วันนี้ (30 ก.ค.) เวลา 11.30 น. ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการแถลงข่าวการจับกุมยาเสพติดทั่วประเทศในห้วง 1 เดือนที่ผ่านมา (เดือน ก.ค. 68-ก.ค.68 ) โดยมี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) และบุคลากรที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
นายภูมิธรรม บอกว่า ปัญหายาเสพติดเป็นหนึ่งในภารกิจเร่งด่วนที่รัฐบาลให้ความสนใจ และต้องเร่งแก้ไขอย่างเด็ดขาด ครบวงจร ตั้งแต่การผลิต ลำเลียง การค้า และการฟื้นฟู โดยรัฐบาลได้เดินหน้านโยบาย Seal Stop Safe ผ่านการบูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งฝ่ายปกครอง ความมั่นคง และภาคประชาชน เพื่อยุติภัยคุกคามยาเสพติดในทุกระดับ ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ จนถึงปลายน้ำ ควบคู่กับนโยบาย “No Drugs No Dealers ผนึกกำลังชุมชนปลอดยาเสพติด” ซึ่งเป็นนโยบายที่จะถูกนำมาใช้เป็นเกณฑ์ในการพิจารณาแต่งตั้งโยกย้ายวาระประจำปีของข้าราชการตำรวจด้วย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการปฏิบัติการขั้นต้น จากนั้นจะมีการประเมินผลต่อไป ส่วนตำรวจรายใดที่ไม่สามารถปฏิบัติตามนโยบายได้ก็ต้องพิจารณาตามสถานการณ์ที่เป็นจริง โดยต้องให้เวลาเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงาน และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย แต่หากเจ้าหน้าที่รายใดเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติดและมีหลักฐานเป็นรูปธรรมชัดเจนก็จะดำเนินการอย่างไม่ละเว้น
นายภูมิธรรม เปิดเผยว่า โดยรวมผลงานของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกฝ่ายออกมาดีพอสมควร ส่วนตัวถือว่า ผลงานน่าพอใจแต่ก็ยังไม่เพียงพอ ยังต้องทำให้ประชาชนรู้สึกปลอดภัย และสบายใจจากปฏิบัติการที่เราทำมาอย่างต่อเนื่อง
ส่วนกรณีที่ผู้ต้องหาถูกออกหมายจับแล้วหลบหนีไปยังประเทศเพื่อนบ้าน หากมีข้อมูลหลักฐานไปถึงชัดเจน ก็สามารถติดตามจับกุมได้ แต่ต้องมีการปฏิบัติอย่างรอบคอบรัดกุม โดยต้องมีพยานหลักฐานชัดเจนเพื่อให้สามารถขยายผลไปยังเครือข่ายได้ และป้องกันเรื่องการถูกกล่าวหาว่าเป็นการกลั่นแกล้งด้วย อย่างไรก็ตาม แม้บางครั้งจะไม่ได้รับความร่วมมือจากต่างชาติในการติดตามจับกุมผู้ต้องหา เจ้าหน้าที่ก็จะพยายามดำเนินงานอย่างเต็มที่
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาหลังการประกาศนโยบายปราบปรามยาเสพติดทุกหน่วยงานได้ประสานร่วมมือกันดีและมีผลงานเป็นรูปธรรมที่น่าพึงพอใจ และเกินเป้าหมายที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติตั้งเป้าไว้ แต่ถือว่ายังไม่พอและต้องปฏิบัติการต่อเนื่องต่อไป
สำหรับผลงานในห้วงเดือน ต.ค.67- 30 ก.ค.68 สามารถดำเนินคดีผู้ต้องหาเครือข่ายขายยาเสพติด 210,780 คดี จับกุมผู้ต้องหาได้กว่า 211,529 ราย ยึดยาบ้ากว่า 851.66 ล้านเม็ด ยาไอซ์ 41,137 กิโลกรัม เฮโรอีน 1,209 กิโลกรัม และเคตามีน 5,512 กิโลกรัมยึดทรัพย์สินจากการค้ายาเสพติดกว่า 12,417 ล้านบาท
ขณะที่ ห้วงวันที่ 1 ก.ค. 68-30 ก.ค.68 สามารถสืบสวนจับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญได้ 19 คดี จับกุมผู้ต้องหาได้ 45 คน พร้อมยึดของกลางยาเสพติดหลายรายการประกอบด้วย ยาบ้า จำนวน 46.88 ล้านเม็ด ไอซ์ 1,408 กิโลกรัม และคีตามีน 150 กิโลกรัม
นอกจากนี้ นายภูมิธรรม ยังได้เชิญชวนประชาชนร่วมเป็นหูเป็นตาสร้างเครือข่ายตาสับปะรด โดยสามารถแจ้งเบาะแสได้ผ่านสายด่วน 191 หรือสถานีตำรวจใกล้บ้าน
Advertisement