นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงภารกิจแรกหลังเข้ารับตำแหน่ง ที่ต้องเข้ามาแก้ไขปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา หลังจากที่ไม่สามารถส่งออกสินค้าทางการเกษตรได้ว่า ในเบื้องต้นตนพอจะทราบข่าว และได้ติดตามในเรื่องของข้อมูล การปิดด่านชายแดนในเรื่องของสินค้าเกษตร ซึ่งกระทบไม่มาก และได้พูดคุยกับกระทรวงพาณิชย์ ว่าจะต้องดำเนินการโดยเร็วเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรเพื่อระบายสินค้า หากทำไม่ได้ก็ต้องหาทางออกอย่างอื่น
ส่วนการบริโภคภายในประเทศ นายอรรถกร กล่าวว่า เพิ่งรับตำแหน่งเต็มรูปแบบ เมื่อสักครู่ ยังไม่ถึงชั่วโมงแต่สิ่งที่สำคัญทางออกในวันนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ และรัฐบาล ต้องเดินหน้าไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อหาแหล่งให้สินค้าเกษตรของไทยไปถึงมือผู้บริโภค ทั้งชาวไทยและต่างชาติ
เมื่อถามว่าที่ผ่านมามีปัญหาเรื่องการประสานงานระหว่าง 2 กระทรวงใช่หรือไม่ นายอรรถกร กล่าวว่า อาจมีบ้างในเรื่องแนวทางการทำงาน และนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ก็พยายามทำทุกวิถีทางในการทำงานร่วมกับกระทรวงอื่น พร้อมย้ำว่า การเข้ามาทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการฯ เป็นการสานต่อ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา พรรคกล้าธรรม ครั้งที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ส่งต่อไปยัง นางนฤมล และที่ตนได้ดูการประกาศนโยบายในงาน ignite Thailand ทั้ง 9 ข้อ สมัย นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี ครอบคลุมทั้งหมด โดยส่วนตัวจะเน้น 9 ข้อดังกล่าว ว่าจะทำอะไรก่อนหรือหลัง หรืออะไรที่จะทำทันที และอะไรที่จะต้องวางแผนในระยะยาว ส่วนเรื่องที่ดิน สปก. จะต้องมีการปรึกษา นายอิทธิ ศิริลัทธยากร อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งเป็นคุณพ่อ ที่กำกับดูแลมากกว่า 9 เดือน
เมื่อถามว่า ในสถานการณ์ที่การเมืองยังไม่แน่นอนในฐานะนายทะเบียนพรรคกล้าธรรม เตรียมรับมืออย่างไร นายอรรถกร กล่าวว่า เราทำหน้าที่ของเราในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลให้ดีที่สุด และเชื่อว่าวันนี้จัดตั้งคณะรัฐมนตรีได้รัฐบาลชุดใหม่ก็เดินหน้าได้ ส่วนสภาจะล่มหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับความร่วมมือของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร รวมถึงตนที่เป็น สส. และได้พูดคุยกับทีมงานว่าในวันพุธที่มีการประชุมสภาฯ จะไม่รับงาน ยกเว้นภารกิจเร่งด่วน
Advertisement