รัฐสภายุโรปหรือ European Parliament เป็นสถาบันรัฐสภาของสหภาพยุโรป หรือ EU สมาชิกมาจากการเลือกตั้งโดยตรงของพลเมืองที่อยู่ในสหภาพยุโรป ซึ่งมีอายุ 18 ปี บริบูรณ์ขึ้นไป
โดยรัฐสภาฯ จะร่วมกับคณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรปเป็นผู้ใช้อำนาจนิติบัญญัติ
สมาชิกของรัฐสภาจะมีทั้งสิ้น 705 คน โดยการเลือกตั้งเมื่อปี 2024 มีผู้มีสิทธิเลือกตั้งประมาณ 375 ล้านคน และมีผู้มาใช้สิทธิ 181 ล้านคน
แม้รัฐสภายุโรปและคณะมนตรีมีอำนาจนิติบัญญัติ แต่รัฐสภายุโรปไม่มีอำนาจริเริ่มออกกฎหมาย
รัฐสภายุโรปมีที่ทำการสามแห่งคือที่ประชุมใหญ่แห่งสภาในกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม และสตราสบูร์ฏ ประเทศฝรั่งเศส และนครลักเซมเบิร์กเป็นที่ตั้งของสำนักงานบริหาร ("สำนักเลขาธิการ")
รัฐสภายุโรป มีอำนาจในการแก้ไขและอนุมัติกฎหมายของสหภาพยุโรป ร่วมกับคณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรป ถือว่ามีบทบาทสำคัญในการกำหนดนโยบายของสหภาพยุโรปในด้านต่าง ๆ เช่น สิ่งแวดล้อม การคุ้มครองผู้บริโภค และเศรษฐกิจ มีอำนาจอนุมัติงบประมาณประจำปีของสหภาพยุโรป
นอกจากนี้ ยังมีอำนาจในการ ตรวจสอบการทำงานของคณะกรรมาธิการยุโรป ซึ่งเป็นฝ่ายบริหารของสหภาพยุโรป มีอำนาจในการอนุมัติและถอดถอนคณะกรรมาธิการยุโรป ตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณของสหภาพยุโรป
รัฐสภายุโรป มีบทบาทสำคัญในการกำหนดทิศทางของสหภาพยุโรป และมีผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของพลเมืองยุโรปหลายล้านคน
สำหรับผลงานเด่น ๆ ที่ผ่านมา อาทิ สนับสนุนและผลักดัน "ข้อตกลงสีเขียวแห่งยุโรป" (European Green Deal) ซึ่งเป็นแผนยุทธศาสตร์เพื่อทำให้ EU เป็นทวีปแรกที่ปลอดคาร์บอน (Carbon Neutral) ภายในปี 2050 การออกกฎหมาย Climate Law (2021) กำหนดเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลง 55% ภายในปี 2030
ผ่าน "ระเบียบว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไป" (General Data Protection Regulation - GDPR) ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคม 2018 รวมถึงกำหนดมาตรฐานสูงสุดในการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชน เช่น สิทธิในการถูกลืม (Right to be Forgotten) และการยินยอมใช้ข้อมูล บังคับให้บริษัททั่วโลกที่ทำธุรกิจใน EU ปฏิบัติตาม เช่น Google, Facebook และกลายเป็นต้นแบบของการออกกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลทั่วโลกรวมถึง PDPA ของไทยด้วย
นอกจากนี้ ยังผลักดันให้ยกเลิกค่าบริการโรมมิ่ง (Roaming Charges) ภายใน EU มีผลตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน 2017 ทำให้ประชาชนสามารถใช้โทรศัพท์มือถือข้ามพรมแดนใน EU ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับการโทร ข้อความ และอินเทอร์เน็ต
การรับมือกับโควิด 19 อนุมัติมาตรการฉุกเฉิน บประมาณกู้คืน (Recovery Fund) มูลค่า 750,000 ล้านยูโร ภายใต้ NextGenerationEU เพื่อช่วยเหลือประเทศสมาชิกที่ได้รับผลกระทบ สนับสนุนการจัดซื้อและแจกจ่ายวัคซีนทั่ว EU
รวมถึงการออกกฎหมายต่อต้านการเลือกปฏิบัติ เช่น Equal Pay Directive (2023) เพื่อลดช่องว่างค่าจ้างระหว่างเพศ ผลักดันนโยบายรับผู้อพยพและผู้ลี้ภัย
Advertisement