Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
กัมพูชาฟ้องนานาชาติ ไทยไล่คนเขมรออกบ้านหนองหญ้าแก้ว-บ้านหนองจาน

กัมพูชาฟ้องนานาชาติ ไทยไล่คนเขมรออกบ้านหนองหญ้าแก้ว-บ้านหนองจาน

26 ก.ย. 68
08:29 น.
แชร์

กัมพูชาฟ้องนานาชาติ ไทยขยายขอบเขตความขัดแย้งอ้างหลักฐาน ขับไล่คนเขมรออกจาก บ้านหนองหญ้าแก้ว-บ้านหนองจาน 

วันที่ 26 ก.ย. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นาย ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา โพสต์ภาพเอกสารข่าวประชาสัมพันธ์ของ กระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศ บรรยายสรุปเกี่ยวกับพัฒนาการของปัญหาชายแดนกัมพูชา-ไทย ในหมู่บ้านเปรยจัน (บ้านหนองหญ้าแก้ว) และหมู่บ้านโจกโจย (บ้านหนองจาน) จ.บ็อนเตียย์เมียนเจ็ย ต่อคณะทูตและตัวแทนจากหน่วยงานต่างๆ ของสหประชาชาติ 

โดยมีรายละเอียดว่า นาง อีต โซเฟีย รักษาการ รมว.ต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ได้เข้าพบคณะทูต และตัวแทนจากหน่วยงานต่างๆ ของสหประชาชาติ เพื่อบรรยายสรุปเกี่ยวกับความคืบหน้าล่าสุดเกี่ยวกับปัญหาชายแดนกัมพูชา-ไทย การประชุมครั้งนี้มีผู้แทนจากกระทรวงและสถาบันอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมด้วย 

หลังจากการหยุดยิงมีผลบังคับใช้เมื่อเวลา 24.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) ของวันที่ 28 ก.ค. 68 และข้อตกลงเกี่ยวกับเงื่อนไขการหยุดยิงระหว่างกัมพูชาและไทย ในการประชุมวิสามัญของคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) เมื่อวันที่ 7 ส.ค. 68 กัมพูชาได้พยายามอย่างต่อเนื่องในการปฏิบัติตามข้อตกลง ความพยายามเหล่านี้ส่งผลให้การประชุมคณะกรรมการชายแดนระดับภูมิภาค (RBC) 4 ครั้ง และการประชุมพิเศษครั้งแรกของ GBC ประสบความสำเร็จ 

ในการประชุมทั้งหมดนี้ กัมพูชาได้แสดงให้เห็นถึงความปรารถนาดีอย่างต่อเนื่องในการแสวงหามาตรการที่เป็นรูปธรรมเพื่อลดความตึงเครียด สร้างความเชื่อมั่นร่วมกัน และฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศและประชาชนให้เป็นปกติ กองกำลังประสานงานร่วมเพื่อปฏิบัติการด้านมนุษยธรรมและปราบปรามอาชญากรรมข้ามพรมแดนของทั้งสองประเทศได้พบกัน และบรรลุผลลัพธ์ที่สำคัญหลายประการ ซึ่งสอดคล้องกับเจตนารมณ์ของการประชุม GBC พิเศษครั้งแรก และได้เน้นย้ำว่า กัมพูชายังคงมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ในการประสานงานอย่างต่อเนื่อง โดยให้ฝ่ายไทยจัดการประชุม RBC ในเวลาที่เหมาะสม แม้ว่าไทยจะมีการปรับตัวและเปลี่ยนแปลงผู้นำทางทหารในภูมิภาคก็ตาม 

แม้จะมีพัฒนาการเชิงบวกเหล่านี้ แต่รองโฆษกกองทัพบก , องค์การบริหารส่วนจังหวัดสระแก้ว และสื่อมวลชนไทยบางสำนัก ได้นำเสนอและเผยแพร่ภาพถ่ายดาวเทียมสาธารณะ และแผนที่ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งแสดงตำแหน่งของเสาหลักเขตแดนในพื้นที่ ‘บ้านเปรยจัน’ และ ‘บ้านโจกเจย’ ตำบลโอเบยโชน อำเภอโอชรอฟ จังหวัดบ็อนเตียย์เมียนเจ็ย การนำเสนอเหล่านี้ยังใช้เอกสารทวิภาคี และข้อมูลอื่นๆ บางส่วน ทำให้เกิดความเข้าใจผิดเกี่ยวกับสถานการณ์บริเวณเส้นแบ่งเขตแดน 

ข้อเท็จจริงนี้มีผลสนับสนุนการขยายขอบเขตของความขัดแย้ง และเป็นข้ออ้างในการสร้างความตึงเครียด โดยการขับไล่พลเรือนชาวกัมพูชาออกจากบ้านเรือนและที่ดินที่พวกเขาอาศัยอยู่และพึ่งพาอาศัยมานานหลายทศวรรษอย่างผิดกฎหมาย

