นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงกรณีการเผยแพร่เอกสารรายชื่อ 21 สส.รวมไทยสร้างชาติ เพื่อขอปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ในข้อเท็จจริงอย่างที่บอก ทั้งตนและนายพีระพันธ์สาลี รัตน์ทวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เราทำงานเรารู้ดีว่าต้องเจอกับอะไรในภารกิจของเรา ทั้งที่กระทรวงพลังงาน และโดยเฉพาะกระทรวงอุตสาหกรรม เราต้องมุ่งมั่นในภารกิจที่เราทำ แต่ในส่วนข่าวเอกสารต้นตั้งข้อสังเกตว่าเป็นเอกสารจริงหรือไม่ ตนยังไม่ทราบว่ามีการยื่นเอกสารไปถึงนายกรัฐมนตรีจริงหรือไม่ มันมีหลายข้อพิรุธ หลังจากที่ข่าวออกมา มี สส. หลายท่านออกมาปฏิเสธ เท่าที่ตามข่าวมี สส.ชุมพร 3 คน ที่บอกว่าไปในพื้นที่แล้วถูกคนด่า ทำให้คนเข้าใจผิด เขาก็ต้องรีบออกมาชี้แจงและเห็นสิ่งผิดปกติ คือ มีลายเซ็นที่อยู่ในรายชื่อออกมาปฏิเสธ
เรื่องที่ 2 คือ เรื่องเนื้อความเขียนว่ารัฐมนตรีของพรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่มีความรู้ ไม่มีความสามารถ ขาดจริยธรรม ลงชื่อโดยนายสุชาติ ชมกลิ่น ซึ่งนายสุชาติ เองก็เป็นรัฐมนตรีของพรรครวมไทยสร้างชาติ ตนจึงไม่ทราบว่าจริงเท็จอย่างไร ว่านายสุชาติ ได้เห็นข้อความในเอกสารนี้หรือไม่ แต่ถ้าเห็นแล้วอ่านแล้ว แปลว่าเป็นลายเซ็นของนายสุชาติ ที่มีการรับรอง ว่ากำลังด่าตัวเองอยู่ ว่าไม่มีความรู้ไม่มีความสามารถและขาดจริยธรรม ก็ต้องไปถามนายสุชาติว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ซึ่งลายเซ็นที่ตนเองเห็นเท่าที่มีคนส่งมาให้ดู บอกว่าหลายลายเซ็นไม่ตรงกับลายเซ็นที่ใช้ในเอกสารราชการ
นายเอกนัฏ ยังระบุด้วยว่าเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.68 มีเพจหนึ่งโพสต์ภาพลายเซ็น สส. ซึ่งตนจำได้ว่าเคยเห็นลายเซ็นตั้งแต่สมัยสมัครเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่ค่อยตรงเท่าไหร่ บางชื่อเซ็นแค่ตัวอักษรย่อตัวนำของชื่อจริง ซึ่งมันก็ผิดวิสัยเอกสารสำคัญ จึงไม่รู้ว่ามีการนำลายเซ็น ที่เคยเซ็นมาประกอบในเอกสารแนบหรือไม่
แต่อย่างไรก็ตาม เรื่องในพรรคก็ควรเป็นเรื่องในพรรคและไปจัดการกันเองภายในพรรค ไม่เกี่ยวอะไรกับเสถียรภาพของรัฐบาล พร้อมยอมรับว่า ได้มีการพูดคุยกับนายพีระพันธุ์ เรียบร้อยแล้ว
ส่วนจะมีการพูดคุยกันในพรรคหรือไม่ นายเอกนัฏ กล่าวว่า ตอนนี้ได้ให้โอกาสผู้ที่มีรายชื่อได้แสดงความโปร่งใส หากท่านไม่ได้มีเจตนากดดันนายกรัฐมนตรี หรือด่ารัฐมนตรีของพรรค ก็ควรจะออกมาพูดเรื่องนี้และที่ผ่านมาก็มีการพูดคุยกับสมาชิกพรรคตลอดและไล่คุยตั้งปรากฎภาพนัดทานข้าว ซึ่งมันก็เหมือนกับครั้งนี้ที่ สส. หลายท่านมาปฏิเสธ แต่ส่วนตัวก็ไม่รู้ว่าเอกสารนี้หลุดออกมาจากใคร
"ตนอยากชวนสื่อมวลชนดูว่าใครที่อยู่เบื้องหลังเอกสารนี้ พร้อมยกตัวอย่างตอนที่ตนตรวจคุณภาพเหล็ก มีเอกสารหลุดออกมาผิดไปตัวเดียว ก็เท่ากับผิดทั้งล็อต วันนี้ที่ชัดเจนเลยมีคนออกมาปฏิเสธในรายชื่อ 21 ชื่อ มีคนออกมาปฏิเสธไม่ต่ำกว่า 5 คน นี่มันเอกสารเถื่อนแล้วนะครับ"
นายเอกนัฏ ยังตั้งข้อสังเกตด้วยว่าที่ผ่านมามีคนพยายามที่จะเอาตนเองออกจากตำแหน่งให้ได้เพราะไปสร้างศัตรูไว้เยอะ มีค่าหัว โดยมีการลงขันกันหลายร้อยล้าน แล้ววันนี้คิดว่ามากกว่าเดิม
