วันที่ 25 ก.ย.2568 ภายหลังจากเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นายปิฎก สุขสวัสดิ์ สามี เดินทางเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ชินวัตร ภายในเรือนจำกลางคลองเปรม (ครั้งที่ 4) จากนั้น น.ส.แพทองธาร ได้เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า ผบ.เรือนจำ แจ้งว่าจะให้นายทักษิณไปช่วยคุมงานการลอกท่อ ตามที่มีการรายงานข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ ผบ.เรือนจำจังหวัดนนทบุรี ในฐานะรองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า นายทักษิณ ได้พูดคุยและแจ้งความประสงค์กับผู้บัญชาการเรือนจำกลางคลองเปรม ว่า หากเป็นไปได้ก็อยากช่วยงานสาธารณะ (ลอกท่อ) เพื่อประโยชน์ของกรมราชทัณฑ์ ซึ่งการพิจารณาส่งนักโทษเด็ดขาดออกไปทำงานสาธารณะ (ลอกท่อ) ต้องปฏิบัติตามระเบียบกรมราชทัณฑ์ ว่า ด้วยการส่งนักโทษเด็ดขาดออกทำงานสาธารณะหรือทำงานอื่นใดเพื่อประโยชน์ของทางราชการนอกเรือนจำ พ.ศ. 2566 ที่ได้กำหนดเงื่อนไขและคุณสมบัติของนักโทษเด็ดขาดตามนัยของกฎหมายฉบับนี้โดยสังเขป
1.เป็นนักโทษเด็ดขาดชั้นดีขึ้นไป กำหนดโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ต้องจำคุกมาแล้วระยะเวลาไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 (การมีโทษ 1 ปี ต้องจำคุกมาแล้วไม่น้อยกว่า 4 เดือน)
2.ต้องโทษจำคุกครั้งแรก
3.การคัดเลือกนักโทษเด็ดขาดให้ออกไปทำงานจะต้องคำนึงถึงพฤติการณ์การกระทำผิด ลักษณะความผิด ความรุนแรงของคดี
4.ด้านข้อมูลบุคคล ให้คำนึงถึงอายุ ประวัติ ความประพฤติ สุขภาพหรือความแข็งแรงของร่างกาย
นางกนกวรรณ รองโฆษกกรมราชทัณฑ์ ยังเผยถึงข้อดีในการออกปฏิบัติงานสาธารณะ ว่า
1.เป็นการสร้างตัวอย่างที่ดี ในการใช้ความมานะอุตสาหะ ทำความดีเพื่อตอบแทนสังคม หรือชดเชยการกระทำความผิด
2.ช่วยให้เกิดการประชาสัมพันธ์ภารกิจของกรมราชทัณฑ์ ด้านการทำงานสาธารณะต่อประชาชน ดังนั้น ถ้ามีคุณสมบัติครบถ้วนตามระเบียบ เรือนจำอาจพิจารณานำเข้าคณะกรรมการชั้นเรือนจำ เพื่อเสนอคณะกรรมการชั้นกรมราชทัณฑ์พิจารณาอีกครั้ง
Advertisement