จากกรณีนาย ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) มอบหมายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยให้กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค3 ดำเนินการฟ้องร้อง นาย ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา และนาย ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ทั้งทางแพ่ง และอาญา กรณีกัมพูชาใช้กำลังทหาร และอาวุธยุทโธปกรณ์ รุกรานอธิปไตยของไทย และทำให้บ้านเรือนประชาชนของไทยเสียหาย ซึ่งจะถูกจับทันทีหากเดินทางเข้ามาในประเทศไทย ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้
ต่อมาวันที่ 19 ส.ค. 68 กระทรวงการต่างประเทศ และความร่วมมือระหว่างประเทศของกัมพูชา ได้ออกแถลงการณ์ต่อกรณีดังกล่าว 4 ข้อ ดังนี้
1. กระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา มีความกังวลอย่างยิ่ง ต่อแถลงการณ์ล่าสุดของนาย ภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีของไทย เกี่ยวกับการเตรียมการดำเนินคดีภายในประเทศของไทยต่อผู้นำกัมพูชา
2. การดำเนินคดีทางกฎหมายของไทยต่อผู้นำกัมพูชาเช่นนี้ ไม่เพียงแต่ละเมิดอธิปไตย และบูรณภาพของราชอาณาจักรกัมพูชา หลักการแห่งความเท่าเทียมทางอธิปไตย และการเคารพซึ่งกันและกันตามที่ระบุไว้ในกฎบัตรสหประชาชาติเท่านั้น แต่ยังสร้างความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อความสัมพันธ์ระหว่างกัมพูชาและไทยอีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้น ยังเป็นการทำลายความพยายามทั้งหมดที่ผ่านมาเพื่อบรรลุการหยุดยิงที่ยั่งยืน และการฟื้นฟูสันติภาพและความปกติสุขระหว่างสองประเทศ
3. การดำเนินการทางกฎหมายดังกล่าว จะบั่นทอนความพยายามทั้งหมดในการฟื้นคืนความไว้วางใจและความเชื่อมั่น ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งในการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงที่ตกลงกันระหว่างกัมพูชาและไทยเมื่อวันที่ 28 ก.ค. 68 อย่างมีประสิทธิผล โดยทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องและลงนามเงื่อนไขและขั้นตอนต่างๆ เพื่อลดระดับสถานการณ์ในการประชุมวิสามัญของคณะกรรมการชายแดนทั่วไปกัมพูชา-ไทย (GBC) เมื่อวันที่ 7 ส.ค. 68 รวมถึงการประชุมคณะกรรมการชายแดนระดับภูมิภาค
4. กระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศขอเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นอย่างไม่ลดละของรัฐบาลกัมพูชาในการทำงานร่วมกับรัฐบาลไทย เพื่อบรรลุสันติภาพ และฟื้นฟูความสัมพันธ์ให้กลับสู่ภาวะปกติในอนาคตอันใกล้นี้
Advertisement