วันที่ 20 ส.ค. พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผย ถึงผู้สังเกตการณ์ IOT และ AOT ว่า IOT ใช้กลไกภายในประเทศ คนในประเทศไทย และจากอาเซียน เช่น ผู้ช่วยทูตทหาร เสมียนทูต ถ้าจะเอาคนจากประเทศต้นกำเนิด มาเพื่มเติม อย่างที่ยกตัวอย่างเมื่อวานนี้ว่า นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ขอคนมาเพิ่ม เราจึงบอกว่า ยังไม่ได้ เพราะเราใช้กลไก IOT อยู่ หากจะขอเพิ่มเติมต้องดึงเจ้าหน้าที่ในสถานทูต ซึ่งไม่ใช่ทูตทหาร มาช่วยได้ แต่เอาคนเพิ่มมายังไม่ได้ การพูดคุยต้องมีกรอบ ไม่ใช่นึกอยากจะทำก็ทำ
ส่วน AOT จะเริ่มมีคนจากประเทศนั้น ๆ เข้ามาแล้ว เช่น ผู้ช่วยทูตทหารมาเลเซีย เขาอาจจะขอกำลังเข้ามาเพิ่ม ซึ่งตรงนั้นเราคิดหนัก เราจึงบอกว่า เรื่องนี้มีกฎหมายแต่ละประเทศ โดยเฉพาะประเทศไทยหากใช้ AOT กระทรวงการต่างประเทศกำลังศึกษาอยู่ ซึ่งเมื่อวานนี้ (19 ส.ค.68) กระทรวงการต่างประเทศชี้แจงว่าอย่างน้อยต้องเข้า ครม. ให้ครม.อนุมัติ แต่หลายฝ่ายก็ห่วงใยว่าต้องเข้าสภาฯ หรือไม่
พลเอก ณัฐพล ระบุอีกว่า ลองนึกดูว่าการที่จะจัด AOT เข้ามาต้องมีการร่าง TOR เมื่อไทยและกัมพูชาตกลงกันได้แล้วก็ต้องกลับมาเข้าสภาฯ ทั้งของไทยและกัมพูชา หากสภาฯ ไทย เห็นด้วย แต่กัมพูชา ไม่เห็นด้วยก็ไปไม่ได้ หรือ สภาฯ ไทยไม่เห็นด้วย สภาฯ กัมพูชาเห็นด้วย ก็ไปไม่ได้ ดังนั้น AOT จะยาก ย้ำว่า เราโปร่งใส ตรวจสอบได้ ยอมรับ IOT แต่ IOT ขอกรอบแค่นี้ นี่คือจุดยืนของไทย ขออย่าห่วง ทำอะไรที่ยึดถือความจริง ยึดถือหลักการ อยู่ได้ ตอบได้ทุกที่
Advertisement