ภายหลังการประชุมของพรรคร่วมฝ่ายค้าน นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ เปิดเผยว่า วันนี้มีการประชุมเพื่อใช้กลไกของสภา และกลไกของฝ่ายค้านเพื่อหาทางออกของประเทศ โดยหารือ 4 ประเด็นที่สำคัญคือ ประเด็นที่หนึ่ง ทางพรรคร่วมฝ่ายค้านจะใช้กลไกในสภาทุกอย่างให้รัฐบาลหยุดเดินหน้า หรือถอนร่าง พ.ร.บ.เอนเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ และให้ความเชื่อมั่นว่าจะไม่นำพ.ร.บ.นี้กลับเข้ามาพิจารณาอีก ประเด็นที่สองการเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญ พรรคฝ่ายค้านเห็นร่วมกัน คือการจัดทำประชามติที่ศูนย์ ซึ่งจะมีการใช้กลไกสภาในการเสนอเช่นการจัดทำประชามติพร้อมกับการเลือกตั้งใหม่ ประเด็นที่สาม คือร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ซึ่งมีหลายส่วนที่พรรคฝ่ายค้านเห็นแตกต่างกัน จึงจะมีการตั้งคณะทำงานเพื่อดำเนินการเรื่องนี้ และประเด็นสุดท้ายการยื่นญัตติไม่ไว้วางใจตามมาตรา 151 ซึ่งขณะนี้ต้องรอการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญก่อน เพราะตอนนี้ภายใต้สถานการณ์นิติสงครามยังมีความไม่แน่นอนสูง
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงข้อเท็จจริงจากกระแสข่าวการเสนอตัวเป็นนายกรัฐมนตรีชั่วคราวของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายณัฐพงษ์ เผยว่า เรื่องนี้ต้องให้เกียรตินายอนุทิน ได้ชี้แจง แต่โดยหลักการวันนี้ที่พวกเรามาประชุมร่วมกันคือหาทางออกให้กับประเทศวันนี้ยังไม่เหมาะสมที่จะพูดล่วงหน้าเพราะสถานการณ์ยังไม่เกิด ขณะนี้นายกรัฐมนตรียังคงชื่อแพทองธาร ชิณวัตร เพียงแค่ถูกคำสั่งศาลสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ แต่แน่นอนการวิเคราะห์การเมืองและประเมินฉากทัศน์ ในข้างหน้าทุกคนสามารถวิเคราะห์ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง และการหารือเป็นการภายในมีการพูดคุยถึงเรื่องนี้ซึ่งขอยืนยันว่าฝ่ายค้านจะไม่ทำให้การเมืองถึงทางตัน อย่างไรประเทศมีทางออก ส่วนรายละเอียดจะเป็นอย่างไรสามารถคุยกันในสถานการณ์ข้างหน้าได้
ขณะที่นายอนุทิน ระบุว่า ตนได้ชี้แจงจากการให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวเมื่อวาน (2 ก.ค.68) ตอนเย็นแล้ว ยืนยันว่าไม่มีการเสนอตัว เป็นนายกชั่วคราวย้ำว่าเป็นการคลาดเคลื่อนเยอะมาก ย้ำว่าไม่มีการพูดถึงตรงนั้นเลย และตนคิดว่า ตอนนี้เราพูดในหลักการถ้าใครก็ตามเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีก็เข้ามาในระยะเวลาที่เป็นการเฉพาะกิจเฉพาะกาลแก้ไขปัญหาปัจจุบันและรีบยุบสภาให้เกิดการเลือกตั้งให้ประชาชนตัดสินใจต่อไป อย่างไรก็ตามเรื่องพวกนี้ขอให้รอให้ถึงเวลาที่เหมาะสมก่อน เพราะตอนนี้นายกรัฐมนตรีก็ยังคงอยู่ในตำแหน่ง
ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า ที่พรรคประชาชนจะช่วยโหวต นายกชั่วคราวโดยไม่ร่วมรัฐบาลแต่มีเงื่อนไข นายณัฐพงษ์ เผยว่า สิ่งที่พรรคประชาชนได้เสนอไปเมื่อวาน ต้องยืนยันอีกครั้งว่าไม่ได้เสนอว่าจะโหวตให้ใครไม่โหวตให้ใคร แต่ทุกอย่างที่เสนอเชื่อว่าเป็นทางออกของประเทศจริงๆ หากวันหนึ่งสถานการณ์ทางการเมืองถึงจุดนั้น ส่วนเรื่องของการรวมขั้วทางการเมืองมองว่ายังไม่มีความเหมาะสมที่จะนำเสนอในช่วงนี้ เพราะสถานการณ์ทางการเมืองยังเดินไปไม่ถึงจุดนั้น เมื่อถามว่าหากเป็นนายชัยเกษม แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย พรรคประชาชนจะโหวตให้หรือไม่ นายณัฐพงษ์ เผยว่า เราไม่ได้ยึดติดว่าจะโหวตให้นายชัยเกษม หรือนายอนุทิน แต่ดูที่จุดร่วมกันว่าการออกเสียงของพรรคประชาชนและพรรคร่วมฝ่ายค้าน ซึ่งแต่ละพรรคมีจุดยืนของตัวเองแต่พรรคประชาชนขอยืนยันในหลักการการจะให้ใครก็ตามต้องเป็นการสร้างทางออกให้กับประเทศ
ด้านนายฉกาจ พัฒนกิจวิบูลย์ ระบุว่า ในนามของพรรคพลังประชารัฐ จะทำงานร่วมกันส่วนเรื่องไหนที่ยังไม่สะเด็ดน้ำก็จะมีการตั้งค่าทำงานหารือร่วมกันต่อไปเพื่อเสนอทางออก
ในส่วนคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ย้ำจุดยืนในการทำงานในการตรวจสอบถ่วงดุลรัฐบาลร่วมกันซึ่งในขณะนี้ประเทศอยู่ในห้วงวิกฤตศรัทธาที่เกิดจากการกระทำของตัวนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล ประชาชนยังตกอยู่กับความทุกข์ยากจากปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง การทุจริตยังไม่ได้รับการแก้ไขการเมืองที่สุจริตและมีคุณธรรมนั้นถ้าจะหาไม่ได้ ส่งการทำงานของพรรคฝ่ายค้านจะมีความเข้มแข็งมากขึ้น เพื่อคลี่คลายวิกฤติที่เกิดขึ้นกับประเทศ
ด้านนายกัณวีร์ สืบแสง เผยว่า สุดท้ายจะต้องมีการยุบสภา ซึ่งกว่าจะไปถึงจุดนั้นคงมีกระบวนการต่างๆ ซึ่งพรรคเป็นธรรมจะร่วมมือกับพรรคฝ่ายค้านทุกพรรคเพื่อแสวงหาทางออกให้เป็นการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนเพื่อประเทศชาติต่อไป
Advertisement