Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
"เท้ง" ปลุกลูกพรรคเตรียมพร้อมเลือกตั้งลั่น "มีเรา ไม่มีเทา"

"เท้ง" ปลุกลูกพรรคเตรียมพร้อมเลือกตั้งลั่น "มีเรา ไม่มีเทา"

25 ต.ค. 68
15:28 น.
แชร์

"เท้ง" ปลุกลูกพรรคเตรียมพร้อมเลือกตั้งลั่น "มีเรา ไม่มีเทา" ตั้งเป้าเพิ่ม สส.อีก 100 เขต เชื่อโรดแม็ปยุบสภายังไม่เปลี่ยนรัฐบาลบริหารจัดการสถานการณ์ได้

พรรคประชาชน จัดการประชุมใหญ่วิสามัญพรรคประชาชน โดยมีกรรมการบริหาร สส. และสมาชิกพรรคเข้าร่วมจำนวนมาก ทั้งนี้นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวต่อที่ประชุมตอนหนึ่งว่า พวกเรามีสิ่งที่จำเป็นในการมีรัฐบาลที่ดีในครั้งหน้า 1.การมีเจตจำนงทางการเมือง 2.การมีนโยบายที่ดีที่สุด 3.มีทีมทำงาน สส. และฝ่ายบริหารที่ดีเช่นเดียวกัน สมัยพรรคอนาคตใหม่ ณ ตอนนั้นการตั้งพรรคที่เกิดขึ้นมีการตั้งคำถามว่าทำไมจึงต้องมีพรรคนี้ แต่เป็นพรรคที่ทำให้พวกเรารู้ว่าพวกเรามารวมตัวกันอยู่ตรงนี้เพื่ออะไร ยุคที่สองคือยุคของพรรคก้าวไกล ที่เรามี 300 นโยบาย ปัญหาที่ต่างๆ ที่เรามีอยู่ต้องแก้ด้วยนโยบายเหล่านี้ ซึ่งเราสามารถชนะการเลือกตั้งจนเป็นพรรคอันดับหนึ่งได้

นายณัฐพงษ์ กล่าวต่อว่า ยุคนี้จะเป็นยุคที่เราต้องแสดงให้ประชาชนเห็นว่าเราพร้อมที่จะบริหารประเทศ และจะทำสิ่งต่างๆ เหล่านั้นให้ประสบความสำเร็จได้อย่างไร ตนคิดว่าทั้งในเรื่องของเจตจำนงทางการเมือง ชุดนโยบายที่ดีที่สุดและทีมบริหารที่ดีที่สุด เป็นสิ่งสำคัญที่เราเก็บเกี่ยวมาในแต่ละยุคแต่ละสมัยคู่กับตัวของพวกเรามา โดยโรดแม็ปเพื่อเอาชนะการเลือกตั้งในครั้งหน้าฐานรากที่สุดตอนนี้เรามีแล้ว คือเรื่องของนโยบาย เตรียมทีมบริหารโดยการเลือกตั้งครั้งหน้าจะเป็นอีกครั้งที่เรายกระดับการเมืองไทยไปสู่อีกระดับหนึ่ง

นอกจากเปิดตัวผู้สมัคร สส. เขต และเปิดหน้าผู้สมัคร สส.บัญชีรายชื่อ รวมถึงเปิดแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และชุดนโยบายอีกสิ่งหนึ่งที่เราจะเปิด คือ การเปิดโฉมหน้าของชุดบริหารว่าที่รัฐมนตรีในแต่ละกระทรวง นอกจากนี้ยังมีเรื่องของกลยุทธ์ที่จะเอาชนะการเลือกตั้ง เพื่อเป็นการรักษาเขตเพิ่มเดิมและเพิ่มเติมอีก 100 เขต ทั้ง 4 ค. ของพวกเรา ได้แก่ คู่แข่ง คะแนน เครือข่าย และแคนดิเดต สุดท้ายคือการเพิ่มคะแนนนิยม ระดับชาติ ซึ่งต้องอาศัยการทำงานในเชิงความคิด พื้นที่ของลูกพรรคทุกคน

