วันที่ 4 ต.ค. 68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยข้อมูลกรณี ปราสาทคนา ที่ตั้งอยู่บริเวณชายแดน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ว่า ปัจจุบันมีสภาพเป็นสิ่งปรักหักพัง หลงเหลือเพียงแนวกำแพงศิลาแลงสูงประมาณ 1.6 ม. ยาวประมาณ 25 ม.แนวเดียวเท่านั้น ส่วนตัวปราสาทตั้งอยู่บริเวณห่างจากขอบหน้าผามาทางฝั่งไทยประมาณ 100 ม. มีองค์ประกอบคือ สระน้ำ 2 แห่ง คือสระน้อยและสระใหญ่
บริเวณใกล้เคียงปราสาทต่ำลงไปทางขอบหน้าผามีฐานทหารกัมพูชา ตั้งอยูู่เป็นแนวไปทางทิศใต้ โดยมีฐานทหารของไทย โดย ฉก.ทพ.26 อยู่บริเวณใกล้เคียงปราสาทไปทางทิศเหนือ ควบคุมพื้นที่ 2 แห่งคือ ฐานสระใหญ่และฐานสระน้อย
พล.ต.วินธัย กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาฝ่ายไทย เข้าไปตรวจสอบสภาพพื้นที่เป็นประจำ เพื่อไม่ให้ฝ่ายกัมพูชา มีการไปปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อมไปใช้งานเป็นที่ตั้งสำหรับปฏิบัติการทางทหาร และบางครั้งฝ่ายกัมพูชาก็จะเข้ามาพบกับฝ่ายไทย โดยฝ่ายกัมพูชาไม่ได้มีทีท่าจะขยับคืบเข้ามาควบคุมบริเวณพื้นที่ซาก หรือกำแพงของปราสาท แต่อย่างใด
กระทั่งเกิดความขัดแย้งเหตุการณ์ปะทะกันที่ช่องบกเมื่อ พ.ค. 68 เกิดความตึงเครียดตลอดแนว ทั้งสองฝ่ายจึงยังไม่มีการเข้าไปบริเวณซากกำแพงโบราณสถานดังกล่าว
พล.ต.วินธัย กล่าวว่า สำหรับบันไดไม้ที่ฝ่ายกัมพูชาสร้างนั้น เป็นการสร้างเพื่อใช้สำหรับการส่งกำลังบำรุงขึ้นมายังฐานตรวจการณ์ที่อยู่บนแนวหน้าผา ซึ่งไม่ใช่สร้างเพื่อกิจกรรมการท่องเที่ยว ลักษณะของกำลังทหารกัมพูชาที่อยู่บนนั้นไม่มีท่าทีคุกคามเหมือนบางพื้นที่ และจุดเฝ้าตรวจของกัมพูชา ไม่มีลักษณะเป็นป้อมปราการทางทหาร เพื่อใช้สำหรับเตรียมการต่อสู้แต่อย่างใด
ซึ่งจากนี้ไปทางกองกำลังสุรนารีจะดำเนินการจัดระเบียบพื้นที่ชายแดนให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยเฉพาะในพื้นที่ๆ ไม่มีเหตุความตึงเครียดในช่วงที่ผ่านมา
Advertisement