เมื่อเวลา 8.30 น. ที่บริเวณจุดผ่านแดนถาวร ตลาดบ้านแหลม ต.เทพนิมิต อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี สถานการณ์ภาพรวม ยังคงมีชาวกัมพูชาราว 5,000 คน ที่ตกค้างหลังจากด่านฝั่งไทยปิดลงเมื่อเวลา 15.00 น. ของวันที่ 28 ก.ค. 68 ที่ผ่านมา และยังมีทยอยเดินทางกลับมารอนอนค้างในเต็นท์ที่พักหน้าด่าน เพื่อหวังเดินทางกลับประเทศอย่างต่อเนื่อง ภายหลังจากที่ช่วง 00.400 น. กลางดึกคืนที่ผ่านมา สำนักข่าวช่องหลักและสื่อโซเชี่ยลเผยแพร่ รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ว่าในพื้นที่ปราสาทตาควายอ.พนมดงรัก มีเสียงระเบิด ในช่วงเวลา 03.00 น. และ 05.00น. พื้นที่ ภูมะเขือ จ.ศรีสะเกษ ทหารกัมพูชายิงก่อกวนทหารไทยทั้งคืน จึงมีการยิงตอบโต้ระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชาต่อเนื่อง โยพื้นที่ซำแต มีการยิงตอบโต้กันจนถึงเวลา 05.30 น. นอกจากนี้ทหารกัมพูชาใช้ระเบิดเปิดฉากยิงตลอดทั้งคืน
ล่าสุดเวลา 08.40 น. มีรายงานว่า กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยทหารกัมพูชา ยิงปืนใหญ่ใส่ทหารไทย เนินโนเนม พื้นที่ช่องบก จ.อุบลราชธานีซึ่งจากกระแสข่าวดังกล่าว ยังคงสร้างความแตกตื่นให้กับชาวกัมพูชา ที่ยังทำงานอยู่ในไทย ซึ่งทั้งภาคการเกษตรและอุตสาหกรรม กลัวความไม่ปลอดภัย
ประกอบกับกระแสข่าวลือ ในหมู่ชาวกัมพูชาด้วยกันเองว่า "หากใครยังอยู่ในประไทย อาจจะถูกตัดสัญชาติ" นั่นจึงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ยังคงมีชาวกัมพูชา จึงยอมอพยพขนข้าวของกลับประเทศ ขณะเดียวกันจากสถานการณ์การอพยพของชาวกัมพูชาตลอด 4 วันที่ผ่านมามีการเผยแพร่ข่าวออกสู่สายตามชาวโลก ว่าเป็นดั่งภาพการลี้ภัยสงครามของชาวกัมพูชาครั้งใหญ่ ทำให้มีในวันนี้เริ่มมีสื่อชาวต่างชาติเข้ามาเกาะติดสถานการณ์การอพยพของชาวกัมพูชา ที่จุดถาวรตลาดบ้านแหลม เพื่อนำเสนอข้อเท็จจริงสู่สายตาชาวโลก เกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
ด้าน ดร.รัฐวิทย์ ตั้งเกียรติพชร นายกสมาคมการค้าชายแดนฯ กล่าวถึงการสู้รบระหว่างไทยกับกัมพูชา ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ไม่ได้เป็นสิ่งเหนือความคาดหมาย และก็ไม่มีมีใครที่อยากให้เกิด และเกิดการสู้รบขึ้นแล้ว ก็รู้สึกสงสารชาวบ้าน ที่อยู่ทาง อุบล ฯศรีษะเกษ สุรินทร์ และบุรีรัมย์ ที่ต้องสูญเสียชีวิตญาติพี่น้องและทรัพย์สิน ส่วนทางด้านเศรษฐกิจก็พังแน่นอน เพราะระบบการค้าขายเป็นศูนย์ ภาคแรงงาน ก็พังทั้งระบบ
Advertisement