี ปลด ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายสุชาติ ตอบด้วยความเห็นส่วนตัว ว่า บุคคลท่านใดที่เป็นรัฐมนตรีทำดีหรือไม่ดี ท่านต้องดีใจ เพราะใกล้เลือกตั้ง หากเขาไม่ดี ท่านก็ต้องปล่อยให้ทำงานไปเรื่อยๆ ให้ประชาชนเห็นว่าเขาดีหรือไม่ดี และสุดท้ายท่านก็จะได้เป็นผู้ได้คะแนนเสียงข้างมาก เพื่อจัดตั้งรัฐบาล
"วันนี้ทำงานได้แค่เดือนเดียว เดือนกว่าเองท่าน จะมาวิเคราะห์คนนั้นดีไม่ดี ผมว่ามันแค่งานประทับจำทุกวันนี้ ยังไม่มีเวลาเลย และยังมีที่ต้องสนองภารกิจต่างๆอีกเยอะแยะ ตามนโยบายต่างๆ ผมว่าถ้าสื่อมวลชนมองคนนั้นดีไม่ดีประชาชนมองคนนั้นดีไม่ดีฝ่ายค้านมองคนนั้นดีไม่ดี สุดท้ายมันก็ตัดสินกันตอนใช้สิทธิ์ประชาธิปไตยเลือกตั้งนั่นแหละ ถ้าเรามั่นใจในวันนั้นจะไปกลัวอะไร เราลูกผู้ชายด้วยกัน"
Advertisement