เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน นายธนกร วังบุญคงชนะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) โพสต์เฟสบุ๊คว่า ตลอดเส้นทางการเมืองที่ผ่านมา ผมยึดมั่นในจุดยืนที่ชัดเจน คือการทำงานเพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชนโดยยึดหลัก ชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และความซื่อสัตย์ต่อบ้านเมือง ผมมีโอกาสร่วมงานกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ท่านคือผู้นำที่ผมเคารพนับถือเสมอมา
เป็นแบบอย่างของความเสียสละ ความอดทน และการวางตัวเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ และสำหรับผม "คนดี มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์" คือ ลุงตู่ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน ผมก็ยังยึดมั่นในแบบอย่างนี้
พรรครวมไทยสร้างชาติคือพรรคที่ลุงตู่ตั้งใจช่วยสร้างขึ้นมาเพื่อให้เป็นพรรคการเมืองที่มีคุณภาพในระบบการเมืองไทย ผมจึงก้าวเข้ามาอยู่บ้านหลังนี้ด้วยศรัทธาในตัวท่าน ร่วมสร้างบ้านมาด้วยกัน แต่เมื่อวันหนึ่ง ท่านไม่ได้อยู่บ้านหลังนี้แล้ว และบ้านหลังนี้เปลี่ยนเจ้าของ ผมเองในฐานะผู้ที่มาทำงานการเมืองอย่างสุจริต
กลับกลายเป็นเพียง "ผู้อาศัย" ที่ไม่รู้สึกอบอุ่น ไม่สามารถทำหน้าที่เพื่อประชาชนได้อย่างเต็มที่เหมือนเดิม ผมจึงต้องตัดสินใจเดินตามเส้นทางของตัวเองในช่วง2 ปีที่อยู่บ้านหลังนี้ ผมไม่เคยขัดแย้งกับใครเลย มุ่งทำงานในบทบาทของ สส.อย่างเต็มที่ทุกเวลา ทุกสถานการณ์ ทั้งอภิปรายในสภาฯ นำปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนมาแก้ปัญหาในสภา การลงพื้นที่พบปะกับพี่น้องประชาชน การสื่อสารให้พรรค
และผมอยากเรียนว่าการตัดสินใจของผมครั้งนี้ "ลุงตู่เข้าใจดี" เพราะท่านรู้ว่า ผมไม่เคยเปลี่ยนหัวใจในการทำงานการเมืองเพื่อพี่น้องประชาชนและไม่เคยหันหลังให้กับอุดมการณ์ที่ท่านยึดถือมา
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาผมทราบดีว่ามีความไม่สบายใจจากบางข่าวที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงภายในพรรค รวมถึงชื่อของผมที่ถูกพูดถึงในฐานะผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ผมอยากใช้พื้นที่นี้เรียนตรงๆ กับพี่น้องประชาชนว่า ผมไม่เคยทำเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว ทุกการตัดสินใจของผมในเวทีการเมืองยึดเพียงสิ่งเดียวคือ ประโยชน์สูงสุดของประชาชน และประเทศชาติ
ผมเข้าใจและเคารพความรู้สึกของพี่น้องที่รักและศรัทธาใน "ลุงตู่" เพราะผมเองก็ยืนอยู่ตรงจุดนั้นเหมือนกัน ผมภูมิใจที่ได้ร่วมงานกับท่าน และผมยังคงศรัทธาในจริยธรรมทางการเมืองที่ท่านยึดถือจนถึงวันนี้ หากสิ่งใดที่ทำให้พี่น้องประชาชนที่รักผมผิดหวัง ผมขอน้อมรับและขอสัญญาว่า จะไม่ทำให้ศรัทธาที่ทุกท่านมอบให้ผมต้องสูญเปล่า ใครที่รู้จักผมดี จะรู้ว่าผมเป็นคนแบบไหน ผมไม่เคยเปลี่ยนหัวใจในการทำงานทางการเมืองเพื่อพี่น้องประชาชน ไม่ว่าจะอยู่ตรงไหน ผมไม่เคยคิดว่าตัวเองเป็นนักการเมืองที่สมบูรณ์แบบ แต่ผมตั้งใจจะเป็น "นักการเมืองที่ซื่อสัตย์กับประชาชน" ให้ดีที่สุด
และสุดท้ายนี้ ผมเชื่อว่า…เมื่อถึงเวลา ทุกอย่างจะชัดเจนในสายตาประชาชนว่าอะไรคือความจริง และใครยืนหยัดอยู่บนหลักการอย่างแท้จริง
Advertisement