Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
ศบ.ทก.​ ย้ำ​แม้ไทยยกระดับจำกัดเข้า-ออกด่าน​ แต่ยึดหลักมนุษยธรรม​

ศบ.ทก.​ ย้ำ​แม้ไทยยกระดับจำกัดเข้า-ออกด่าน​ แต่ยึดหลักมนุษยธรรม​

25 มิ.ย. 68
14:47 น.
แชร์

ศบ.ทก.​ ย้ำ​แม้ไทยยกระดับจำกัดเข้า-ออกด่าน​ แต่ยึดหลักมนุษยธรรม​ นำผู้ป่วยรักษาแล้ว​ 7 ราย​ ขอหยุดปั่นโซเชียล​ ไม่ก้าวก่ายกิจการภายใน​ซึ่งกันและกัน 

วันที่ 25 มิ.ย. 68 พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย และ นางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศ และรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงผลการประชุมศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ​ ศบ.ทก.​ 

นางมาระตี​ ระบุว่า​ ตามที่มีการคำสั่งการยกระดับการผ่านแดนตามแนวชายแดนไทย- กัมพูชา มีผลให้จำกัดการผ่านแดนของบุคคลที่เข้มข้นขึ้น แต่ยังคงอนุญาตสำหรับบุคคลที่มีความจำเป็น และด้วยเหตุผลทางมนุษยธรรม โดยที่ประชุม ศบ.ทก.ได้ติดตามผลในเชิงปฏิบัติของการเพิ่มความเข้มข้นของมาตรการดังกล่าว เพื่อไม่ให้กระทบกับการใช้งานของจุดผ่านแดนที่จำเป็น ซึ่งได้รับรายงานว่าการอำนวยความสะดวกการเข้าออกส่วนใหญ่เป็นไปตามปกติ เช่นการอนุญาตให้ชาวกัมพูชากว่า 7,000 คนเดินทางกลับประเทศ​ ยกเว้นบางกรณี ที่มีรถติดค้างอยู่บ้างซึ่งได้มีการคลี่คลายไปแล้ว ในส่วนของการอำนวยความสะดวกทางมนุษยธรรมยังคงดำเนินการไปตามปกติ อย่างในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์​ สระแก้ว​ และจันทบุรี​ มีการเปิดด่านเพื่อรับตัวผู้ป่วยคราวของกัมพูชา 7 ราย เพื่อให้ได้รับการรักษาอย่างการทวงที 

แม้ว่าจะมีความจำเป็นที่จะยกระดับความเข้มข้นของการบริหารชายแดนในลักษณะนี้​ แต่ที่ประชุมได้ย้ำเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาว่าฝ่ายไทยให้ความสำคัญกับหลักมนุษยธรรมในการพิจารณาและติดตามผลของการปฏิบัติตามมาตรการต่างๆ ซึ่งปรับใช้เป็นการพิเศษเฉพาะในช่วงนี้ โดยทางไทยได้ตระหนักและให้ความสำคัญกับการรักษาความสัมพันธ์ฉันมิตรในระดับประชาชนของทั้ง 2 ประเทศ 

ขณะเดียวกันยังหาเรือถึงการบูรณาการทำงานร่วมกันของศบ.ทก.​ และกลไกที่เกี่ยวข้อง ที่จะดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลไทยที่ได้ยกระดับความเข้มข้น เรื่องของการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ รวมถึงการหลอกลวงทางออนไลน์​ การค้ามนุษญ์​ และการลักลอบขนยาเสพติด​ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายหลังการออกรายงานเรื่อง scramer Center ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ เมื่อเดือน เม.ย. ที่ผ่านมา 

และย้ำถึงมาตรการที่นายกรัฐมนตรี​ได้ประกาศยกระดับ​ มีจุดมุ่งหมายโดยตรงต่อธุรกิจเครือข่ายอาชญากรรมทางการเป็นหลัก และไม่ได้มีเป้าหมายเพียงประชาชนทั่วไป แต่เป็นไปเพื่อความปลอดภัยของประชาชน ในบริเวณชายแดนของทั้งสองประเทศ และยืนยันว่ารัฐบาลไทยพร้อมให้ความร่วมมือกับทุกประเทศด้วยความจริงใจ เพื่อต่อสู้กับภัยคุกคาม 

นอกจากนี้ที่ประชุมวันนี้ยังได้มีการหารือถึงแนวทางการบริหารผลกระทบทางเศรษฐกิจ ในมาตรการต่างๆ​ เช่น​ มาตรการการระงับการนำเข้าน้ำมันของกัมพูชา​ ต่อผู้ประกอบการไทยในกัมพูชาและผู้ประกอบการไทยที่ทำธุรกิจกับฝ่ายกัมพูชา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันให้ข้อมูลชี้แจงข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ เพื่อให้หน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงได้บริหารสถานการณ์ต่างๆ ต่อไป 

