Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
“แม่ทัพภาคที่ 2” กร้าว กองทัพไทยไม่เคยถอนจากเส้นเขตแดน

“แม่ทัพภาคที่ 2” กร้าว กองทัพไทยไม่เคยถอนจากเส้นเขตแดน

10 มิ.ย. 68
18:19 น.
แชร์

“แม่ทัพภาคที่ 2” กร้าว กองทัพไทยไม่เคยถอนจากเส้นเขตแดน ลั่นพื้นที่บรรพบุรุษเคยรักษาไว้จะไม่ยอม เชื่อมีข่าวดี 14 มิ.ย. นี้

วันที่ 10 มิ.ย. ที่ รร. บ้านตายอย ตำบลโดมประดิษฐ์ อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เดินทางมาตรวจสอบความเรียบร้อยสำหรับการปรับปรุงบังเกอร์หลบภัยในพื้นที่โรงเรียน ซึ่งอยู่ห่างจากชายแดนประมาณ 30 กิโลเมตร โดยทางโรงเรียนแจ้งว่าได้มีการเตรียมแผนเผชิญเหตุเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับเหตุการณ์ รวมถึงติดตามข่าวสารด้านความมั่นคงอยู่ตลอด

โดยขณะที่ทาง ผอ.รร. ได้มีการรายงานว่า โรงเรียนหนองโพดวิทยา ยังไม่มีบังเกอร์หลบภัย ซึ่งมีความประสงค์ที่จะต้องการจัดสร้าง ซึ่งทางแม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งให้ทหารในพื้นที่ดำเนินการ ขณะที่ในพื้นที่เองยังมีการพูดถึงรถเคลื่อนย้ายผู้ป่วยติดเตียง ซึ่งทางแม่ทัพภาคที่ 2 บอกว่า ในพื้นที่มีรถฉุกเฉิน 1669 เตรียมพร้อมเพื่อดูแลประชาชนในพื้นที่อยู่ ซึ่งในขณะนี้เราต้องช่วยเหลือซึ่งกันและกัน

จากนั้นแม่ทัพภาคที่ 2 ได้พูดคุยกับประชาชนจากบ้านหนองครก บ้านตายอย และบ้านหนองแวง และเด็กๆ นักเรียน ว่า วันนี้ตนมาพร้อมกับรองแม่ทัพ และผบ.กองกำลัง มาเยี่ยมและให้กำลังใจ พร้อมทั้งมาดูหลุมหลบภัย และดูโรงเรียนว่าเป็นอย่างไรบ้าง เพราะเราไม่รู้ว่าทุกวันนี้อาวุธของแต่ละประเทศยิงได้ไกลไป 100 กว่ากิโลเมตรหรือไม่ จึงต้องป้องกันไว้ก่อน และลูกหลานเราที่อยู่ในโรงเรียนขอให้เชื่อฟังคุณครู เมื่อมีคำสั่งเปิด-ปิดเรียน และให้มีสัญญาณฉุกเฉิน

อย่างไรก็ตามสถานการณ์ในขณะนี้ดีขึ้นแล้ว แต่ทางกองทัพ จะพยามทำให้สถานการณ์ไม่ให้เกิดการสู้รบ หรือการยิงกัน เนื่องจากจะกระทบกับพี่น้องประชาชน ซึ่งเรามีการพูดคุยในการเจรจา เมื่อมีข่าวสารจะมีการให้ทหารในพื้นที่แจ้งผู้นำในพื้นที่ และหากมีการอพยพจะมีทางเจ้าหน้าที่มาบอกข้อมูล แต่ในระยะนี้ตนคิดว่าไม่น่าจะต้องมีการอพยพ เพราะมีระยะที่ห่างไกล ช่วงนี้ยืนยันว่าไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วง เราสามารถทำมาหากินได้ตามปกติ แต่สำหรับแนวชายแดนอย่าเพิ่งเข้าไป เช่น การเก็บเห็ด หรือหากมีข้อสงสัยให้ถามทหารในพื้นที่ก่อน นอกจากนี้ขอให้ดูแลคนในชุมชน ซักซ้อมเพื่อรองรับเหตุการณ์ที่ไม่สงบ ซึ่งแนวชายแดนมีทหารและลูกหลานของเราไปเต็มไปหมด ขอให้สบายใจได้ ไม่มีปัญหา แม่ทัพ มีทหารอยู่แนวหน้า ด้านหลังฝากผู้ใหญ่บ้าน กำนัน นายอำเภอและผู้กำกับ ได้ดูแลและช่วยกันเป็นหูเป็นตาให้กับประเทศชาติบ้านเมือง ให้มีความชาติ รักแผ่นดิน อย่าทะเลาะเบาะแว้งกัน มีอะไรให้สามัคคีกันไว้

โดยช่วงหนึ่งแม่ทัพภาคที่ 2 เปิดโอกาสให้ประชาชนในพื้นที่ได้สอบถาม โดยชาวบ้าน ได้กล่าวว่า ขอเอาใจช่วยทหาร เราเชื่อใจทหารไทย แต่ยังไม่เชื่อใจทหารประเทศกัมพูชา แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า ไม่เป็นไร เพราะบางทีอาจจะเป็นวิธีการปฏิบัติของกัมพูชา ขึ้นอยู่กับพวกเราที่จะต้องระมัดระวังตัวเอง ซึ่งทหารต้องพูดคุยกับทหาร จึงพยายามบอกว่าต้องจริงใจต่อกัน อย่าโกหกกัน ซึ่งทางรัฐบาลก็เช่นเดียวกัน พร้อมยืนยันว่าเรามีความพร้อมทุกอย่าง หากมีการโกหกหรือโกหกเราก็พร้อมรับมือ ดังนั้นขอให้เผื่อใจไว้ทุกสิ่งทุกอย่างผลประโยชน์ของประเทศใครประเทศมัน แต่เราจะทำให้ดีที่สุด

