นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. แถลงว่าคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดคดีสำคัญกรณีร่ำรวยผิดปกติ กรณีมีเหตุอันควรสงสัยว่านายกิตติทัศน์ วิศาลนพศักดิ์ หรือนายวัทธิกร หรือนายมังกร ใสงาม เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งพาณิชย์จังหวัดอุบลราชธานี และพาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ ร่ำรวยผิดปกติ รวมมูลค่าทรัพย์สินกว่า 81,424,952.08 บาท
โดยข้อเท็จจริงจากการไต่สวนปรากฏว่า เมื่อปี พ.ศ. 2554 - 2557 ขณะดำรงตำแหน่งพาณิชย์จังหวัดอุบลราชธานี และเมื่อปี พ.ศ. 2558 ขณะดำรงตำแหน่งพาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ นายกิตติทัศน์ หรือนายวัทธิกร หรือนายมังกร ใสงาม ได้เข้าไปมีส่วนได้เสียในกิจการของสำนักงานพาณิชย์จังหวัดเพื่อประโยชน์สำหรับตนเอง โดยนำห้างหุ้นส่วนจำกัดของตนซึ่งใช้ชื่อญาติและลูกจ้างเป็นหุ้นส่วนผู้จัดการแทน เข้าเป็นคู่สัญญากับสำนักงานพาณิชย์จังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 26 โครงการ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดสุรินทร์ จำนวน 7 โครงการ
และหลังจากห้างหุ้นส่วนจำกัดได้รับเงินค่าจ้างแล้วจะโอนหรือถอนเป็นเงินสดฝากเข้าบัญชีของนายวัทธิกร ใสงาม โดยในระหว่าง ปี 2554 – 2558 นายวัทธิกร ใสงาม และคู่สมรส มีรายได้ตามแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา รวมเป็นเงินจำนวน 7,264,160.64 บาท มีทรัพย์สินที่เพิ่มขึ้นไม่สอดคล้องกับรายได้ และไม่สามารถชี้แจงที่มาของทรัพย์สินได้ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 81,424,952.08 บาท ดังนี้
1. เงินฝากธนาคารในชื่อของนายวัทธิกร ใสงาม จำนวน 5 บัญชี รวมเป็นเงิน 74,224,952.08 บาท
2. ที่ดิน ตำบลอิสาณ อำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ จำนวน 1 แปลง มูลค่าประมาณ 6,200,000 บาท
3. รถยนต์นั่งส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน ยี่ห้อ HONDA แบบ HR-V15 จำนวน 1 คัน มูลค่าประมาณ 1,000,000 บาท
คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วมีมติว่า นายกิตติทัศน์ วิศาลนพศักดิ์ หรือนายวัทธิกร หรือนายมังกร ใสงาม ร่ำรวยผิดปกติ โดยมีทรัพย์สินมากผิดปกติ หรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากผิดปกติ หรือได้ทรัพย์สินมาโดยไม่มีมูลอันจะอ้างได้ตามกฎหมายสืบเนื่องมาจากการปฏิบัติตามหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ จำนวน 81,424,952.08 บาท
โดยให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสาร พยานหลักฐาน และความเห็นไปยังอัยการสูงสุด เพื่อยื่นคำร้องต่อศาลซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดี เพื่อขอให้ศาลสั่งให้ทรัพย์สินที่ร่ำรวยผิดปกติตกเป็นของแผ่นดิน ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 122 วรรคหนึ่ง หากไม่สามารถบังคับเอาแก่ทรัพย์สินที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติว่าร่ำรวยผิดปกติตกเป็น ของแผ่นดินได้ทั้งหมดหรือแต่บางส่วนแล้ว ให้ขอให้ศาลบังคับคดีเอาแก่ทรัพย์สินอื่นของผู้ถูกกล่าวหาได้ภายในระยะเวลาสิบปี ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 125
สำหรับการดำเนินการทางวินัย กระทรวงพาณิชย์ได้มีคำสั่งลงโทษไล่นายกิตติทัศน์ วิศาลนพศักดิ์ หรือนายวัทธิกร หรือมังกร ใสงาม ออกจากราชการเป็นการเหมาะสมแล้ว ให้แจ้งผลการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้ผู้บังคับบัญชาทราบ
Advertisement