วันที่ 16 ก.ค.2568 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี การลงพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษในวันนี้มีนัยทางการเมืองหรือไม่ว่า ขอให้ไปถามนายอนุทิน ชาญวีรกูล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เพราะทั้งหมดนายอนุทิน เป็นคนจัด ตนเพียงมาเปิดงานเท่านั้น และตอนแรกจะเปลี่ยนจังหวัด แต่ไม่สามารถเปลี่ยนได้เนื่องจากมีการ เบิกจ่ายงบประมาณไปบ้างแล้ว ตนจึงบอกว่าไม่เป็นไร เพราะมาทำงานตามหน้าที่รักษาการนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่รับผิดชอบเรื่องนี้และไม่กลัวว่า จะเป็นเกมการเมืองอะไร
ส่วนการเลือกตั้งซ่อมสส.เขต 5 จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นพื้นที่เดิมของพรรคเพื่อไทย ในฐานะที่เป็นรักษาการนายกรัฐมนตรี จะลงพื้นที่ช่วยหาเสียงหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย ตนก็คงจะลงพื้นที่แต่ต้องหาโอกาส และต้องจัดการให้ถูกต้องตามกฎหมาย และดูเวลาที่เหมาะสม หากอยู่ในเวลาราชการก็จะลา
ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่าแสดงว่ามีแผนที่จะลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครหาเสียงในช่วงวันหยุด อยู่แล้วใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ได้มีแผน แต่ต้องดูงานของกระทรวง เพราะตอนนี้งานของกระทรวง ยังเป็นงานที่จำเป็น ซึ่งวันนี้ที่ลงพื้นที่เพราะเป็นเรื่องของการแก้ไขปัญหายาเสพติด
เมื่อถามย้ำว่า 1 เสียงมีความสำคัญกับรัฐบาล เนื่องจากเป็นรัฐบาลเสียง ปริ่มน้ำ จึงต้องรักษาฐานที่มั่นให้ได้ใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ทุกเสียงมีความสำคัญกับทุกพรรคการเมือง
ส่วนนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะลงไปช่วยผู้สมัครหาเสียงหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ขอให้ไปถามนายทักษิณ เอง
ส่วนในอนาคตจะมีโอกาสกลับมาจับมือกับพรรคภูมิใจไทยหรือไม่เนื่องจากก่อนหน้านี้นายทักษิณ เคยระบุเอาไว้ว่า การเมืองขณะนี้อาจต้องมีการกลืนเลือดหลายปี๊บ นายภูมิธรรม กล่าวว่า เป็นทัศนะของนายทักษิณ ตนไม่ขอก้าวล่วง แต่การเมืองต้องดูสถานการณ์ ณ ขณะนั้น ถ้าเป็นความจำเป็นอย่างยิ่งยวดของประเทศชาติ พรรคเพื่อไทยก็จำเป็นต้อง กลืนเลือด แต่โดยรวมเราไม่ร่วม ที่มาพูดทุกวันนี้ เป็นการพูดที่เกินเลย อย่างนายอนุทิน ก็พูดจะได้เปอร์เซ็นต์อะไร เป็นการพูดที่เกินเลยและโกหก ความเป็นจริงเป็นอย่างไรนายอนุทิน รู้อยู่ เชื่อว่าผู้สื่อข่าวกระทรวงมหาดไทยก็พอทราบ ที่ตนจะจัดการ หลายเรื่องที่ไม่เหมาะสมซึ่งอาจนำไปสู่ความผิดได้
"ผมจะตรวจสอบอย่างเข้มข้น โดยไม่ได้มีการไม่พอใจอะไร ถือว่าเป็นการทำหน้าที่ คุณอนุทิน หากทำงานอย่างตรงไปตรงมาก็ไม่ต้องกังวลและไม่ต้องกลัว ไม่ต้องกระโตกกระตาก ให้คนรู้ รู้อยู่แก่ใจอยู่แล้ว"
และเมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ารวมถึงการรื้องบกระตุ้นเศรษฐกิจอีก 40,000 ล้านกว่าบาท ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม ระบุว่า เป็นสิ่งที่ตนดำเนินการ ในการแก้ปัญหางบประมาณ ที่ผ่านมาในช่วง 2 ปี มีการจัดงบท้องถิ่นอย่างกระจุกตัว และมีปัญหามาก ตนได้รับการร้องเรียนจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและองค์การบริหารส่วนจังหวัด หลายคนมาขอพบ และแลกเปลี่ยน ซึ่งบางอบต.บางอบจ.ขออะไรไม่เคยได้เลย บางที่ขอมาไม่ได้เลย แต่ในบางพื้นที่แถวบุรีรัมย์ สุรินทร์ ได้เป็น 100 ล้าน บางแห่งได้ถึง 700 ล้านบาท ต้องดูว่าที่ตัดสินใจอย่างนั้น ตัดสินใจบนพื้นฐานอะไร เมื่อวานก็มีการพูดคุยในที่ประชุมครม. โดยนายชัยชนะ เดชเดโช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และนายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการมหาดไทย ซึ่งเป็นสส.พื้นที่ภาคใต้ ว่างบกระจุกไม่กระจาย จะทำอย่างไร ซึ่งตนบอกว่า เป็นเรื่องที่ผ่านมาแล้ว ตนจะต่อในเรื่องงบฯ 69 ซึ่งตนถามสำนักงบประมาณ ก็ยอมรับว่ามีปัญหาจริง แต่ปัญหาเกิดจากอะไรเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ขณะที่การกลั่นกรองจากสำนักงบประมาณไปบางส่วน ก็มีการพิจารณาตัดตอนเพิ่มหรือลดงบประมาณ เป็นเรื่องของคณะกรรมาธิการจะดำเนินการ
ส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.57 แสนล้าบาท มีการส่งเรื่องไปแล้วโดยเฉพาะที่เกี่ยวกับงบฯองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ของกระทรวงมหาดไทยไปที่สำนักงบฯ ว่านายอนุทิน เซ็นเอกสารไปไม่ตรงกับที่คีย์เข้าไปในระบบ คณะอนุกรรมการกลั่นกรองโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ มีการส่งกลับมาให้กระทรวงมหาดไทยมาพิจารณาใหม่ ซึ่งเรื่องอยู่ที่สำนักปลัด ยอมรับว่า ตนเป็นห่วงว่าจะไม่ทันปีงบฯ69 เพราะเหลือเวลาไม่กี่เดือน ส่วนข้อมูลไม่ตรงอย่างไรก็ให้ไปถามสำนักงบฯ เพราะตนไม่ได้เป็นคนทำ ส่วนจะเกลี่ยงบใหม่หรือไม่ขอให้เป็นเรื่องของกรรมาธิการและสำนักงบฯ แค่ได้รับทราบว่าไม่เหมาะสม ซึ่งความจริงเป็นอย่างไรให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณา ขออย่าเอาเรื่องพวกนี้ไปพูดเกินเลยเพราะจะทำให้เกิดปัญหา ตนไม่อยากพูดเรื่องพวกนี้เพราะจะหาว่าโจมตีกัน
Advertisement