วันที่ 2 ก.ย. 68 นายศักดิ์เกษม นิไทรโยค ผู้ตรวจการอัยการ ในฐานะโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงานอัยการสูงสุด โดยสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดียาเสพติด 9 สำนักงานคดียาเสพติด ได้รับสำนวนจากกองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด คดีระหว่าง พ.ต.ท.หญิง ลัดดาวัลย์ ฉินประสิทธิชัย ผู้กล่าวหา และ พ.ต.ท.หญิง อัญชุลี ธีระวงศ์ไพศาล หรือ หมอแอร์ กับพวก 23 คน ผู้ต้องหาฐานสมคบโดยการตกลงตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดและได้มีการกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด เพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน
ร่วมกันจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ (โซลพิเดม อัลพราโซแลมและฟลูไนตราซีแพม) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนและร่วมกันจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 4 (โคลซีนาแพมและคลอราซีเพต) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต และเป็นข้าราชการกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด เมื่อวันที่ 28 ส.ค.2568
ซึ่งผู้ต้องหาที่ 1 จะครบกำหนดฝากขังสุดท้ายในวันที่ 2 ก.ย. 68 และคณะทำงานฯ พิจารณาสำนวนแล้วพบว่า พนักงานสอบสวนยังมิได้ทำการสอบสวนคดีในส่วนสาระสำคัญให้เสร็จสิ้นกระแสความ การสอบสวนคดีนี้จึงยังมิได้เสร็จสิ้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 140 จึงส่งสำนวนคืน เพื่อให้พนักงานสอบสวนทำการสอบสวน รวบรวมพยานอันเป็นสาระสำคัญให้เสร็จสิ้นครบถ้วน และส่งสำนวนการสอบสวนให้พนักงานอัยการดำเนินการตามกฎหมายต่อไปโดยด่วนก่อนครบกำหนดฝากขังสุดท้ายภายในกำหนดวันที่ 1 ก.ย. 68 ก่อนเวลา 13.00 น.นั้น
ต่อมากองบังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติม และส่งสำนวนการสอบสวนกลับมายังสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดียาเสพติด 9 สำนักงานคดียาเสพติด คณะทำงานฯ ได้พิจารณาสำนวนการสอบสวนมีความเห็นสั่งฟ้อง
พ.ต.ท.หญิง อัญชุลี หรือ หมอแอร์ ที่ 1 พร้อมพวกรวม 12 ราย ฐานสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดและได้กระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดเพราะเหตุที่ได้สมคบกัน ร่วมกันจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 (อัลพราโซแลม, ฟลูไนตราซีแพม, ซูโดเอฟิดรีน และโซลพิเดม) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายและขายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และร่วมกันจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 4 (โคลนาซีแพม คลอราซีเพตและลอราซีแพม) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายและขายโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย
สั่งฟ้องผู้ต้องหาที่ 1 ฐานเป็นข้าราชการกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด และสั่งฟ้อง ผู้ต้องหาที่ 5 ฐานสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดและได้กระทำความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติดเพราะเหตุที่ได้สมคบกัน ร่วมกันจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 (อัลพราโซแลม, ฟลูไนตราซีแพม, ซูโดเอฟิดรีน และโซลพิเดม) โดยการมีไว้ เพื่อจำหน่ายและขายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนตามประมวลกฎหมายยาเสพติด
มาตรา 1, 23, 30, 94, 125,127, 134, 149, 152 , 180 และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยสำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดียาเสพติด 9 สำนักงานคดียาเสพติด จะได้ยื่นฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 12 ต่อศาลอาญาในวันนี้ ซึ่งเป็นวันที่ครบกำหนดฝากขังครั้งสุดท้าย
Advertisement