Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
“ปานเทพ” โพสต์ความจริง195 กิโลเมตร ไทย-กัมพูชา

“ปานเทพ” โพสต์ความจริง195 กิโลเมตร ไทย-กัมพูชา

8 มิ.ย. 68
09:54 น.
แชร์

“ปานเทพ” โพสต์ ความจริง 195 กม.ไทย-กัมพูชา ไม่ต้องปักปันใหม่อะไรทั้งสิ้น ชี้แล้วเสร็จตั้งแต่รัชกาลที่ 5 ย้ำไม่มีคำว่า No Man’s Land มีแต่ “Thailand”

วันนี้ (8มิ.ย.68) นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออกมหาวิทยาลัยรังสิต  ในฐานะประธานมูลธิยามเฝ้าแผ่นดิน โพสต์แผนที่ พร้อมข้อความระบุว่า ความจริง 195 กิโลเมตร ไทย-กัมพูชา ไม่ต้องปักปันใหม่อะไรทั้งสิ้นแล้ว ประเทศไทยและกัมพูชา ได้มีการจัดทำหลักเขตแดนมีจำนวนทั้งสิ้น 73 หลักเสร็จสิ้นไปหมดแล้วตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 โดยหลักเขตแดนที่ 1 ถูกจัดทำขึ้นที่ช่องสะงำ จังหวัดศรีสะเกษ แล้วจัดทำหลักเขตแดนอื่นๆตามลำดับไปใน “ทิศตะวันตก” จากช่องสะงำ จนไปสิ้นสุดหลักเขตที่ 73 ที่จังหวัดตราด

ส่วน “ทิศตะวันออก” จากช่องสะงำ จังหวัดอุบลราชธานี เป็นขอบหน้าผาพนมดงรักมีความยาว 195 กิโลเมตร “ไม่ต้องมีหลักเขตแดนใดๆเลย“เพราะ มีขอบหน้าผาตามธรรมชาติเป็นสันปันน้ำตามธรรมชาติ จึงไม่ต้องทำหลักเขตแดนใดๆ

ตัวอย่างหลักฐาน “ผลงาน” การเดินสำรวจและปักปันเขตแดนระหว่างสยามกับฝรั่งเศสได้แก่ เอกสารบันทึกการปาฐกถาของพันโท แบร์นาร์ด ประธานฝ่ายฝรั่งเศสของคณะกรรมการปักปันผสมสยามกับฝรั่งเศสชุดแรก ที่จัดตั้งขึ้นตามอนุสัญญา ค.ศ.1904 ซึ่งได้แสดงที่กรุงปารีส เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2450 อ ความตอนหนึ่งว่า:

“ทางเหนือยอดภูเขาดงรัก เป็นเส้นเขตแดนที่เห็นได้อย่างถนัดชัดแจ้ง”

หลักฐานอีกชิ้นหนึ่ง ปรากฏเป็นบันทึกรายงานของ พันเอก มองกิเอร์ ประธานกรรมการฝ่ายฝรั่งเศสในคณะกรรมการปักปันผสมสยามกับฝรั่งเศส ชุดที่ 2 ซึ่งจัดตั้งขึ้นมาตามสนธิสัญญา ค.ศ. 1907 (พ.ศ. 2450) ได้ยืนยันตามผลงานการสำรวจและปักปันของคณะกรรมการชุดแรกว่าขอบหน้าผาคือสันปันน้ำอย่างชัดเจนว่า:“เส้นเขตแดนเดินไปตามเส้นสันปันน้ำ ซึ่งอยู่ที่หน้าผาเห็นได้จากตีนภูเขาดงรัก”

นี่คือเหตุผลหลักในการตอบคำถามว่าทำไมคณะกรรมการปักปันสยาม-ฝรั่งเศส ชุดที่ 2 จึงเริ่มทำหลักเขตแดนทางบก “หมายเลข 1” ที่ ช่องสะงำ จ.ศรีสะเกษ ไปทางทิศตะวันตก จรดไปจนถึงจังหวัดตราดและตัวหลักเขตลำดับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆไปทางทิศตะวันตก

โดยปล่อยทิ้งด้านทิศตะวันออกจนถึงช่องบก จ.อุบลราชธานี ความยาวถึง 195 กิโลเมตรว่าไม่ต้องทำหลักเขตแดน เพราะสามารถเห็นหน้าผาเป็นเส้นเขตแดนที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าจากตีนภูเขาดงรัก

ดังนั้นจากช่องสะงำ จังหวัดศรีสะเกษ ไปทางทิศตะวันตกถึงช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี แผ่นดินเหนือสันปันน้ำคือแผ่นดินไทยทั้งหมด ไม่ต้องมีการปักปันใหม่ใดๆทั้งสิ้นแล้ว

เช่นเดียวกับหลักเขตที่ 1 ถึงหลักเขตที่ 73 คณะกรรมการปักปันสยามกับฝรั่งเศส ก็ได้ “ปักปัน” เสร็จสิ้นไปหมดแล้วตั้งแต่ในสมัยรัชกาลที่ 5 ส่วนที่สูญหายไปก็ให้จัดทำขึ้นมาทดแทนเท่านั้น รวมถึงปราสาทตามเมือนธม ปราสาทตาเมือนโต๊ด และปราสาทตาควาย อยู่หลังแนวสันปันน้ำฝั่งไทยเช่นเดียวกัน และควรจะนำไปขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของฝ่ายไทยโดยเร็ว

เมื่อมีการรุกล้ำราชอาณาจักรไทยแนวสันปันน้ำต้องผลักดันผู้รุกรานออกไปสถานเดียว ไม่มีคำว่า No Man’s Land มีแต่ “Thailand”

ดังประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 119 บัญญัติว่า "ผู้ใดกระทำการใดๆ เพื่อราชอาณาจักรหรือส่วนหนึ่งส่วนใดของราชอาณาจักร ตกไปอยู่ใต้อำนาจอธิปไตยของรัฐต่างประเทศ หรือเพื่อให้เอกราชของรัฐเสื่อมเสียไป ต้องระวังโทษประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีวิต"

 

Advertisement

แชร์
“ปานเทพ” โพสต์ความจริง195 กิโลเมตร ไทย-กัมพูชา