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อวันที่ 19 ก.ย. 68 เพจเฟซบุ๊ก "Royal Thai Army: Update" ได้เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับกรณีชายแดนเดียวกัน โดยระบุข้อมูลที่ไม่ถูกต้องว่า หัวหน้าคณะสำรวจร่วมกัมพูชา-ไทย ได้แก่ H.E. Lay Siengly และพลเอก Chhakan Bunphakdy ได้ลงนามรับรองเขตแดนในพื้นที่หมู่บ้านเปรยจัน ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างเสาหลักชายแดนหมายเลข 42 และ 43 อย่างเป็นทางการระหว่างปี 59 และ 60 สำนักงานเลขาธิการรัฐว่าด้วยกิจการชายแดนได้ออกแถลงการณ์ปฏิเสธข้อเรียกร้องดังกล่าวเมื่อวันที่ 20 ก.ย. 68 

แม้จะใช้เส้นแบ่งเขตแดนที่ไม่เป็นทางการ ซึ่งไทยได้วาดไว้ฝ่ายเดียวบนภาพถ่ายดาวเทียม ระหว่างเสาหลักชายแดนที่ 42 และ 43 และเสาหลักชายแดนที่ 44 และ 47 สถานการณ์จริงบนพื้นดินก็แสดงให้เห็นชัดเจนว่า พลเรือนไทยกำลังยึดครองและแสวงประโยชน์จากดินแดนชายแดนฝั่งกัมพูชา

โดยตระหนักถึงความซับซ้อนและความละเอียดอ่อนของปัญหาชายแดน ได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการจัดการปัญหาเหล่านี้อย่างรอบคอบและแม่นยำ ควบคู่ไปกับการยึดมั่นในหลักการและข้อตกลงที่ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุไว้ก่อนหน้านี้ ในเรื่องนี้ได้เรียกร้องให้มีความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างกัมพูชาและไทย โดยปฏิบัติตามเจตนารมณ์ของการประชุม GBC สมัยพิเศษ เมื่อวันที่ 10 ก.ย. 68 วาระการประชุมย่อยข้อ 8.1 ซึ่งทั้งสองฝ่ายเห็นพ้อง ที่จะส่งต่อข้อพิพาทที่เกี่ยวข้องหมู่บ้านเปรยจัน และหมู่บ้านโจกเจย ให้คณะกรรมการกำหนดเขตแดนร่วม (JBC) พิจารณาเป็นกรณีเร่งด่วน 

การประชุม GBC เดียวกันนี้ ยังได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดบ็อนเตียย์เมียนเจ็ย (กัมพูชา) และผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว (ประเทศไทย) ร่วมกันจัดการสถานการณ์ในพื้นที่โดยสันติวิธี รวมถึงการยุติกิจกรรมใดๆ ก็ตามที่อาจทำให้เกิดข้อพิพาทรุนแรงขึ้นหรือความตึงเครียดเพิ่มขึ้น ในระหว่างรอข้อยุติจาก JBC 

นาง อีต โซเฟีย ได้ยืนยันถึงความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ของกัมพูชาในการรักษาและปฏิบัติตามเงื่อนไขการหยุดยิงและข้อตกลงทั้งหมดที่ได้ตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้ ควบคู่ไปกับการยึดมั่นอย่างเคร่งครัดต่อหลักการในการแก้ไขข้อพิพาททั้งหมดด้วยสันติวิธี ความมุ่งมั่นนี้ มีพื้นฐานอยู่ในกฎหมายระหว่างประเทศ และบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการสำรวจและกำหนดเขตแดนทางบกระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรกัมพูชาและรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย (MOU 2000) ซึ่งยังคงเป็นสนธิสัญญาที่มีผลผูกพันระหว่างสองประเทศ 

โดยสรุปได้แสดงความขอบคุณอย่างจริงใจต่อคณะทูตและตัวแทนจากหน่วยงานต่างๆ ของสหประชาชาติ สำหรับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องต่อการหยุดยิงระหว่างกัมพูชาและไทย พร้อมขอบคุณพวกเขาที่สนับสนุนให้ทั้งสองฝ่ายแก้ไขข้อพิพาทโดยสันติวิธีตามกฎหมายระหว่างประเทศ หลีกเลี่ยงการใช้กำลังหรือข่มขู่คุกคาม และร่วมกันฟื้นฟูความสัมพันธ์ทวิภาคีให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว เพื่อผลประโยชน์สูงสุดของทั้งสองประเทศและประชาชน

Advertisement

แชร์
กัมพูชาฟ้องนานาชาติ ไทยไล่คนเขมรออกบ้านหนองหญ้าแก้ว-บ้านหนองจาน