Logo site Amarintv 34HD
Logo LiveSearch
Search
Logo Live
Logo site Amarintv 34HD
ช่องทางติดตาม AMARINTV
  • facebook AMARIN TV 34 HD
  • x AMARIN TV 34 HD
  • line AMARIN TV 34 HD
  • youtube AMARIN TV 34 HD
  • instagram AMARIN TV 34 HD
  • tiktok AMARIN TV 34 HD
  • RSS Feed AMARIN TV 34 HD
นายกรัฐมนตรี รุกตลาดผลไม้ไทย การันตีมีคุณภาพดี รสชาติเป็นเอกลักษณ์

นายกรัฐมนตรี รุกตลาดผลไม้ไทย การันตีมีคุณภาพดี รสชาติเป็นเอกลักษณ์

13 พ.ค. 68
11:35 น.
แชร์

นายกรัฐมนตรี รุกตลาดผลไม้ไทยใน-ต่างประเทศ เร่งช่วยเกษตรกร การันตีมีคุณภาพดี รสชาติเป็นเอกลักษณ์ จ่อจัดกิจกรรม Thai Fruits Festival 

วันที่ 13 พ.ค. 68 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊ก “Ing Shinawatra” ระบุว่า “ส่งเสริมผลไม้ไทย ของดีไทยกันค่ะ” 

“ในปี 2568 นี้ ผลไม้ไทยมีผลผลิตเพิ่มขึ้น โดยเฉลี่ยราว 15% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา เนื่องจากสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยในช่วงติดดอก นับเป็นโอกาสสำคัญที่เราจะช่วยกันส่งเสริมผลไม้ไทยให้เข้าถึงผู้บริโภคมากขึ้น” 

“รัฐบาลเตรียมจัดกิจกรรม Thai Fruits Festival เพื่อกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ ผ่านกิจกรรมสร้างสรรค์ เช่น การประกวดเมนูอาหารจากผลไม้ ช่องทางการขายออนไลน์ และการนำผลไม้ไทยไปใช้ในกิจกรรมเพื่อสังคม รวมถึงการสนับสนุนการแปรรูปอย่างมีคุณภาพ” 

“ในต่างประเทศ เราเร่งเจรจา FTA เพื่อผลักดันการส่งออก พร้อมนำผลไม้ไทยไปร่วมงานแสดงสินค้านานาชาติ ขยายตลาดและสร้างโอกาสให้เกษตรกร ดิฉันเชื่อมั่นว่า ผลไม้ไทยมีคุณภาพดี มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ และมีศักยภาพที่จะเติบโตได้อีกมาก หากเราได้ร่วมมือกันสนับสนุน” 

“ขอเชิญชวนทุกท่าน ร่วมอุดหนุนผลไม้ไทยในฤดูกาลนี้ เป็นอีกหนึ่งวิธีง่าย ๆ ที่เราทุกคนสามารถช่วยกันสนับสนุนเกษตรกรไทยได้ค่ะ #ผลไม้ไทย #ThaiFruitsFestival” 

จากนั้น น.ส.แพทองธาร เปิดเผยถึงมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกผลไม้ในช่วงฤดูกาลผลผลิตออกสู่ตลาดจำนวนมากว่า ได้สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน เพื่อเร่งระบายผลไม้ภายในประเทศและผลักดันการส่งออกอย่างเป็นระบบ 

รัฐบาลตระหนักถึงปัญหาผลผลิตล้นตลาด โดยเฉพาะมะม่วง มังคุด เงาะ และทุเรียน จึงมอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงยุติธรรม และภาคเอกชน เร่งดำเนินแผนรับซื้อผลไม้จากเกษตรกรในแหล่งผลิต พร้อมขยายการจำหน่ายในประเทศผ่าน 4 แนวทางสำคัญ ได้แก่ การรับซื้อเพื่อจำหน่ายแก่ผู้บริโภค รับซื้อเพื่อกิจกรรม CSR รับซื้อเพื่อบริโภคในองค์กร รับซื้อโดยหน่วยงานภาครัฐ เช่น กรมราชทัณฑ์ เพื่อนำไปประกอบอาหาร 

โดยวันนี้ได้รับความร่วมมือจากภาคเอกชน 9 กลุ่ม 27 ราย ในการรับซื้อผลไม้รวม 103,760 ตัน โดยมีสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย, สภาอุตสาหกรรมฯ สมาคมผู้ค้า-ส่งออกผลไม้ไทย และเอกชนรายใหญ่อย่าง บ.สหพัฒนพิบูล จำกัด บ.ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด รับซื้อผลไม้รวมปริมาณกว่า 55,500 ตัน ด้านห้างค้าปลีกค้าส่งรายใหญ่ รับซื้อผลไม้กว่า 34,450 ตัน ปั๊มน้ำมัน ตู้เต่าบิน ไปรษณีย์ไทย หน่วยงานรัฐและมูลนิธิต่าง ๆ อีกรวม 13,810 ตัน 

