
กรณี "นานา ไรบีนา" ตกเป็นผู้ต้องหาคดีฉ้อโกง มูลค่าความเสียหายกว่า 195 ล้านบาท ล่าสุด ทางตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจได้เรียกประชุมนัดแรก เพื่อเร่งตรวจสอบเส้นทางการเงิน หลังมีผู้เสียหายรายใหม่เข้าแจ้งความกับ "เวย์ ไทยเทเนี่ยม" สามีของ "นานา ไรบีนา" อ้างถูกหลอกร่วมลงทุนเทรดหุ้น เสียหายกว่า 50 ล้านบาท อีกทั้งก็ได้พิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจ หลังถูกโยงมีเงินคริปโตซุกซ่อนหลัก 100 ล้านบาท
วันนี้ (08 ธันวาคม 2568) นายสายหยุด เพ็งบุญชู ทนายความ และ "เวย์ ไทเทเนี่ยม" ได้เข้าพบ "พันตำรวจเอกนิตติโชติ เพ็ญจำรัส" รองผู้บังคับการ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ผู้บังคับการตำรวจในฐานะหัวหน้าคณะทำงานสืบสวนสอบสวนคดีฉ้อโกงลงทุนที่มี "นานา ไรบีนา" เป็นผู้ต้องหา เพื่อดำเนินการเปิดและตรวจสอบกระเป๋าเงินดิจิทัล (Digital Wallet) แสดงความบริสุทธิ์ใจ และตรวจสอบมูลค่าทรัพย์สินตามที่มีข่าวพาดพิงถึง
"เวย์ ไทเทเนี่ยม" และ "นานา ไรบีนา" พร้อมด้วย "ทนายสายหยุด" ได้เดินทางมาถึงตั้งแต่เวลา 14.00 น. ก่อนจะเข้าพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้เวลานานกว่า 5 ชั่วโมงครึ่ง หลังจากนั้นทั้งคู่ก็ได้เดินทางกลับ ด้วยสีหน้านิ่งไร้กังวล พร้อมพูดส่งท้ายก่อนขึ้นรถว่า "ให้คุยกับทนายสายหยุดได้เลย"
โดย "ทนายสายหยุด" ก็ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ถึงการเข้าเจ้าหน้าที่ว่า "วันนี้มาเปิดกระเป๋าดิจิทัล ในนั้นมีเหรียญคริปโตอยู่ 2 ชนิด คือ เหรียญชิบะ และ เหรียญด็อก มูลค่ารวมของเหรียญทั้งหมดเมื่อแปลงเป็นเงินบาทแล้วอยู่ที่เพียงแสนกว่าบาทเท่านั้น ซึ่งเหรียญคริปโตดังกล่าวเป็นของ "พี่เวย์" จริง เขาซื้อเก็บไว้ตั้งแต่ 2-3 ปีที่แล้ว ในราคาประมาณ 5-6 หมื่นกว่าบาท ก่อนที่มูลค่าจะเพิ่มขึ้นเป็นหลักแสนบาทในปัจจุบัน
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้เชี่ยวชาญด้านเหรียญได้ดำเนินการเปิดกระเป๋าซึ่งต้องใช้เวลานานเนื่องจากต้องอัปเดตซอฟต์แวร์ และได้มีการบันทึกไว้ว่าทรัพย์สินดังกล่าวจะถูก ฟีด หรือเก็บไว้ที่เดิม โดยจะไม่มีการยักย้ายถ่ายโอนหรือนำไปแลกเป็นเงินในช่วงนี้
ทนายความยืนยันว่า พี่เวย์ยังไม่ถูกตั้งข้อกล่าวหาใดๆ และยังไม่มีการสอบปากคำจากเจ้าหน้าที่ตำรวจในประเด็นการฉ้อโกงหรือหลอกลวงใคร เนื่องจากตำรวจยังไม่ได้ระบุว่าการกระทำความผิดของพี่เวย์คืออะไร และใครคือผู้เสียหาย แต่หลังจากการเปิดกระเป๋าเงินดิจิทัลในวันนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องรวบรวมพยานหลักฐานและสอบปากคำผู้เสียหาย (หากมี) อีกสักระยะหนึ่งก่อน หากหลักฐานเพียงพอจะมีการออกหมายเรียกให้มาให้การเพิ่มเติมต่อไป
ส่วนประเด็นที่ "นานา" เดินทางมาวันนี้ แค่มาให้กำลังใจ และได้เดินทางมาพร้อมกับพี่เวย์ แต่เป็นการมาในฐานะเพื่อนและให้กำลังใจเท่านั้น โดยไม่ได้มีการนัดหมายสอบปากคำกับพนักงานสอบสวน
กรณีของ "ดีเจดาด้า" ที่จะมีการฟ้องร้องไหมนั้น ทนายความได้ประสานกับทนายความของดีเจดาด้าแล้ว และจะมีการพูดคุยกันอีกครั้ง ส่วน "เจนสุดา" และ "พอลล่า" ยังไม่เคยคุยกับ 2 คนนี้
สำหรับเรื่องคดีความหลังจากนี้ ทนายความเปิดเผยว่า ทั้งเวย์ และนานาขอโฟกัสไปที่เรื่องงานและธุรกิจเป็นหลัก เพราะคอนเสิร์ตกำลังจะเกิดขึ้นในช่วงปลายเดือนนี้จะยังคงมีขึ้นตามกำหนดการ ตนขอให้สาธารณชนแยกแยะระหว่างการกระทำส่วนตัวของคุณนานา ซึ่งหากทำผิดก็ต้องรับผิดชอบ กับเรื่องธุรกิจของบริษัทที่มีหุ้นส่วนหลายคน เพื่อไม่ให้กระทบต่อร้านค้า ผู้สนับสนุน และผู้ซื้อตั๋วคอนเสิร์ต
Advertisement