วันที่ 30 ก.ค. 68 ที่สำนักงานใหญ่ ป.ป.ช.นนทบุรี นาย ศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ได้เดินทางมายื่นคำร้องต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อขอให้ไต่สวน และมีความเห็น เพื่อเอาผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง กรณี สส.พรรคส้ม จังหวัดชลบุรี โพสต์ข้อความด่าทหาร และกองทัพไทยลงในสื่อโซเชียลมีเดียด้วยถ้อยคำผรุสวาทอันมีลักษณะด้อยค่า และโจมตีกองทัพไทย อันกระทบต่อเกียรติภูมิและผลประโยชน์ของชาติ ความมั่นคงของรัฐ และความสงบเรียบร้อยของประชาชน และก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ของการดํารงตําแหน่ง
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 28 ก.ค. ที่ผ่านมามีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดชลบุรี พรรคส้มได้กระทำการโพสต์ข้อความลงในสื่อสังคมออนไลน์เฟซบุ๊กส่วนตัวด้วยถ้อยคำผรุสวาท ทำร้ายจิตใจคนไทยอย่างแรง ด้วยคำหยาบคายต่อทหารและกองทัพ ที่ทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยและความมั่นคงของชาติของแผ่นดิน ในเวลาที่คนไทยทั้งชาติล้วนส่งกำลังใจให้ทหารหาญ ที่ต่างพากันต่อสู้ และเสียสละเพื่อปกป้องอธิปไตยให้กับประเทศของเรา และถูกมองว่าเป็นการด้อยค่ากองทัพไทยในช่วงสถานการณ์ความตึงเครียดชายแดนด้วย
ข้อความดังกล่าว แม้จะถูกลบไปแล้ว แต่ถูกประชาชนและสื่อแคปไว้ และนำไปเผยแพร่อย่างแพร่หลาย เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมกันอย่างมาก โดยเฉพาะในห้วงเวลาที่กองทัพกำลังปฏิบัติภารกิจปกป้องประเทศชาติ และประชาชนท่ามกลางวิกฤตชายแดน ชี้ให้เห็นถึงความไม่เหมาะสมของการกระทำของ สส.รายดังกล่าว อันมิได้กระทำตนให้เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับประชาชน หรือเยาวชนในสังคมได้ และที่สำคัญการกระทำดังกล่าวถือได้ว่าเป็นการฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมของ ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ดํารงตําแหน่งในองค์กรอิสระ รวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ พ.ศ.2561 ตามที่รัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 219 บัญญัติให้ศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระร่วมกันกําหนดขึ้นมา และให้ใช้บังคับแก่ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองทุกคนตาม มาตรา 219 วรรคสอง ด้วย
ซึ่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดชลบุรี พรรคประชาชน รายดังกล่าวถือว่าเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่อยู่ภายใต้มาตรฐานทางจริยธรรมดังกล่าวด้วย แต่กลับได้กระทำการฝ่าฝืนตามที่ได้กล่าวข้างต้น ในหลายข้อ อาทิ ข้อ 6 ข้อ 7 ข้อ 11 ข้อ 12 ข้อ 13 ข้อ 15 ข้อ 17 ประกอบข้อ 23 อย่างชัดเจน อันกระทบต่อเกียรติภูมิและผลประโยชน์ของชาติ ความมั่นคงของรัฐ และความสงบเรียบร้อยของประชาชน และก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ของการดํารงตําแหน่งและอื่นๆ
องค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน จึงนำข้อมูลพยานหลักฐานมาร้องเรียนและชี้เบาะแสให้คณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาดำเนินการไต่สวนและเสนอเรื่องไปยังศาลฎีกาเพื่อมีศาลฎีกามีคำสั่งให้ สส.คนดังกล่าวหยุดปฏิบัติหน้าที่ เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งตลอดไป และไม่มีสิทธิดำรงตำแหน่งทางการเมืองใดๆ และเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนดเวลาสิบปี นับแต่วันที่ศาลฎีกามีคำพิพากษา ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา 235 วรรคสามและวรรคสี่ พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 87 ประกอบมาตรา 81 ต่อไป เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อสังคม
Advertisement