ส่วนที่มีกระแสข่าวว่าสส.ภายในพรรคอยากให้ขับออก นายเอกนัฏ กล่าวว่า ยังไม่มีใครพูดเรื่องนี้ แต่ก็เป็นเอกสิทธิ์ของทุกคน หากเห็นว่าอุดมการณ์และจุดยืนของพรรคไม่เป็นไปตามอุดมการณ์ของเขาก็มีสิทธิ์ที่จะลาออกอยู่แล้ว แต่ตราบใดที่ยังเป็นสมาชิกของพรรค เขาต้องปฏิบัติตามข้อบังคับพรรค และขอเตือนเลยว่าหากมีการกระทำความผิดต่อข้อบังคับร้ายแรง เช่น การฝักใฝ่พรรคการเมืองอื่น ผิดจริยธรรมร้ายแรง บิดเบือนเอกสาร และปลุกปั่นความแตกแยกภายในพรรคเพื่อหวังผลอะไรบางอย่าง สิ่งเหล่านี้อาจมีผลทำให้ขาดสมาชิกภาพ ขอให้ไปอ่านดูดีๆ
เมื่อถามว่าจะต้องมีการตั้งคณะกรรมการสอบ 21 สส. ที่ลงชื่อหรือไม่ นายเอกนัฏ กล่าวว่าให้สื่อมวลชนไปสอบถาม 21 สส.ได้ไปลงชื่อหรือไม่
ส่วนนายสุชาติมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หรือไม่ขอให้ไปถามเจ้าตัวเอง เพราะขณะนี้ยังไม่รับสายตนเองเลย จึงไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วเป็นอย่างไร แต่มันแปลกตรงที่ว่าใครจะไปเซ็นต์ชื่อปลดตัวเอง ด้วยเหตุผลที่ว่าขาดความรู้ความสามารถและขาดจริยธรรม เพราะนายสุชาติ เป็นรัฐมนตรีเช่นกัน
เมื่อถามว่าพรรครวมไทยสร้างชาติจะเสนอปรับครม.ในสัดส่วนของพรรคหรือไม่ นายเอกนัฏ ระบุว่า การจะปรับหรือไม่ปรับต้องรอสัญญาณจากนายกรัฐมนตรี ซึ่งตอนนี้เรายังอยู่ภายใต้พันธสัญญาที่มีต่อกันตั้งแต่ต้น ส่วนจะปรับไม่ปรับอย่างไรก็มีกลไกของพรรค ให้เป็นไปตามการตัดสินใจของกรรมการบริหารพรรค และข้อบังคับพรรค
นายเอกนัฏ กล่าวต่อด้วยว่า นายกรัฐมนตรีก็ได้ให้กำลังใจพรรครวมไทยสร้างชาติ ในทุกเรื่อง แต่ยังไม่ได้ถามว่ามีการยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี จริงหรือไม่ และนายกรัฐมนตรีก็สนับสนุนการทำงานเป็นอย่างดี
เมื่อถามย้ำว่าจากการพูดคุยกับ สส.ที่ลงชื่อได้ถามหรือไม่ว่าได้เห็นเอกสารปะหน้าหรือไม่ นายเอกนัฏ ระบุว่า เท่าที่คุยก็บอกว่าไม่รู้เรื่องไม่รู้ว่าลายเซ็นไปเซ็นตั้งแต่เมื่อไหร่และเอกสารที่เซ็นก็ไม่เคยมีใจความแบบนี้ ที่เป็นการพาดพิงต่อว่ารัฐมนตรีของพรรค และไม่เคยไปท้าทายกดดันนายกดนตรีให้ปรับรัฐมนตรีของพรรครวมไทยสร้างชาติ
เมื่อถามว่ามองปรากฏการณ์นี้อย่างไรกับภาพรับประทานอาหารและเอกสารหลุด นายเอกนัฏ ระบุว่า ตนเตรียมใจไว้แล้ว ตอนเป็นคนยอมหักไม่ยอมงอเขาก็ต้องใช้ทุกวิธีในการจัดการ
“ผมว่าแทงจากข้างนอกเขาก็รู้ว่าจุดอ่อนของผมแทงไม่เจ็บเท่ากับข้างในป่วนข้างนอกไม่พอก็ต้องมามาป่วนข้างใน ผมเชื่อว่ามีคนที่ขาดผลประโยชน์ที่กำลังสร้างเรื่องนี้ให้เกิดความแตกแยกเชื่อว่าเป็นอย่างนั้น”
นายเอกนัฏ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมากรรมการบริหารพรรคก็มีการสื่อสารกับ สส. ไปสภาผู้แทนราษฎรตนก็คุยกับทุกคนแต่แปลกที่ข่าวออกมาในสถานการณ์แบบนี้ โดยเฉพาะตนและนายพีระพันธุ์ก็คงไปเหยียบเท้าใครมาบ้าง เรื่องนี้เป็นหน้าที่สื่อมวลชน ก็ควรไปขยายความตามหาข้อเท็จจริงสาวลึกลงไปให้ได้ ว่าบุคคลที่อยู่เบื้องหลังกระบวนการนี้เป็นใคร เพราะได้อ่านในเอกสารก็เห็นความผิดปกติแล้ว
Advertisement