รัฐบาลขอขอบคุณพันธมิตรภาคเอกชนที่เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกผลไม้ในปีนี้ 

นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ รัฐบาลยังมีกิจกรรมกระตุ้นการบริโภคผลไม้ในประเทศ เพิ่มช่องทางการจำหน่ายให้เกษตรกร ยกระดับราคาผลไม้ให้เหมาะสมอย่างทั่วถึงตลอดฤดูกาลโดยรณรงค์บริโภคผลไม้ผ่านสื่อโซเชียล โดย KOL ที่มีชื่อเสียง เพื่อขยายฐานผู้บริโภค รวมถึงการจัดกิจกรรมส่งเสริม เช่น การประกวดเมนูอาหารจากผลไม้สดและนวัตกรรม งาน Thai Fruits Festival ซึ่งคาดว่าจะช่วยระบายผลไม้ในประเทศได้กว่า 346,500 ตัน จากเป้าหมายรวม 730,000 ตัน 

ในส่วนของมาตรการการส่งออกผลไม้ไปต่างประเทศ ปี 2568 รัฐบาลตั้งเป้าการส่งออก ปริมาณ 4.13 ล้านตัน มูลค่า 8,800 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 308,000 ล้านบาท โดยเฉพาะตลาดใหญ่อย่างประเทศจีน รัฐบาลได้มีมาตรการด้านการสร้างความเชื่อมั่นผลผลิต โดยรัฐบาลเร่งผลักดันการตรวจรับรองมาตรฐาน GAP และตั้งศูนย์ “Set Zero” เพื่อสร้างความมั่นใจในคุณภาพผลไม้ไทย รวมถึงจัดตั้ง War Room เพื่อขับเคลื่อนการส่งออกอย่างเร่งด่วน พร้อมจัดชุดเฉพาะกิจเจรจากับประเทศคู่ค้า โดยเฉพาะประเทศจีน ซึ่งล่าสุดสำนักงานศุลกากรจีน (GACC) ได้ประกาศลดระดับการสุ่มตรวจสาร BY2 สำหรับทุเรียนไทยที่มีระบบจัดการดี มีผลตั้งแต่วันที่ 10 พฤษภาคม ถือเป็นผลสำเร็จจากความร่วมมือระหว่างกระทรวงเกษตรฯ และภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง 

สำหรับตลาดต่างประเทศ รัฐบาลวางกลยุทธ์เจาะ 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ กลุ่มตลาดศักยภาพ 7 ประเทศ ได้แก่ ฮ่องกง มาเลเซีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน ออสเตรเลีย และสหราชอาณาจักร กลุ่มตลาดส่งเสริมภาพลักษณ์ 2 ภูมิภาค คือ ตะวันออกกลาง และเอเชียใต้ เพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์ผลไม้ไทย กลุ่มตลาดที่สะดวกต่อการขนส่ง 4 ประเทศ CLMV ได้แก่ กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม ซึ่งสามารถขยายการส่งออกผ่านระบบโลจิสติกส์ที่มีต้นทุนต่ำ 

นอกจากนี้ ภาครัฐจะดำเนินการส่งเสริมการขายผลไม้ไทยในต่างประเทศ ผ่านการร่วมงานแสดงสินค้านานาชาติ (Trade Fairs) และการส่งเสริมการขายในต่างประเทศ (Trade Promotion) เพื่อเพิ่มโอกาสทางการค้าและขยายตลาดผลไม้ไทยให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น 

“ผลไม้ไทยคือสินค้าที่มีศักยภาพและเป็นเอกลักษณ์ รัฐบาลจะเดินหน้าเต็มที่ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อให้เกษตรกรไทยได้รับผลตอบแทนที่เป็นธรรมและมั่นคง” นายกรัฐมนตรี กล่าว 

ทั้งหมดเป็นส่วนหนึ่งของ มาตรการบริหารจัดการผลไม้ ปี 2568 โดยมีเป้าหมาย : 950,000 ตัน  ประกอบด้วย 7 มาตรการ 25 แผนงาน

1. มาตรการสร้างความเชื่อมั่นผลผลิต 4 แผนงาน

2. มาตรการส่งเสริมตลาดในประเทศ 8 แผนงาน เป้าหมาย 730,000 ตัน

3. มาตรการส่งเสริมการแปรรูปและปรับพื้นที่เกษตรให้เหมาะสม 2 แผนงาน เป้าหมาย 220,000 ตัน

4. มาตรการส่งเสริมตลาดต่างประเทศ 4 แผนงาน

5. มาตรการยกระดับสินค้าผลไม้ไทย 3 แผนงาน

6. มาตรการแก้ไขอุปสรรคและอำนวยความสะดวกการค้า 2 แผนงาน

7. มาตรการกฎหมาย 2 แผนงาน

Advertisement

แชร์
นายกรัฐมนตรี รุกตลาดผลไม้ไทย การันตีมีคุณภาพดี รสชาติเป็นเอกลักษณ์