เด็กก้าวไกล “ธันย์ชนน” ดักทาง ส.ว. เคารพหลักการ-ไม่ฝืนมติประชาชน ยกมือเลือก “พิธา” เป็น นายกรัฐมนตรี
วันที่ 11 ก.ค. 66 นาย ธันย์ชนน ศรีอัษฎาวุธกุล ผู้ช่วยรองเลขาธิการ พรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการประชุมรัฐสภา เพื่อ โหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 13 ก.ค. นี้ว่า หลังการเลือกตั้ง 14 พ.ค. มาจนถึงวันนี้ เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าฉันทามติของประชาชนคนไทย เลือกให้ฝ่ายประชาธิปไตยเป็นรัฐบาล โดยเฉพาะพรรคก้าวไกล ที่จะต้องได้เป็นแกนนำการจัดตั้งรัฐบาล
หากเป็นครรลองตามระบอบประชาธิปไตยปกติ ก็จะไม่มีข้อกังวลใดๆ เลยว่านาย พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จะต้องได้เป็นนายกรัฐมนตรีแน่นอน แต่ทว่าด้วยความผิดเพี้ยนที่เกิดจากรัฐธรรมนูญ 2560 และอิทธิพลของฝ่ายสืบทอดอำนาจจากการรัฐประหาร ทำให้จนถึงปัจจุบันเต็มไปด้วยการคาดการณ์ถึงอุปสรรคต่างๆ ที่จะทำให้นาย พิธาไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะอุปสรรคที่จะเกิดจากวุฒิสภา
นายธันย์ชนน กล่าวต่อว่า ท่ามกลางกระแสข่าวด้านลบเหล่านี้ เราก็ได้เห็นเสียงสนับสนุนที่เป็นฉันทามติออกมาจากประชาชนและภาคส่วนต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ทั้งประชาชนทั่วไป ผู้ประกอบการ และภาคประชาสังคม ที่ออกมาเรียกร้องให้มีการเดินหน้าตามครรลองประชาธิปไตย ให้การจัดตั้งรัฐบาลที่นำโดยพรรคก้าวไกลดำเนินไปอย่างราบรื่น และที่น่าชื่นชม คือการประกาศตัวสนับสนุนจาก ส.ว. หลายท่าน ที่ออกมายืนยันว่าจะสนับสนุนให้นาย พิธาเป็นนายกรัฐมนตรีอย่างแน่นอน
แม้จะมี ส.ว. บางส่วนที่ออกมาประกาศจุดยืนรายวันว่าจะไม่สนับสนุนนาย พิธาและ พรรคก้าวไกลให้จัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ แต่ตนเชื่อมั่นว่าจะยังคงมี ส.ว. อีกหลายท่านที่แม้จะไม่ได้ออกมาแสดงความเห็น แต่ก็มองความเป็นไปของบ้านเมืองอย่างมีเหตุมีผล มีคุณวุฒิเหนือกว่าอคติและความคิดเห็นส่วนตน มองเห็นถึงเหตุผลความจำเป็นที่ประเทศไทยต้องมีนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลใหม่เพื่อให้ประเทศไทยเดินหน้าต่อไปได้ พร้อมที่จะสนับสนุนการจัดตั้งรัฐบาลที่มาจากประชาชนโดยไม่ขัดฝืนฉันทามติของประชาชน
“การโหวตครั้งนี้มีความสำคัญมากกว่าแค่การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี เพราะโดยเนื้อแท้แล้วนี่คือการโหวตให้หลักการประชาธิปไตย โหวตให้หลักการที่ว่าพรรคที่รวมเสียงข้างมากได้ควรต้องได้บริหารประเทศ และการโหวตเพื่อยืนยันว่าท่านมีความเคารพต่อเสียงของประชาชนหรือไม่ จึงขอเป็นกำลังใจให้ ส.ว. ทุกท่านที่พร้อมนำพาประเทศไทยเดินหน้าต่อไป นำพาความฝันของประชาชนไปให้ถึงฝั่ง ได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างสมเกียรติโดยไม่หวั่นเกรงต่ออิทธิพลใดๆ จากฝ่ายอำนาจเก่าที่นำพาท่านมาถึงจุดนี้ เพราะในที่สุดประชาชนจะเป็นผู้ปกป้องคุ้มครองท่านที่ทำเพื่อประเทศชาติและประชาชนเอง” นายธันย์ชนน กล่าว
Advertisement