(26 ก.ย. 2568) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงบประมาณเปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มีการพูดคุยกับ นายอนันต์ แก้วกำเนิด ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ รวมถึงได้ปรึกษากับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ถึงการใช้งบประมาณ ปี 2568 ที่จะสิ้นสุดปีงบประมาณในวันที่ 30 กันยายน นี้ ว่ามีงบฯเหลืออยู่ 60,000 ล้านบาท แบ่งเป็นงบกลางสำรองฉุกเฉิน
และอีกส่วนจะนำไปใช้ในโครงการคนละครึ่ง ในเฟสแรก โดยจะให้กลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐก่อน ประมาณ 13 ล้านคน วงเงินประมาณ 22,000 กว่าล้านบาท โดยจะให้เพิ่มเติมจากเดือนละ 300 บาท เพิ่มเป็น 2,000 บาท นอกจากนั้นจะเป็นกลุ่มบุคคลทั่วไป รวมไปถึงจะใช้งบประมาณในปี 2569 มาเพิ่มเติม ประมาณ 25,000 ล้านบาท
ส่วนอื่นจะเป็นของหน่วยงานที่ขอเข้ามา อาทิ หน่วยงานทหารในพื้นที่ชายแดนไทยกัมพูชา ประมาณ 500-700 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมี งบประมาณรายจ่ายประจำ ที่ตั้งไว้อย่างเงินเดือนข้าราชการประมาณ 3,000 ล้านบาท นอกจากนี้ยังเป็นงบประมาณในส่วนที่อนุมัติโครงการไปแล้วแต่ยังไม่ดำเนินการก็จะนำงบดังกล่าวมาใช้ เพื่อเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่ชายแดนไทย - กัมพูชา ซึ่งมีในส่วนที่ค้างท่ออยู่ประมาณ 1,580 ล้านบาท
นายภราดร กล่าวว่า น่าจะเหลือเงินงบประมาณปี 2558 ยังข้างท่อประมาณ 3.5 หมื่นล้าน จะนำไปใช้หนี้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ที่รัฐบาลเก่าก่อหนี้ไว้ รวมถึงโครงการพักหนี้เกษตรกร
เมื่อถามว่าโครงการคนละครึ่งเฟสแรก เริ่มช่วงใด นายภราดร กล่าวว่า คาดว่าในช่วงต้นเดือนตุลาคมน่าจะได้เริ่มโครงการแล้ว เนื่องจากขณะนี้กระทรวงการคลังกำลังเร่งดำเนินการพูดคุยกับ ครม. โดยคาดว่า จะดำเนินโครงการทั้งสิ้นจำนวน 20 ล้านสิทธิ์ ส่วนใครที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนคนละครึ่งเศษ 5 ก็จะต้องลงทะเบียนใหม่ โดยต้องถามรายละเอียดจากกระทรวงการคลังอีกครั้ง
Advertisement