นายณัฐพงษ์ กล่าวต่อว่า จุดแข็งอย่างหนึ่งของพรรคประชาชนคือ เราไปที่ไหนของเวทีดีเบตเราพูดเหมือนกันหมด การเลือกตั้งปี 66 ที่ทำให้เราได้รับคะแนนนิยมสูงมากขึ้นจนกลายมาเป็นพรรคอันดับหนึ่งได้ สิ่งหนึ่งที่ตนเชื่อคือเกิดจากการที่เรามีหลักการ และพื้นฐานที่มันใหญ่ ไม่ว่าตัวแทนของพรรคเราไปขึ้นเวทีไหนก็พูดเหมือนกันหมด ดังนั้นการที่เราค่อยๆ ปูพื้นขึ้นไปเช่นนั้น ตนเชื่อว่าหาก 2 ส่วนที่ตนกล่าวมา สามารถทำได้อย่างดีแล้วคะแนนนิยมระดับประเทศมาแน่นอน

"ทั้งนี้สำหรับวิสัยทัศน์ของรัฐบาลชุดใหม่ ในนามของพรรคประชาชน ตนคิดว่าคือ มีเรา ไม่มีเทา มีเรา มีเศรษฐกิจใหม่ มีเรา ประเทศไทยมีอนาคต มีเรา มีประชาธิปไตย และมีเรา มีคุณภาพชีวิตที่ดี ซึ่งจะผลักดันเรื่องเหล่านี้ต่อไป" นายณัฐพงษ์ กล่าว

จากนั้น นายณัฐพงษ์ ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า วันนี้เป็นการประชุมใหญ่วิสามัญพรรคประชาชน เพื่อเตรียมความพร้อมสู่การเลือกตั้งครั้งหน้า โดยในช่วงบ่ายจะมีการทำเวิร์คช็อปเพื่อสื่อสารกับประชาชน ว่าพรรคประชาชนเราเอาจริง ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป เพื่อทำให้ประเทศไทยดีกว่านี้ มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นกว่านี้ ประเทศไทยมีอนาคต มีความเป็นประชาธิปไตย รวมถึงเรื่องต่างๆ เช่น การทลายทุนสีเทา ซึ่งเป็นชุดนโยบายที่เราเตรียมความพร้อมไว้

นอกเหนือจากนโยบายแล้ว สิ่งที่มีความสำคัญไม่แพ้กันคือเรื่องของเจตจำนงทางการเมือง ที่ตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่ สิ่งที่ทำให้เราเข้ามาทำงานการเมืองคือ เราต้องการเข้ามาสร้างการเปลี่ยนแปลง โดยหลายนโยบายที่เราพูดถึงจะทำให้สำเร็จได้ต้องมีเจตจำนงทางการเมือง ทั้งนี้อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือเรื่องของทีมบริหาร ซึ่งตอนนี้เราได้มีการทาบทามไว้หลายคนแล้ว สำหรับว่าที่รัฐมนตรีกระทรวงต่างๆ ซึ่งจะมีการเปิดตัวภายหลังจากที่มีการยุบสภา

เมื่อถามว่าทิศทางหรือแคมเปญที่เราจะชูในการเลือกตั้งครั้งหน้าจะแตกต่างอย่างไรจากการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า คงจะมีการออกแคมเปญในหลายๆ ช่วง ตามสถานการณ์ทางการเมืองที่เปลี่ยนไป แต่สิ่งหนึ่งที่ตนคิดว่าชัดเจนมาก ที่พรรคประชาชนแตกต่างจากพรรคการเมืองอื่น คือเรื่องของเจตจำนงทางการเมือง ซึ่งโครงสร้างทางการเมืองจะเปลี่ยนแปลงได้ ก็ต้องเป็นพรรคการเมืองที่มาจากประชาชน

