
วันที่ 27 ต.ค. 68 นาย ชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย ในฐานะประธานวิปรัฐบาล กล่าวถึงกรณีรัฐบาลอาจจะถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ ประเด็นนาย วรภัค ธันยาวงษ์ อดีต รมช.คลัง ว่า สมัยตนเป็นเด็ก เราเรียกร้องกันมากว่าถ้ารัฐมนตรีมีเหตุมัวหมองให้ลาออก วันนี้นายวรภัคได้แสดงความเป็นสุภาพบุรุษทางการเมือง โดยการลาออกไม่ยึดติดกับอะไรทั้งนั้น ถือว่าต้องชื่นชม จะผิดจะถูกตนไม่ทราบ แต่สิ่งที่ต้องชื่นชมคือท่านมีสปิริตทางการเมือง ซึ่งไม่มีในนักการเมืองทั่วไป
ส่วนตัวชื่นชมนายวรภัค ตนไม่มีความรู้เรื่องสแกมเมอร์ เรื่องบริษัทต่างๆ ท่านจะผิดหรือถูก ตนไม่ทราบ แต่สิ่งที่เราเรียกร้องมาตลอด นายวรภัคก็ได้ทำแล้ว ตนว่าสื่อมวลชนก็ต้องชื่นชมท่านด้วยในความเป็นสุภาพบุรุษ
"ที่ผ่านมามีแต่ยิ่งผิดยิ่งไม่ลาออก นักการเมืองคนไหนมัวหมองก็ตาม ยิ่งถ้าผิดก็จะกั๊ก รักษาอำนาจจนบางคนพรรคต้องบีบให้ออก แต่ท่านวรภัคแสดงสปิริตโดยการลาออกและยังไม่ได้ทำงานอะไรเลย เพียงแค่ 2 สัปดาห์กว่าๆ ท่านก็แสดงสปิริตแล้ว เป็นสิ่งที่น่าชื่นชม ไม่ใช่จะหาได้ในรัฐบาลอื่น ลองไปนับดูรัฐบาลอื่นๆ เวลามีเหตุมัวหมอง มีใครทำอย่างท่านวรภัคบ้าง" นายชาดา กล่าว
ส่วนได้คุยกับนายวรภัคหรือไม่ นายชาดา กล่าวว่า ตนยังไม่เคยคุยกับนายวรภัคสักคำเดียว เพียงแต่ยกมือไหว้เท่านั้น
เมื่อถามว่าจะส่งผลกระทบกับเสถียรภาพรัฐบาลหรือไม่ นายชาดา ย้อนถามว่าจะส่งผลได้อย่างไรในเมื่อนายวรภัคลาออก ไม่ใช่มาเป็นอยู่แล้ว แล้วมาพัวพัน ที่อ้างมาว่าเคยพัวพัน ถ้าเป็นจริงอย่างที่เขาพูดกันก็ไม่ผิด เพราะตอนนั้นท่านยังไม่ได้เป็นรัฐมนตรี แต่วันนี้ท่านแสดงสปิริต ตนอยากให้สังคมและสื่อมวลชนนึกว่าวันนี้มีนักการเมืองที่แสดงสปิริตแล้ว และเป็นบุคคลภายนอกที่ไปขอร้องเขามา เป็นเรื่องที่น่าชื่นชมมากกว่า
เมื่อถามว่ายังมีรัฐมนตรีอีกคนที่มีข้อครหาคือ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.เกษตรและสหกรณ์ เพราะโดนโจมตีเยอะ สืบเนื่องมาจากกรณี กัน จอมพลัง นายชาดา กล่าวว่า ร.อ.ธรรมนัส โดนอภิปรายมาหลายครั้งแล้ว ตนว่าถ้าผิดคงไปแล้ว กรณีเรื่องมูลนิธิฯ ตนเคยทำงานเรื่องการจดมูลนิธิมา ทุกมูลนิธิต้องมีการลงท้ายไว้ ถ้าบอกว่าไปให้ ร.อ.ธรรมนัส จะดูไม่งาม แต่นี่ระบุให้มูลนิธิธรรมนัส และต้องให้ความเป็นธรรมกับ กัน จอมพลังด้วย
