นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังหารือกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ว่า วันนี้ได้มาพูดคุยกับประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และคณะกรรมการวันนี้ได้มีโอกาสมาแนะนำตนเอง ซึ่งปกติคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว วันนี้ถือโอกาสมารับฟัง สิ่งที่ภาคอุตสาหกรรมต้องการ รวมถึงปัญหาและข้อกังวลสิ่งที่ต้องการให้รัฐบาล ได้เร่งแก้ไขปัญหา ถือว่าใช้เวลาหารือกันนานพอสมควร รวมถึงศักยภาพของประเทศ การเปลี่ยนแปลงรูปแบบอุตสาหกรรมของประเทศไทย การค้าที่มีการแข่งขันเพิ่มมากขึ้น รวมถึงปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา และเรื่องของการทำให้ความเข้มแข็งในกลุ่มประเทศอาเซียน และทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการขยายตัวทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม
ส่วนปัญหาชายแดนเป็นอุปสรรคกับภาคอุตสาหกรรม หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ยอมรับว่ามีบ้างแต่ก็ได้ชี้แจงให้ทราบชัดเจน ว่าช่วงนี้ยังคงไม่มีการดำเนินการเปิดด่าน อย่างแน่นอน ซึ่งจะต้องใช้วิธีการทางการทหารและการทูต ควบคู่กันไปในเวลาเดียวกัน แต่ต้องหลังจากที่รัฐบาลเริ่มทำงานแล้ว
ส่วนเรื่องค่าเงินบาทที่กำลังแข็งค่าในตอนนี้เป็นอุปสรรคด้วยหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องเร่งแก้ไขเรื่องนี้ ซึ่งในวันนี้ (15 ก.ย. 2568) ในช่วงบ่าย นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาส ว่าที่รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะประชุมหารือกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
ทั้งนี้ ได้มีการตรวจสอบการส่งออกทองคำ หรือยัง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้มอบหมายให้นายเอกนิติไปตรวจสอบข้อเท็จจริง หากพบว่ามีอะไรผิดปกติก็จะดำเนินการ
ส่วนมาตรการ นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ นายอนุทิน กล่าวว่าตอนนี้ยังไม่ได้เข้าไปทำงาน แต่เป็นสิ่งที่เราเตรียมพร้อม
"หลังไมค์เราเตรียมพร้อม เมื่อเราสามารถเข้าไปบริหารราชการแผ่นดินได้ตามเวลาที่กำหนด จะดำเนินการทันที"
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ประชาชนค่อนข้างคาดหวังกับโครงการคนละครึ่ง ทั้งนโยบาย 60 - 40 และ 50 - 50 ที่จะสามารถเปิดกระเป๋ารอได้เลยหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ย้ำว่า รอได้ครับ รอได้ครับ ซึ่งในรายละเอียดก็จะให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นำชี้แจงกับประชาชน ในเรื่องของแผนดำเนินการที่ได้วางไว้ ในวันที่เราเข้ามาบริหารราชการแผ่นดินอย่างเต็มตัว แต่เราย้ำว่าจะดำเนินการตามนโยบายให้เร็วที่สุด
ส่วนที่ คณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมือง การมีส่วนร่วมของประชาชน สิทธิมนุษยชน สิทธิ เสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา เรียกร้องให้ชะลอการทำโครงการแลนด์บริดจ์ และผลักดันร่างราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ระเบียงเขตเศรษฐกิจภาคใต้ หรือ SEC ผ่านการรับฟังความเห็นอย่างรอบด้าน นายอนุทิน ว่า ตนฟังทุกฝ่ายอยู่แล้ว จะพิจารณาแค่มิติเรื่องการลงทุน และความคุ้มค่าอย่างเดียวไม่ได้ ต้องมองถึงอนาคตด้วย รวมถึงสิ่งที่จะทำให้เกิดการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศด้วย ดังนั้น ต้องมองหลายมิติร่วมกัน เราอยู่ในสภาพภูมิรัฐศาสตร์ที่ได้เปรียบอยู่แล้ว ต้องใช้ความได้เปรียบตรงนี้ก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับประเทศ เราอยู่ตรงกลางเป็นไข่แดงของอาเซียน จึงมีโอกาสมากมายที่จะใช้ข้อได้เปรียบเหล่านี้ เพื่อสร้างการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และมิติอื่นๆ อีกมาก
ส่วนที่ภาคเอกชนมีการขอแผนการรองรับ ไว้อย่างไรบ้าง นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้มีการพูดคุยหารือ แต่ในรายละเอียด ขอให้รอทางประธานสภาอุตสาหกรรมฯ เป็นผู้ชี้แจง
Advertisement