ขณะเดียวกันยังขอความร่วมมือประชาชนชาวไทยไม่แสดงความเห็น ที่อาจจะเป็นการยั่วยุ หรือรุนแรงสุดโต่ง เพื่อไม่ให้สร้างความตึงเครียดเพิ่มเติม และไม่เป็นช่องทางให้ประชาชนของทั้ง 2 ประเทศสามารถโจมตีซึ่งกันและกัน ทั้งนี้รัฐบาลไทยต้องการเห็นการแสดงออกในโลกโซเชียลที่สร้างสรรค์มากยิ่งขึ้น ไม่ก้าวก่ายกิจการภายในของอีกฝ่าย เพื่อลดอุณหภูมิความตึงเครียด​ และส่งเสริมให้เกิดบรรยากาศที่เอื้อต่อการหาทางออกร่วมกันของทั้งสองฝ่าย โดยเฉพาะระหว่างรัฐบาลที่ต้องตอบสนองต่อประชาชน ซึ่งเป้าหมายสำคัญของฝ่ายไทยโดยเฉพาะของกระทรวงการต่างประเทศยังคงต้องการเห็นการกลับสู่โต๊ะการหารือ แล้วบอกว่าฝ่ายกัมพูชาจะตอบสนองต่อคำเชิญเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการเขตแดน​ส่วนภูมิภาค​ หรือ​ RBC ในโอกาสแรก 

พล.ร.ต.สุรสันต์ กล่าวว่า สถานการณ์ชายแดนโดยเฉพาะจุดผ่านแดนต่างๆ ที่ได้มีการยกระดับมาตรการควบคุมการผ่านเข้าออกที่เข้มงวดมากยิ่งขึ้น เป็นผลจากการตั้งใจของฝ่ายไทย​ ในการปราบปรามขบวนการธุรกิจอาชญากรรมข้ามชาติ​ ตามแนวชายแดน​ ซึ่งที่ผ่านมาฝ่ายกัมพูชาได้เคยกล่าวถึงเจตจำนงความต้องการในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติภายในกัมพูชา​ จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลกัมพูชาแสดงความจริงใจในการให้ความร่วมมือกับฝ่ายไทยในการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ จะเห็นได้ว่าการดำเนินการของฝ่ายไทยในทุกมาตรการที่เกี่ยวข้องได้รับการพิจารณากลั่นกรองจากเวทีการประชุม ศบ.ทก

 ออกเป็นคำสั่งควบคุมจุดผ่านแดนต่างๆ และช่วยเหลือประชาชนทั้ง 2 ประเทศ​ ผ่านหลักมนุษยธรรม​ โดยที่ประชุม ศบ.ทก.​มีผู้บริหารระดับสูงจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุมหารือในการระดมความคิด​ แก้ไขปัญหา ซึ่งถือว่าเบ็ดเสร็จในการประชุม 

ขณะเดียวกันมาตรการเยียวยาประชาชน และผู้ประกอบการไทย​ ทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะปัญหาเรื่องปาก​ท้อง​ การค้า​ และการขนส่งสินค้า​ รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ และให้ดำเนินการมาตรการเร่งด่วนในการช่วยเหลือเยียวยาไปบางส่วนแล้ว​ และเร่งหารือในที่ประชุมศบ.ทก.​ อย่างต่อเนื่อง​ ในการกำหนดมาตรการเพิ่มเติมเพื่อให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบทุกภาคส่วนทั้งประชาชนผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้อง​ และในวันนี้ขอขอบคุณกรมการค้าภายในกระทรวงพาณิชย์ที่ได้ประสานภาครัฐ​ เอกชน​ เข้ามาช่วยเหลือรับซื้อผลไม้ของเกษตรกรในพื้นที่ตะวันออก​ ที่ได้รับผลกระทบจากการที่ไม่สามารถส่งผลไม้ไปยังกัมพูชาได้​ 

โดยในเบื้องต้นมีการแจ้งความประสงค์รับซื้อมาแล้วกว่า 20,000 กิโลกรัม และยังมีคนไกลของพาณิชย์จังหวัด​ ที่ช่วยเชื่อมโยงผลผลิตจากทั่วประเทศมาจัดกิจกรรมส่งเสริมการบริโภคในหลายพื้นที่ กว่า 75,000 กิโลกรัม ซึ่งเป็นการสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรในทันที​ จึงอยากขอเชิญชวนประชาชน​ร่วมกันสนับสนุนสินค้าตามแนวชายแดน เพราะถือเป็นกำลังใจและเป็นกำลังที่สำคัญให้กับคนไทยทุกคน

Advertisement

แชร์
ศบ.ทก.​ ย้ำ​แม้ไทยยกระดับจำกัดเข้า-ออกด่าน​ แต่ยึดหลักมนุษยธรรม​