“คนที่จะจดทะเบียนมูลนิธิ จะให้ใครก็ต้องนึก ซึ่งมูลนิธิ อันที่จริงล้มยาก แต่เมื่อในระเบียบมี และทุกมูนิธิที่จดทะเบียนก็จะเอาไปให้ส่วนรวมหรือมูลนิธิอื่นๆ อย่างมัสยิด ก็จะบอกยกให้มัสยิด ผมมองในมุมของคนที่เคยทำงานมาและรู้สภาพการทำงาน ก็ให้ความเป็นธรรมกับทุกคน คนที่ออกมาพูดเรื่องกันก็ไม่ได้ผิด มีสิทธิ์ตรวจสอบได้” นายชาดา กล่าว
เมื่อถามว่ากรณีของ ร.อ.ธรรมนัส ไม่ได้เกี่ยวกับ กัน จอมพลังโดยตรง แต่เกี่ยวกับนายเบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ หรือ เบน สมิธ ที่ปรึกษานาย ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา นายชาดา กล่าวว่า ตนไม่รู้จักนายเบนจามินเลย แต่ตนว่านายเบนจามินรู้จักคนเยอะ ทั้งในไทยและกัมพูชา ถามว่าถ้าแค่รู้จักผิดแล้วหรือ คนรู้จักนายเบนจามิน ตนเชื่อว่าเยอะ ในประเทศไทย และ ร.อ.ธรรมนัส ไปรู้จักนายเบนจามิน ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย อย่างตนก็รู้จักคนเยอะ ไม่ใช่เรารู้จักใคร คนนั้นผิด เราก็ต้องผิดไปด้วย อย่าเอาการเมืองมามอง เปิดแผลนิดนึงแล้วทิ่มเลย ต้องให้ความเป็นธรรม ดูความเป็นจริง ดูความเป็นไปด้วย
และดูว่าการกระทำของเขาไม่ถูกต้องหรือไม่ อย่างมูลนิธิกันจอมพลังช่วยสู้ ตนว่าไปดูว่าใช้เงินถูกต้องหรือไม่ดีกว่า ไปตรวจสอบตรงนั้น ตนเคารพในน้ำใจของกัน จอมพลัง ตนโทรคุยกับเขาเรื่อย ถามว่าเป็นอย่างไร ไปดูว่ากัน จอมพลังใช้เงินผิดประเภทหรือไม่ ไม่อย่างนั้นก็ไม่มีใครกล้าออกมาทำงานเรื่องส่วนรวม ผิดถูกก็ว่ากันไป ไม่ใช่ว่า กัน จอมพลัง รู้จักกับ ร.อ.ธรรมนัส แล้วจะเป็นคนเลว การทำงานของเขาจะเลวหรือ สังคมไทยต้องอยู่กับความเป็นจริง อย่าไปอยู่กับกระแส สิ่งที่ไม่ใช่สาระของสังคม สังคมไทยจะอยู่กับเรื่องมั่วๆ เรื่องที่ทำร้ายคนนั้นคนนี้ เราจะไปกระตุ้นข่าว ทำให้คนดีเสียความรู้สึก ตนว่าต้องค่อยๆคิด อย่าเอาอารมณ์ อย่าเอาความเป็นพวก ไม่ใช่พวกฉันพูดผิดหมด
เมื่อถามว่า แต่คนไม่เชื่อมั่นเรื่องการตั้ง ร.อ.ธรรมนัส มาเป็นประธานปราบปรามแก๊งสแกมเมอร์ นายชาดา กล่าวว่า ตนไม่ทราบ พร้อมย้อนถามว่าใครตั้ง รัฐบาลตั้งหรือ ตนไม่ทราบจริงๆ
“ก็ทำไม ถ้าคุณเข้าใจแบบนั้น ทำไมคุณไม่เข้าใจว่าเอาโจรไปปราบโจรดีไหมล่ะ ขอให้คุณธรรมนัสรู้เรื่องจริงเถอะ ผมว่าเขาก็ต้องทำได้ อันนี้อยู่ที่ตัวท่าน อย่าเพิ่งไปวิพากษ์วิจารณ์อะไร ผมก็ไม่ทราบ บอกตรงๆ ผมเสพข่าวน้อยมาก เสพเฉพาะเรื่องสำคัญ เพราะกลัวเข้าไปอยู่ในกระแสลมปั่นป่วน แล้ววิธีคิดของเราจะเสียไป ผิดไป” นายชาดา กล่าว
Advertisement