นายบัญชา เขียวต่าย เลขาธิการสถาบันนิติวัชร์ สำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวว่า จากสถิติที่ผ่านมาพบว่าในประเทศไทยมีผู้เสียหายจากอาชญากรรมการหลอกลวงของแก๊งคอลเซ็นเตอร์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นเหตุให้ประชาชนสูญเสียทรัพย์สินและก่อให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจเป็นมูลค่ามหาศาล แม้จะมีความพยายามในการเผยแพร่ความรู้ นำเสนอข่าว และเตือนภัยเกี่ยวกับ “อาชญากรรมแก๊งคอลเซ็นเตอร์” อย่างแพร่หลาย แต่ประชาชนส่วนหนึ่งก็ยังขาดความรู้ ความเข้าใจ และทักษะในการป้องกันตนเอง โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง เช่น เด็ก เยาวชน ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับเทคโนโลยี ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของกลุ่มมิจฉาชีพดังกล่าว
สถาบันนิติวัชร์ สำนักงานอัยการสูงสุด ซึ่งจัดตั้งขึ้นมาโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนากระบวนการยุติธรรมของประเทศไทยในภาพรวมบนหลักการและแนวคิดที่สอดคล้องกับมาตรฐานสากล ไม่จำกัดแต่เฉพาะในส่วนของสำนักงานอัยการสูงสุด แต่มุ่งสร้างองค์ความรู้ ความเชื่อมโยง และประสานความร่วมมือของแต่ละองค์กรในกระบวนการยุติธรรมไทยเพื่อให้สามารถอำนวยความยุติธรรมแก่ประชาชนได้อย่างแท้จริง ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของปัญหาดังกล่าวจึงได้จัดโครงการสัมมนาวิชาการ เรื่อง "รู้ว่าหลอก จะได้ไม่โดนคอลเซ็นเตอร์หลอก" ขึ้น เพื่อสร้างความตระหนักรู้และภูมิคุ้มกันให้กับประชาชน
สำหรับโครงการสัมมนาวิชาการ เรื่อง "รู้ว่าหลอก จะได้ไม่โดนคอลเซ็นเตอร์หลอก" ซึ่งจัดขึ้นในวันนี้ (18 มิถุนายน 2568) ได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้เชี่ยวชาญ ได้แก่ "รองจ๋อ" พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล "สารวัตรแจ๊ะ" พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ สารวัตรกองกำกับการสืบสวน 3 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจนครบาล "อัยการณัฐ"นายณัฐพล กิตติตระกูล รองอัยการจังหวัดนครปฐม ร่วมถ่ายทอดข้อมูลจากประสบการณ์ทำงานจริงในคดีที่เกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ รวมทั้งผู้เสียหายที่ตกเป็นเหยื่อที่ได้มาเปิดเผยกลโกงของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยมี "อัยการเบอร์ดี้" นางสาวกนกรัตน์ ธรรมพนิชวัฒน์ เป็นผู้ดำเนินรายการ ณ ห้องประชุม 120 ปี สำนักงานอัยการสูงสุด อาคารราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ ถนนแจ้งวัฒนะ และถ่ายทอดผ่านเฟซบุ๊กของสถาบันนิติวัชร์ด้วย
Advertisement