(7 ส.ค. 2568) หลังการประชุม GBC ที่มีข้อตกลงหยุดยิง วันนี้ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน เกาะติดสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา
นายนิกรเดช กล่าวว่า การประชุม GBC ที่มาเลเซีย ในช่วงเช้าวันนี้ นำโดย พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งเสร็จสิ้นไปในช่วงบ่ายสองของวันนี้
การประชุมในวันนี้มีมาเลเซีย สหรัฐ และจีน เข้าร่วมประชุม ซึ่งประเทศเหล่านี้ ไม่มีส่วนได้เสียจากการเจรจาในครั้งนี้
ก่อนหน้านี้ทาง พล.อ.ณัฐพล ได้แถลงข่าวไปแล้ว แต่ทางกระทรวงการต่างประเทศ ขอสรุปให้เข้าใจโดยรวมใน 4 หัวข้อ ดังต่อไปนี้
ข้อที่ 1 ก่อนที่จะเริ่มประชุม GBC ในวันนี้ ทางประธาน GBC ของทั้งสองประเทศ ได้เข้าคาราวะ นายอันวาร์ บิน อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย และประธานอาเซียน
ซึ่ง นายอันวาร์ รู้สึกยินดีที่ได้เห็นความคืบหน้าที่ดีจากการเจรจาของทั้งสองประเทศ และประเทสสมาชิกอาเซียนก็เห็นตรงกัน ว่าไทยและกัมพูชา ควรใช้กลไกทวิภาคีในการแก้ไขปัญหา
ข้อที่ 2 ทั้งไทยและกัมพูชา ต่างก็ตกลงที่จะปฏิบัติตามเงื่อนไขการหยุดยิงต่อกันอย่างเคร่งครัด โดยไม่เสริมกองกำลังเข้าไปเพิ่มเติม และหลีกเลี่ยงการยั่วยุระหว่างกัน ทั้งการทหาร และการให้ข่าวเท็จ
ทั้งสองประเทศจะเคารพกฏหมายระหว่างประเทศ และทางกัมพูชาจะเร่งเก็บศพทหารตามชายแดน ไปดำเนินการด้วยการให้เกียรติ
ข้อที่ 3 ทั้งสองประเทศเห็นตรงกันว่า ควรมีคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว ที่นำโดยผู้ช่วยทูตทหารมาเลเซีย และผู้ช่วยทูตทหารของประเทศสมาชิกอาเซียนประจำประเทศไทยและกัมพูชา
ซึ่งคณะดังกล่าวจะเข้ามาสังเกตการณ์ในพื้นที่ของไทยและกัมพูชา เป็นระยะ และจะไม่มีการข้ามแดนระหว่างกัน
ข้อที่ 4 หลังจากนี้จะมีการประชุมคณะชายแดนภูมิภาค หรือ RBC ที่จะนำโดยหัวหน้าคณะที่เป็นแม่ทัพภาคเข้าร่วมประชุม ภายใน 2 สัปดาหลังจากนี้
นอกจากนี้ จะมีการประชุม GBC อีกครั้งใน 1 เดือนข้างหน้านี้ ที่นำโดยรัฐมนตรีกลาโหม เพื่อติดตามความคืบหน้าตามผลการประชุมที่เกิดขึ้นในวันนี้
และในช่วงเวลา 18.00 น.ของวันนี้ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะเป็นประธานของการประชุมออนไลน์ เรื่องสถานการณ์ชายแดนไทย กับกัมพูชา ร่วมกับเอกอัครราชทูต และผู้แทนถาวร รวมไปถึงกงสุลใหญ่ไทยทั่วโลก เพื่อให้ทุกฝ่ายได้รับทราบผลการประชุม GBC และข้อมูลล่าสุดไปพร้อมๆกัน เพื่อที่จะนำไปทำความเข้าใจกับประเทศอื่นทั่วโลกต่อไป
โดยกระทรวงการต่างประเทศ อยากให้พี่น้องประชาชนระมัดระวังเรื่องการบริโภคข่าวสาร และอยากให้ติดตามข่าวสารจากช่องทาง ที่เป็นทางการเท่านั้น เพื่อให้ได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง
Advertisement