
วันที่ 30 ต.ค. 68 สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานว่า “ทรัมป์สั่งการให้สหรัฐฯ กลับมาทดสอบอาวุธนิวเคลียร์อีกครั้ง "ทันที" ด้วยคำพูดของเขาเอง”
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ได้สั่งการให้สหรัฐฯ กลับมาทดสอบอาวุธนิวเคลียร์อีกครั้ง "โดยทันที" ทรัมป์ได้ให้เหตุผลในการดำเนินการดังกล่าวเมื่อวันพุธ (ตามเวลาท้องถิ่น) ผ่านทางบริการข่าวออนไลน์ Truth Social โดยอ้างอิงถึงโครงการทดสอบของประเทศอื่นๆ ดังนั้น เขาจึงได้สั่งให้กระทรวงกลาโหม ซึ่งปัจจุบันเขาเรียกว่า "กระทรวงกลาโหม" เริ่มทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ ในระดับที่เท่าเทียมกัน
ทรัมป์เขียนไว้ไม่นาน ก่อนการประชุมที่รอคอยกันมานานกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ที่เกาหลีใต้ ในโพสต์ดังกล่าว เขาได้กล่าวถึงรัสเซียและจีนอย่างชัดเจน
ทรัมป์ยังเขียนต่อไปว่า สหรัฐฯ มีอาวุธนิวเคลียร์มากกว่าประเทศอื่นๆ เขายกย่องความพยายามของตนเองในการปรับปรุง และพัฒนาอาวุธที่มีอยู่ให้ทันสมัย
ในตอนแรกประธานาธิบดีสหรัฐฯ ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมใดๆ นอกจาก "กระบวนการ (...) จะเริ่มต้นทันที"
การประกาศของทรัมป์เกิดขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย กล่าวเมื่อวันพุธว่ากองทัพรัสเซียได้ทดสอบ ตอร์ปิโดพลังงานนิวเคลียร์รุ่นใหม่
"โพไซดอน" เมื่อวันก่อน สามารถติดตั้งหัวรบนิวเคลียร์ได้ ดังที่สำนักข่าว TASS ของรัสเซียรายงาน โดยอ้างคำพูดของตัวแทนจากกลุ่มอุตสาหกรรมการทหารของรัสเซีย ปูติน กล่าวว่า "ไม่มีทาง" ที่จะสกัดกั้นโดรนลำนี้ได้ ซึ่งเร็วกว่าเรือดำน้ำทั่วไป และสามารถบินไปถึงทวีปใดๆ ในโลกได้
เมื่อวันอาทิตย์ ผู้นำเครมลินประกาศเสร็จสิ้นการทดสอบขีปนาวุธร่อนพลังงานนิวเคลียร์ Burevestnik ปูติน กล่าวว่า ขีปนาวุธร่อนเหล่านี้มี "พิสัยการยิงไม่จำกัด" ทรัมป์กล่าวว่าการทดสอบดังกล่าว "ไม่เหมาะสม"
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ สำนักข่าวซินหัวของจีน รายงานว่า โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีนประกาศว่า สีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน จะพบปะหารือกับ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่เมืองปูซานของเกาหลีใต้ ในวันที่ 30 ต.ค. นี้ ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งเป็นไปตามการตกลงระหว่างจีนและสหรัฐฯ โดยผู้นำทั้งสองจะร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับสายสัมพันธ์ทวิภาคี และประเด็นที่ทั้งสองฝ่ายให้ความสนใจร่วมกันด้วย
Advertisement