วันที่ 28 ก.ย. ที่พรรคภูมิใจไทย นางสาวแนน บุณย์ธิดา สมชัย สส. อุบลราชธานี โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงการตั้ง ยุทธศาสตร์การอภิปรายของพรรคเพื่อไทยว่า “4เดือนยุบคดี4หายนะ” และการอภิปรายของพรรคประชาชนที่ทวงถามถึงไทม์ไลน์การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ตามMOA โดยกล่าวย้ำตามการให้สัมภาษณ์ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีที่พูดมาตลอด ว่านับแต่การแถลงนโยบายใน4 เดือน จะยุบสภาซึ่งตรงกับช่วงปลายเดือนมกราคม 2569
ส่วนการอภิปรายการแถลงนโยบายของรัฐบาล มองว่าแต่ละพรรคการเมืองก็จะต้องเตรียมบุคคลที่มาอภิปราย ส่วนเนื้อหาจะต้องพิจารณาว่าเป็นวาทกรรมหรือจะเป็นข้อมูลที่ชัดเจน และชี้ว่าวันที่ 29-30 กันยายนนี้เป็นวันแถลงนโยบาย
“เพราะฉะนั้นการแถลงนโยบายควรอยู่ในขอบเขตเนื้อหาว่านายกรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อรัฐสภาอย่างไร ทั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา ที่เป็นสมาชิกรัฐสภาทั้งหมดมีความเห็นต่อนโยบายอย่างไร ส่วนเนื้อหาอื่นที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการแถลงนโยบายต้องมองว่าเข้ากับวาระการประชุมสภาหรือไม่ หรือให้รออีกนิดนึงที่ฝ่ายค้านบอกว่าจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ” นางสาวแนนกล่าว
นางสาวแนนกล่าวต่อ กรณีฝ่ายค้านจะหยิบเรื่องคดีที่ดินเขากระโดงและคดีฮั้ว สว. รวมถึงคุณสมบัติรัฐมนตรีมาอภิปรายว่า จะต้องดูที่เนื้อหาว่าจะมีการอภิปรายอย่างไร แต่มั่นใจว่าในทุกการอภิปรายแถลงนโยบาย รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องตอบได้ทุกคำถาม
เมื่อถามว่า กรณีที่พรรคเพื่อไทยออกมาบอกว่าที่มาของสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร. )ของพรรคภูมิใจไทยไม่มีประชาชนอยู่ในสมการนั้น จะชี้แจงอย่างไร นางสาวแนน ถามกลับว่าพรรคเพื่อไทยได้อ่านทุกรายละเอียดทุกตัวอักษรที่พรรคภูมิใจไทยได้เสนอไปหรือไม่ เพราะส่วนสำคัญที่สุดคือส่วนที่มาของสสร.นั้น เปิดโอกาสให้ผู้แทนในแต่ละจังหวัดที่มีความสนใจสามารถมาสมัครเพื่อเป็นตัวแทนของแต่ละจังหวัดได้ซึ่งทั้งหมดกว่า 77 จังหวัด
“จะบอกว่าไม่ให้นั้นก็อาจจะไม่ใช่เพราะเราเปิดโอกาสให้ทุกคนที่มีความคิดมีความสามารถและพร้อมที่จะมาทำงานในการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่าสมัครเป็นตัวแทน หรือ สสร.ประจำจังหวัดได้” นางสาวแนนกล่าว
เมื่อถามย้ำว่ายืนยันว่ายังไงก็จะให้ประชาชนมีส่วนร่วมในสสร.ใช่หรือไม่ นางสาวแนน กล่าวว่า ถูกต้องเพราะเราก็ให้ประชาชนมาสมัคร สสร. ได้โดยตรง
เมื่อถามว่ากรณีที่ไม่มีการเลือกตั้งสสร.จะเป็นเสมือนการไม่ ยึดโยงกับประชาชนที่จะส่งตัวแทนเข้าร่วมนั้น นางสาวแนน กล่าวว่าหากจะบอกว่าการเลือกตั้งเป็น ตัวแทนทั้งหมดก็จะไม่สามารถพูดได้เต็มปาก เพราะสุดท้ายทุกๆคนเป็นตัวแทนของประชาชนไม่ได้หมายความว่าใครคนใดคนหนึ่งได้มาเป็นสสร.แล้วจะไม่ฟังเสียงประชาชน เพราะทุกคนก็เป็นประชาชนคนคนไทยเหมือนกัน ที่ใช้ชีวิตทั้งหมดภายใต้รัฐธรรมนูญ
Advertisement