พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวถึงกรณี นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่บอกว่าพร้อมร่วมงานกับทหาร ว่า ตนมองว่าการเมืองกับทหารก็ต้องไปด้วยกัน โดยรัฐบาลกำหนดทิศทางเพื่อให้ทหารดำเนินการได้ชัดเจน เพราะสิ่งที่ทหารคิดและทำ มีผลกระทบรุนแรงต่อประเทศ ในทาง ภาษาวิชาการเครื่องมือทางทหารคือเครื่องมือสุดท้ายที่ประเทศควรจะใช้ เรายังมีเครื่องมืออื่นๆที่สามารถบีบเขาได้เยอะ เมื่อเราเดินมาถึงขั้นนี้แล้วมีการหยุดยิงเพื่อหาข้อยุติ โดยใช้วิธีทางอื่นซึ่งเป็นเรื่องที่ดี การนำเครื่องมือทางทหารมาใช้จะมีผลกระทบรุนแรงต่อทั้ง 2 ประเทศ อาจจะลามไปถึงประเทศที่สนับสนุนและไม่สนับสนุน ที่อยากให้เหตุการณ์บานปลาย เราจึงต้องใช้เครื่องมือให้อยู่ในระดับที่พอดี ได้เปรียบในการเจรจา
เมื่อถามย้ำว่ากองทัพต้องยึดหลักการอยู่ภายใต้รัฐบาลพลเรือนใช่หรือไม่พลเรือเอก จิรพล กล่าวว่า ทุกประเทศอยู่ในหลักการนี้ ซึ่งหลักการชัดอยู่แล้วว่าทหาร พลเรือน นักการเมือง ผู้ปกครองประเทศ มีหน้าที่ต้องดูทุกเรื่องของประเทศ ทหารเป็นแค่เครื่องมือหนึ่งของประเทศเท่านั้น เครื่องมือที่ไม่ควรใช้พร่ำเพรื่อ ใช้เมื่อมีเหตุสำคัญจริงๆเท่านั้น
ส่วนเรื่องการแก้ข้อตกลงโครงการเรือดำน้ำ มีผลต่อท่าทีของจีนในจุดยืนต่อไทย-กัมพูชา หรือไม่นั้นพลเรือเอก จิรพล ระบุว่า ต่างประเทศในเรื่องนี้ ทุกประเทศในโลกไม่อยากเห็นการต่อสู้เพิ่มอีกจุดหนึ่ง และมีสงครามที่ยืดเยื้อ มีผลกระทบต่อเนื่องทุกๆประเทศ เช่น รัสเซีย-ยูเครน , ในอิสราเอล เป็นต้น การขยายความขัดแย้งไปสู่การทำสงคราม มีผลกระทบต่อทุกประเทศ การเพิ่มจุดความขัดแย้ง ซึ่งความขัดแย้ง ในแต่ละประเทศก็จะมีจุดยืน ประเทศที่รักสงบ ก็มองว่าไม่ควรจะมีอยู่แล้ว แต่กลุ่มหรือองค์กรก็ชอบให้มีสงครามก็ได้ ก็ต้องวิเคราะห์ว่า สงครามทำร้ายใครและให้ประโยชน์ใคร
ส่วนเรื่องของ เรือดำน้ำมีผลทางยุทธศาสตร์ของจีนหรือไม่ ผบ.ทร. กล่าวว่า เป็นแค่การปรับแก้สัญญา เพื่อให้โครงการเดินต่อได้ เราทำตามที่รัฐบาลอนุมัติ ส่วนจะมีผลต่อยุทธศาสตร์กองทัพเรือหรือไม่ เป็นอีกมิติหนึ่งที่กองทัพเรือจะต้องดูแลขีดความสามารถใต้น้ำ
เมื่อถามถึงกรณีที่ สมเด็จฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชาจะขอจีนไม่ให้ขายเรือดำน้ำให้ไทยนั้น พลเรือเอก จิรพล กล่าวว่า "มั่วครับ กริพเพ่นก็ไม่ยอมให้ขาย เรือดำน้ำก็ไม่ให้ขายเขาคงกลัว ซึ่งเป็นข้อดีของการแยกระหว่างการเมืองระหว่างประเทศและข้อขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา"
Advertisement