
(5 พ.ย. 2568) ที่อาคารรัฐสภา นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีต้องรับผิดชอบหรือไม่ เรื่องปล่อยให้ทุนเทายึดประเทศ ว่า ต้องบอกว่ามีอำนาจดำเนินการ เพราะวันนี้ท่านถืออำนาจ แต่เราอย่าเพิ่งไปกล่าวหาท่านว่าท่านเอื้อประโยชน์ให้ทุนเทา เพราะท่านเพิ่งมารับตำแหน่ง แต่ท่านมีหน้าที่ต้องจัดการกับทุนเทาเหล่านั้น โดยสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เมื่อถามว่านายกรัฐมนตรีอาจยุบสภาก่อนวันที่ 31 ม.ค. 2569 หากมีความสุ่มเสี่ยงทางการเมืองจะกระทบกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ ว่า เป็นอำนาจเฉพาะตัวของนายกฯ เราก็ทำตามหน้าที่กันไป ในส่วนของการแก้ไขรัฐธรรมนูญตนคิดว่าคณะกรรมาธิการที่พิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ก็ทำเต็มที่ ซึ่งการที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จะยุบสภาก็ต้องว่ากันไปในสภาฯ สมัยหน้า
เมื่อถามว่า แบบนี้จะถือว่าผิดสัญญาใน MOA หรือไม่เพราะจะทำให้เสียของ เนื่องจากยังแก้รัฐธรรมนูญไม่สำเร็จ นายวิโรจน์ กล่าวว่า อย่างน้อยเราได้พยายาม เราพูดมาตลอดว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้มีปัญหา ส่วนที่พรรคประชาชนต้องพูดถึงเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ ก็เพราะกฎระเบียบของประเทศ จะโอเคหรือไม่ที่ 2 ปีเปลี่ยนนายกฯ 3 คน แล้วจะขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจได้อย่างไร อย่างนโยบายเศรษฐกิจ ที่ตอนนี้กลายเป็นแค่การกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งคนละครึ่ง ชอปช่วยชาติ แต่นโยบายเศรษฐกิจ ต้องพูดถึงการลงทุนในสาธารณูปโภคครั้งใหญ่ กระจายเม็ดเงินสู่ท้องถิ่น
"ผมเคยคุยกับ สส. พรรคเพื่อไทย ว่าถ้ารัฐธรรมนูญฉบับนี้เกิดขึ้น แล้วนโยบาย 30 บาท ยังไม่เคยเกิด แต่มาเกิดในยุคนี้คิดว่าจะผ่านหรือไม่ คำตอบคือไม่น่าผ่าน เพราะแค่คิดก็จะมีนักร้องไปร้อง แล้วจะมีเก้าอี้ 9 ตัว ทำตัวเป็นเดอะวอยซ์ กดหันหลัง แล้วก็ไปกันไม่ได้ สิ่งที่ผมพูดไม่เกินไป ระบบแบบนี้เคยเกิดขึ้นในรถไฟความเร็วสูง สุดท้ายทำให้ประเทศเราถูกเหนี่ยวรั้ง ถูกโซ่ตรวนในการพัฒนาประเทศ ทำได้แต่คนละครึ่งคนละข้างแบบนี้ และย้ำว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นหนึ่งในรากฐานสำคัญในการผลักดันเศรษฐกิจ" นายวิโรจน์ กล่าว
เมื่อถามว่า คาดหวังว่านายกฯ จะยุบสภาหลังจาก ร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขผ่านวาระ 3 แล้วหรือไม่ นายวิโรจน์ กล่าวว่า ตนก็คาดหวัง หากพรรคภูมิใจไทยเห็นปัญหาเดียวกับเราว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นโซ่ตรวนในการพัฒนาประเทศ ตนก็ตั้งคำถาม ว่าคนที่ร่างรัฐธรรมนูญปี 60 วันที่ร่างรู้จักปัญญาประดิษฐ์แล้วหรือไม่ ซึ่งคิดว่าเขาไม่เคยคิด
"เขาจินตนาการอนาคตโดยเอาอดีตมาจินตนาการ แต่การจินตนาการในอนาคตต้องใช้ความเป็นปัจจุบัน เพื่อจินตนาการอนาคตข้างหน้า Good Old Days ย้อนรำลึกวัยหวาน แล้วก็เป็นนโยบายที่ไม่ใช่อนาคต แต่ผมจะเรียกว่านโยบายที่แก้ไขอดีตที่คุณไม่พึงพอใจ แล้วคุณเรียกสิ่งนั้นว่าอนาคต" นายวิโรจน์ กล่าว
เมื่อถามว่า เพื่อให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญสำเร็จ มีโอกาสที่พรรคประชาชนอาจจะไม่ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจใช่หรือไม่ นายวิโรจน์ กล่าวว่า หากมีเนื้อหาสาระที่จำเป็นต้องยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ พรรคประชาชนก็พร้อมที่จะยื่น เพราะไม่ได้อยู่ในข้อตกลง MOA หากมีเรื่องที่หนักหนาสากันหรือประเด็นที่เป็นภัยร้ายต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน พรรคประชาชนก็พร้อมที่จะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ และพร้อมที่จะจับมือกับพรรคเพื่อไทยในการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ไม่ได้มีปัญหาอะไร โดยเอาเนื้อหามาคุยกัน
"แต่การอภิปรายไม่ไว้วางใจต้องอภิปรายโดยยึดกับเนื้อหาสาระ ถึงความผิดฉกรรจ์ที่รัฐบาลก่อ และเนื้อหาสาระในการอภิปราย เราจะไม่ใช้การอภิปรายไม่ไว้วางใจ มาเป็นเกมทางการเมืองหรือเป็นช่องทางระบายความแค้นส่วนตัวของใคร เรายึดเนื้อหาสาระเป็นหลัก หากมีเนื้อหาสาระที่มากพอก็ยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ" นายวิโรจน์กล่าว
Advertisement