เมื่อถามว่าหากโรดแม็ปการยุบสภาต้องเปลี่ยนแปลงไปได้มีการเตรียมพร้อมรับมือหรือไม่ หัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวว่า มีการประเมินสถานการณ์และเตรียมรับมือไว้อยู่แล้ว และต้องรอดูสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตว่าจะเป็นอย่างไร เมื่อถามต่อว่าจะเป็นการบิดต่อ MOA หรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ตนเชื่อว่ารัฐบาลสามารถบริหารจัดการได้ ในคำถามนี้คงจะหมายถึงในกรณีการเสด็จสวรรคต ที่ประชาชนทุกคนรู้สึกเศร้าโศกเสียใจ ทางรัฐบาลสามารถแยกการบริหารจัดการได้อยู่แล้ว จะมีการไว้ทุกข์และจัดงานพระราชพิธีต่างๆ ให้เป็นไปโดยความมีระเบียบเรียบร้อย รวมถึงเรื่องการจัดการเลือกตั้ง ในกระบวนการการเดินหน้าเลือกตั้งและกระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งเป็นกระบวนการในสภา ตนคิดว่าไม่น่าเป็นเงื่อนไขที่เกี่ยวข้องกัน รัฐบาลสามารถทำได้ทั้ง 2 ส่วน

ส่วนความพร้อมในเรื่องตัวผู้สมัคร สส.ของพรรค ไม่ได้มีปัญหาภายในใช่หรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า กระบวนการภายในพรรค ไม่ได้มีปัญหาใดๆ ทั้งสิ้น ต้องบอกว่าพรรคประชาชนเรามีความเป็นประชาธิปไตยสูง และเป็นเรื่องปกติที่จะมีการถกเถียงกันในพรรค แต่ตนเชื่อว่าระบบที่ตนและผู้บริหารพรรคทุกคนร่วมกันวางมา เป็นระบบที่เราสร้างเพื่อต้องการทำให้เกิดพรรคของประชาชน ที่ทุกคนร่วมกันเป็นเจ้าของอย่างแท้จริง ฉะนั้นกระบวนการการเฟ้นหาผู้สมัคร หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่จะทำให้เราชนะการเลือกตั้งได้อีก 100 เขต ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ก็เป็นสิ่งสำคัญและเชื่อว่าทุกคนให้การยอมรับในกระบวนการนี้

เมื่อถามว่าอาจจะมีการขยับบ้างทั้งในส่วนบัญชีรายชื่อและเขตใช่หรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ที่อาจจะมีการเปลี่ยนตัวผู้สมัครเดิม รวมถึงบัญชีรายชื่อด้วย ซึ่งกว่าจะมีการเคาะบัญชีรายชื่อก็อีกนาน เป็นช่วงใกล้ๆ การเลือกตั้งเลย ตนไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องผิดปกติอะไร

ในการประชุมวิสามัญพรรคประชาชน ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ได้นำเสนอหัวข้อ "มุ่งหน้าสู่การเลือกตั้ง 2569" เพื่อเล่าถึงความพร้อมของพรรค งานนโยบาย ผู้สมัคร และคณะทำงานทั่วประเทศ ในการเข้าสู่การเลือกตั้งช่วงต้นปี 2569 นี้

โดยหัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวย้อนถึงอดีตพรรคอนาคตใหม่ ที่ถูกตั้งขึ้นมาในปี 2561 และสามารถได้ผู้แทนราษฎรมาถึง 81 คนในการเลือกตั้ง 2562 เหนือความคาดหมายของหลายคน เพราะสามารถตอบโจทย์ Know Why ได้ ว่าประเทศไทยจำเป็นต้องมีพรรคอนาคตใหม่เพื่อยุติวงจรอุบาทว์รัฐประหาร ด้วยแนวนโยบายประชาธิปไตย ปฏิรูปกองทัพ ทลายทุนผูกขาด