ชาวบ้าน ยังมีการสอบถามอีกว่า สถานการณ์เช่นนี้จะยืดเยื้อเป็นเวลานานหรือไม่ เพราะการส่งผลต่อการประกอบอาชีพ ทั้งชาวบ้านยังมีความหวาดระแวง แม่ทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับสถานการณ์จะอีกนานไหมหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับ 2 ประเทศ ที่ต้องมีการพูดคุยกัน การต่อรองนั้นจะยอมกันได้หรือไม่ เพื่อผลประโยชน์ของชาติตัวเอง เราจะยอมมาเจอกันคนละครึ่งทางหรือไม่ จะสามารถพูดคุยกันเข้าใจหรือไม่ในเงื่อนไขของผลประโยชน์แต่ละประเทศ โดยจะต้องคุยกันและพบกันในจุดที่กำหนด ดังนั้นในวันที่ 14 มิถุนายน 2568 ขอให้พี่น้องประชาชนรอฟังข่าวดี เพราะคาดว่าน่าจะมีข่าวดีเกิดขึ้น โดยมีการปรับกำลังใหม่ในช่วงที่ผ่านมาถือว่าเป็นการส่งสัญญาณที่ดี แต่เหตุการณ์จะยืดเยื้ออีกนานหรือไม่นานอยู่ที่ความมุ่งมั่นและการยอมหรือยอมของแต่ละฝ่าย ซึ่งฝ่ายไทยพร้อมเจรจา แต่ฝั่งกัมพูชามียุทธศาสตร์ มีข้อพิจารณาอาจจะต้องมาพูดคุยว่าจะต้องดำเนินการอย่างไร แต่ในส่วนทหารไทยพร้อมดูแลแนวชายแดน ช่วงนี้ให้พี่น้องประชาชนทำมาหากินได้ตามปกติไม่ต้องหวาดระแวง หากมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นจะมีสัญญาณจากฝ่ายทหารส่งสัญญาณมายังพื้นที่ พร้อมฝากให้ช่วยเป็นหูเป็นตาให้กับคนในชุมชนว่ามีคนแปลกหน้าเข้ามาหรือไม่ ซึ่งหากพบเจอขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ อย่าคิดว่าเป็นหน้าที่ของตำรวจ ทหารเท่านั้น แต่พวกเราต้องช่วยกันดูแลชุมชนเพื่อให้เกิดความปลอดภัย

ชาวบ้านยังถามอีกว่าหากมีการพูดคุยกันแล้วฝ่ายไทยยอม แต่กัมพูชาไม่ยอมจะทำอย่างไรและ เราจะถอยหรือไม่นั้น

แม่ทัพภาคที่ 2 ระบุว่า แม่ทัพไม่เคยพูดคำว่าถอย และกองทัพไทยไม่เคยถอนจากเส้นเขตแดน เราอยู่ตรงไหนต้องอยู่ตรงนั้น และตรงไหนที่บรรพบุรุษเราเคยรักษาไว้เราจะไม่ยอม ยืนยันว่าไม่ถอยและหากกัมพูชาไม่ถอย ไทยก็จะไม่ถอย แต่หากจะถอยต้องถอยด้วยกัน ซึ่งหมายถึงกำลังจะทหาร แต่ดินแดนที่เป็นตามเส้นเขตแดนต้องเป็นเอกภาพและเป็นเอกลักษณ์ของอธิปไตยของไทยเราตลอดไป และต้องดูแลสมบัติผืนดินนี้ให้กับลูกหลาน พร้อมยืนยันว่าเราต้องรักษาผลประโยชน์ทหาร และของชาติมาก่อนเป็นหลัก

นอกจากนี้ชาวบ้านยังถามถึงเศรษฐกิจแนวชายแดนในขณะนี้ก็แย่ จะมีแนวทางในการช่วยเหลือชุมชนอย่างไร แม่ทัพภาคที่ 2 ระบุว่า เรื่องนี้จะรับไปถามรัฐบาลให้ เศรษฐกิจเป็นการบริหารจัดการของรัฐบาล แต่ทั้งนี้ขอให้เราขยันทำมาหากิน และทำอย่างสุจริต ไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน เศรษฐกิจโลกแต่ละประเทศไม่เหมือนกัน เราต้องดูว่าสถานการณ์โลกเป็นอย่างไรบ้าง

"กองทัพตั้งอยู่บนพื้นฐานผลประโยชน์ประเทศชาติเป็นหลัก ไม่มีผลประโยชน์อย่างอื่นมาแอบแฝง ไม่เกี่ยวกับผลประโยชน์ส่วนตน แผ่นดินนี้เราต้องรักษาต่อไป ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตามขอให้พวกเราได้เป็นกองหนุนเป็นกองเชียร์ให้กับลูกหลานทหารเราที่อยู่แนวหน้า พวกเราทำหน้าที่ให้ดีที่สุดไม่ต้องเป็นห่วง และขอให้เราได้ดูแลกันให้เป็นอย่างดีในชุมชน ซึ่งถึงเวลานี้ต้องรู้รักสามัคคี เพราะประเทศชาติบ้านเมืองจะอยู่ได้ด้วยความรัก และประเทศชาติจะอยู่ได้ชั่วลูกชั่วหลาน" แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าว.

Advertisement

แชร์
“แม่ทัพภาคที่ 2” กร้าว กองทัพไทยไม่เคยถอนจากเส้นเขตแดน