"สุทิน" ไม่สบายใจหนุน "อนุทิน" ชี้มีโลกวัชชะ โลกติติงและโลกติเตือน
"สุทิน" ไม่สบายใจหนุน "อนุทิน" ชี้มีโลกวัชชะ โลกติติงและโลกติเตือน- ปัณณัตติวัชชะ กระบวนการกฎหมายคดีฮั้วสว. เขากระโดง ยังไม่ยุติ
วันที่ 5 ก.ย. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 26 ปีที่ 3 ครั้งที่ 20 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) เป็นพิเศษ วาระสำคัญคือการพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 159 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย หรือการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 ของไทย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ซึ่งมีผู้ถูกเสนอชื่อโหวต 2 คนคือ นาย ชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย และนาย อนุทิน ชาญวีรกูล แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคภูมิใจไทย โดยมีการเปิดให้ สส.ร่วมกันอภิปรายก่อนลงมติ
ทั้งนี้นาย สุทิน คลังแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมีส่วนสำคัญกับชีวิตคนไทย และหน้าตาความน่าเชื่อถือของประเทศ ตนไม่ติดใจว่าใครจะได้เป็น ยิ่งเป็นคนในสภาผู้แทนราษฎรตนยิ่งสนับสนุน แต่สิ่งที่ผู้แทนในสภาผู้แทนราษฎรต้องคำนึงมากคือ แม้เราอยากให้พวกเราได้เป็น เราไม่ขัดข้อง แต่ประการแรกต้องคัดเอาคนที่สง่างามที่สุดของสภาฯ เพื่อศักดิ์ศรีและเกียรติยศของสภาฯ ไม่ให้สถาบันอื่นมาดูได้ ว่าสภาฯ แห่งนี้เลือกตัวแทนเป็นนายกรัฐมนตรีใช้ไม่ได้
นอกเหนือความสง่างาม และเกียรติยศของสภาฯ ต้องเป็นที่ยอมรับของต่างชาติ เพราะความเชื่อถือของเขามีผลต่อชีวิตของคนไทย ความสง่างามและการยอมรับที่ตนกล่าวถึง เรามีกฎหมายคือเรื่องคุณสมบัติ และยังมีการบัญญัติเพิ่มว่าเรื่องของโลกติติงเป็นสิ่งสำคัญ แม้ไม่บัญญัติในข้อกฎหมายแต่บัญญัติในส่วนของจริยธรรมขึ้นมา ซึ่งมาตรฐานทางข้อกฎหมาย และมาตรฐานจริยธรรมต้องถูกต้อง ต้องคำนึงถึงการเลือกบุคคลขึ้นมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และกระบวนการต้องสำคัญแม้แต่บุคคลดีความสง่างาม แต่กระบวนการต้องธำรงรักษาระบบรัฐสภาฯ ไว้ หลังจากที่ได้ฟังนายจตุรนต์ ฉายแสง และนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว พูดแล้วไม่สบายใจอย่างยิ่งว่า การที่ได้มาซึ่งนายกรัฐมนตรี ต้องลงทุนด้วยการทำลายระบบรัฐสภา ทำให้มาตรฐานสภาตกต่ำและสร้างความยุ่งเหยิงต่อไป
สำหรับความชอบธรรมด้านกฎหมายและจริยธรรม คนที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีกฎหมายเขียนไว้ชัด มีการตรวจสอบทั้งนายชัยเกษมและนายอนุทิน ดูไม่มีปัญหาโดยเฉพาะนายชัยเกษมที่เรียบร้อยบริสุทธิ์ แต่นายอนุทิน ตนไม่สบายใจในคุณสมบัติข้อกฎหมาย ที่จะมีปัญหาตามมาแน่นอน