ส่วนพรรคก้าวไกลก็สามารถตอบโจทย์ Know What คือการมี 300 นโยบาย ครอบคลุมรอบด้านทุกระดับและกลุ่มของสังคม พรรคก้าวไกลมีคำตอบสำหรับทุกปัญหา พร้อมด้วยหมัดเด็ดในการยืนยันจุดยืนของพรรค นั่นคือ “มีลุงไม่มีเรา มีเราไม่มีลุง” ทำให้พี่น้องประชาชนมั่นใจในจุดยืนของพรรคว่าจะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา จนพรรคก้าวไกลชนะการเลือกตั้งได้มาเป็นอันดับ 1

และสำหรับพรรคประชาชนที่กำลังเดินหน้าเข้าสู่การเลือกตั้ง 2569 โจทย์หลักของเราก็คือ Know How คือการที่พรรคสามารถนำเสนอวิธีการและแผนการปฏิบัติให้สังคมไทยได้อย่างชัดเจน เป็นรูปธรรม เมื่อเป็นรัฐบาลแล้วก็สามารถลงมือทำงานได้ทันที โดยในวันนี้ได้แบ่งเป็นหัวข้อชุดนโยบายและแผนงานได้เป็น

1. "มีเราไม่มีเทา" รวมนโยบายและแผนงานเกี่ยวกับการปราบปรามอาชญากรรม สแกมเมอร์ ทุนเทา การคอร์รัปชัน และการสร้างรัฐโปร่งใส

2. "มีเรามีคุณภาพชีวิตดี" รวมนโยบายและแผนงานเกี่ยวกับการพัฒนาคุณภาพชีวิต การจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การนำเสนอนโยบายความมั่นคงในโลกยุคปัจจุบัน

3. "มีเรามีเศรษฐกิจใหม่" รวมนโยบายและแผนงานเกี่ยวกับการพัฒนาเครื่องจักรใหม่ทางเศรษฐกิจ การลงทุน

4. "มีเรามีประชาธิปไตย" รวมนโยบายและแผนงานเกี่ยวกับการพัฒนาระบบการเมือง รัฐธรรมนูญ การปฏิรูปกองทัพ การพัฒนาพิทักษ์สิทธิเสรีภาพ การกระจายอำนาจ และการพัฒนากระบวนการยุติธรรม

5. "มีเราประเทศไทยมีอนาคต" รวมนโยบายและแผนงานเกี่ยวกับการปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน รวมทั้งการอัปสกิล ยกระดับความรู้ ทักษะความสามารถของประชาชนให้เท่าทันโลกปัจจุบันและอนาคต

โดยณัฐพงษ์กล่าวต่อว่า ที่ตนพูดมาทั้งหมด ขอย้ำอีกครั้งว่าปัญหาของประเทศที่หมักหมมมานานพวกนี้ใครๆ ก็รู้ว่ามีอยู่ วันนี้มันหมดเวลาแล้วที่จะปล่อยปัญหาพวกนี้ต่อไป วันนี้ถึงเวลาของพรรคประชาชนที่สามารถเอาจริงกับมันได้ ด้วย 3 องค์ประกอบหลัก คือ 1.นโยบายที่ลงลึกไปถึงแผนการปฏิบัติ 2.ทีมที่มีความสามารถ เชื่อมือได้ และ 3.เจตจำนงทางการเมือง เรื่องนี้พวกเราเดินมาเกือบ 8 ปี ไม่ต้องพูดอะไรกันมากแล้ว ประชาชนรู้ดีว่าพวกเราเป็นฝ่ายค้านก็ทำงานเต็มที่ เมื่อเป็นรัฐบาลก็สามารถมั่นใจได้ว่าเราเอาจริงแน่นอน

Advertisement

แชร์
"เท้ง" ปลุกลูกพรรคเตรียมพร้อมเลือกตั้งลั่น "มีเรา ไม่มีเทา"