จากกรณีที่มีแรงงานชาวกัมพูชา ชื่อว่านายยง อายุ31ปี ไปก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์ไปที่ห้างค้าปลีก ที่อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ จากนั้นบุกถือปืนเข้าไปภายในห้าง และจุดฉนวนจนเกิดการระเบิดคามือจากนั้นนายยงได้ควงปืนเข้าไปขู่พนักงานในร้านค้าทองเยาวราชกรุงเทพ ที่อยู่ภายในห้าง และพยามกวาดสร้อยคอทองคำ นำหนักเส้นละ2บาท รวม 12 เส้นหวังหลบหนี แต่สุดท้ายทองที่คนร้ายพยามเอาไปเกิดร่วงหล่นที่หน้าร้านทอง จนคนร้ายไม่ได้ทองไปแม้แต่เส้นเดียว
จากนั้นหลังจากที่คนร้ายรายนี้ได้ก่อเหตุได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ของเพื่อนร่วมชาติกลับ มาจอดทิ้งที่ร้านคาแคร์ที่นายยงทำงานอยู่ และอยู่ห่างจากร้านทางเพียงสองกิโลเมตร หลังจากจอดรถจักรยานยนต์ทิ้งไว้นายยงได้เข้าไปปลดเข็มขัดที่แขวนลูกระเบิดปิงปองทิ้งไว้ ในห้องอีก 3 ลูก ก่อนจะเปลี่ยนเสื้อและใช้รถตู้ของทางร้านหลบหนีไปจอดทิ้งที่ย่านบางปลา ถนนเทพารักษ์ จากนั้นขึ้นรถแท็กซี่ไปลงที่หน้าห้างย่านสำโรงเหนือก่อนจะหายตัวไป
โดยล่าสุดเมื่อเวลา 09.30 น. วันที่19ตุลาคม68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ต.ภูมินทร์ สิงหสุต ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ลงพื้นที่สั่งการและควบคุมการติดตามตัวจับกุมผู้ต้องหาด้วยตนเอง ตั้งแต่เกิดเหตุโดยล่าสุดเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ขณะนี้ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองประจำด่านบ้านแหลม ในจังหวัดจันทบุรี สามารถควบคุมตัวผู้ต้องหารายนี้ได้ ในขณะที่กำลังจะหลบหนีกลับประเทศกัมพูชา โดยจับกุมตัวได้ในขณะที่นยังสวมใส่เสื้อตัวเดียวกันที่เปลี่ยนเพื่อหลบหนี ตอนนี้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนของสภ.บางเสาธง เดินทางไปรับตัวกลับมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
ส่วนประเด็นจำนวนสร้อยทอง ที่คนร้ายก่อเหตุผู้สื่อข่าวสอบถามไปยังพ.ต.อ.โสภณ มงคลโสภณรัตน์ ผกก.สภ.บางเสาธง ระบุยืนยันว่าจากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ ยืนยันว่าจำนวนทอง12เส้น น้ำหนักรวม24บาทที่คนร้ายพยามชิงไปนั้นทองทั้งหมดตกที่หน้าร้าน และตรวจสอบได้คืนทั้งหมด12เส้น
Advertisement