คือ เรื่องคดีฮั้วสว. ซึ่งเป็นคนถูกแจ้งความดำเนินคดี และไปรับทราบข้อกล่าวหา และขณะนี้คดีอยู่ในชั้นของคณะกรรมการการเลือกตั้ง และอีกข้อสำคัญคือการร่วมทำ MOA หมิ่นเหม่ต่อการขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ จึงมีความเป็นห่วงว่าตัวแทนที่จะไปเป็นนายกรัฐมนตรี แต่ชอบด้วยกฎหมายและจริยธรรมหรือไม่ เช่น ในทางศาสนาผลที่จะบวช และบวชแล้วจะอยู่ในสมณเพศได้หรือไม่ หรือจะต้องถูกจับสึก มีโทษสองอย่าง คือ โลกวัชชะ ถ้าโลกติติงและโลกติเตือนแล้วนั้น ไม่ควรบวช หรือบวชแล้วต้องสึก และปัณณัตติวัชชะ ข้อกฎหมายหรือวินัยสงฆ์ต้องได้
ซึ่งสองคนมีการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีในวันนี้ ตนไม่ได้ลำเอียง โดยนายชัยเกษม ไม่มีทั้งโลกะวัชชะ และปัณณัตติวัชชะ ขณะที่นายอนุทิน ตนมีข้อกังขาเรื่องคดี ซึ่งอยากถามประธานสภาฯ ว่าหากนายอนุทิน ได้ยอมรับจากสภาฯ และต้องนำชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ และส่งลงพระปรมาภิไธย ทราบหรือไม่ว่าข้อตกลง และหนังสือเวียนสำนักพระราชวัง ได้ทำกับหน่วยงานรัฐบาลต่างๆ ซึ่งความที่จะนำขึ้นกราบบังคมทูล ถ้ามีปัญหาในข้อกฎหมายต้องเป็นที่ยุติในข้อกฎหมายเสียก่อน ไม่เช่นนั้นจะเป็นเรื่องมิบังควร และระคายเคืองเบื้องพระยุคลบาท ซึ่งคดีฮั้ว สว. ยุติแล้วหรือไม่ ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนข้อกฎหมาย หากประธานฯ กล้านำความขึ้นกราบบังคมทูล นั่นถือเป็นความรับผิดชอบของประธาน และความรับผิดชอบของสภาฯ ก็ต้องคิดว่าทุกคนอยู่ที่นี่ การที่จะส่งชื่อมีมติว่าจะเอาคนที่มีข้อยุติทางกฎหมายแล้วหรือยัง และคดีข้อกฎหมายนี้เป็นโลกวัชชะ คือฮั้ว สว. และเขากระโดง จึงถามว่าสภาฯ จะกล้าลงมติหรือไม่ หรือประธานจะกล้านำขึ้นทูลเกล้าหรือไม่ ตนไม่ได้ขัดข้อง นายอนุทินกับตนรักและเคารพกัน ช่วยเหลือเกื้อกูลกันในหลายโอกาส แต่ถ้าสำหรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เป็นเรื่องของประชาชนและประเทศชาติ ชีวิตปากท้องของทุกคน
นายสุทิน ระบุว่า ซึ่งตามกระบวนการที่พูดมาและยิ่งทำให้ไม่สบายใจมาก เมื่อคนจะขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี มีเรื่องดังที่นายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยพูด 1,500 -2,000 ล้าน แม้ความจริงจะยังไม่พิสูจน์ แค่หากเป็นพระ มีโลกวัชชะ จะต้องถูกจับสึกเพียงพอโลกติติง ซึ่งหาคนที่เป็นนายกรัฐมนตรี และมีเรื่องแบบนี้จะสง่างามหรือไม่ จะถูกดูแคลน ยิ่งเสื่อมลง คนยิ่งจะด้อยค่า แล้วเราจะไม่ใช้โอกาสนี้ในการด้อยค่าเราเอง หรือจะทำให้พวกเราสูงส่ง และขั้นตอนสำคัญที่เป็นห่วงมาก คือการนำชื่อบุคคลอย่างมีข้อปัญหาและยังไม่ยุตติ และวันนี้สส. ได้ยื่นศาลรัฐธรรมนูญเรื่องการครอบงำ รวมถึงศาลรัฐธรรมนูญได้รับไว้แล้ว จะเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย จึงต้องหาข้อยุติเช่นเดียวกัน และหากยังไม่ได้ข้อยุติจะเลือกหรือไม่ในวันนี้ ซึ่งเป็นหน้าที่ของประธานฯ ต้องคิด และจะลงให้ใครก็ต้องคิด ซึ่งในวันนี้มี 2 ที่เป็นตัวแทนให้เลือก ซึ่งหากไม่สบายใจกับนายอนุทิน ก็ต้องเลือกนายชัยเกษม ซึ่งประธานสภาฯ สามารถนำขึ้นเกล้าฯ ได้พวกเราก็ไม่ใจหายใจคว่ำ จึงสรุปว่าที่จะสนับสนุนนายชัยเกษม และไม่เห็นด้วยกับนายอนุทิน
Advertisement
