วันที่ 1 พ.ค. 68 นาย วิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนาย ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ตั้งองค์คณะไต่สวนการบังคับโทษจำคุกของนายทักษิณ ที่ไปรักษาตัวในชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจว่า
หลังจากนี้เราจะรอรับหมายจากศาลว่าจะสั่งให้เราทำอะไรบ้าง ซึ่งน่าจะมีสำเนาคำร้องของนาย ชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ ส่งมาพร้อมกันด้วย โดยเราจะต้องทำคำชี้แจงภายใน 30 วัน และเมื่อชี้แจงไปแล้ว ศาลก็จะดูคำชี้แจงจากหน่วยงาน หรือบุคคลต่างๆ และต้องดูว่าในวันนัดพร้อม ศาลจะมีคำสั่งให้ไต่สวนต่อไปหรือไม่
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทางทีมทนายได้เตรียมคำชี้แจงประเด็นไหนไว้บ้าง นายวิญญัติ กล่าวว่า ยังบอกประเด็นไม่ได้ เพราะเรายังไม่เห็นคำร้องที่ศาลส่งมา อย่างไรก็ตาม เราเตรียมหลักฐาน และเหตุผลในการเข้าไปในเรือนจํา รวมถึงข้อมูลว่าที่ผ่านมานายทักษิณมีอาการอย่างไร รักษาตัวอย่างไร และถูกปฏิบัติอย่างไร ทั้งนี้เราไม่ทราบว่าศาลจะให้แก้ข้อกล่าวหาในจุดไหน จึงต้องรอดูคำร้องก่อน
เมื่อถามว่า ในวันนัดพร้อม หากมีหลักฐานครบ ศาลสามารถมีคําสั่งนัดวันที่จะตัดสินได้เลยหรือไม่ นายวิญญัติ กล่าวว่า ต้องรอดูว่าศาลจะสั่งอย่างไร เป็นดุลยพินิจของศาล แต่แนวทางคือ หากศาลเห็นว่าหลักฐานเพียงพอแล้ว ก็อาจจะมีคำสั่งออกมา หรือมีเนื้อหาข้อเท็จจริงจากการไต่สวน แต่หากศาลมองว่าไม่เพียงพอ ก็อาจจะมีการนัดไต่สวน โดยเรียกบุคคลอื่นเพิ่มเติม
เมื่อถามว่า ทีมทนายมีความมั่นใจในการชี้แจงหรือไม่ นายวิญญัติ กล่าวว่า เรามั่นใจอยู่แล้ว เนื่องจากมีความเป็นจริงในเรื่องการถูกจำคุก ได้รับหมายจำคุก และถูกส่งตัวไปที่เรือนจำจริง ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น ถือว่าเป็นเหตุแทรกซ้อนเข้ามา เพราะนายทักษิณเคยมีการรักษาโรคปอด และความดันมาก่อนอยู่แล้ว อาการจึงเกิดขึ้นจริง จนมีความเห็นจากแพทย์ของโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และมีการส่งตัวตามปกติ เพราะฉะนั้น มั่นใจว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องจริง
เมื่อถามว่า นายทักษิณมีความกังวลเรื่องที่ศาลตั้งคณะไต่สวนหรือไม่ นายวิญญัติ กล่าวว่า ไม่กังวล เราอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง และสิทธิของผู้ต้องขังตามกฏหมาย รวมถึงกฎระเบียบของราชทัณฑ์ คิดว่าทำถูกทุกอย่าง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ทำตามหลักเกณฑ์
เมื่อถามว่า ในวันที่ 13 มิ.ย. นายทักษิณจะเดินทางไปศาลด้วยตัวเองหรือไม่ นายวิญญัติ กล่าวว่า ยังไม่ไป จะเป็นการส่งคำชี้แจงไปก่อน
Advertisement