จากกรณีชาวบ้านแชร์ข่าวเตือนภัยผ่านโซเชียลมีเดีย ตามล่าหาตัวชายหนุ่มขี้ยา เจาะหู และมีรอยสักที่ด้านหลัง หลังฉุดนักเรียนสาว อายุ 17 ปี หวังจะข่มขืนในป่าไร่ยูคาลิปตัสท้ายหมู่บ้านท่ากูบ ต.ท่ากูบ อ.ซับใหญ่ จ.ชัยภูมิ ทำให้ชาวบ้านรู้สึกหวาดผวา ตามที่ปรากฏเป็นกระแสวิจารณ์นั้น
วันที่ 19 ก.ย. 64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยัง สภ.ซับใหญ่ ต.ซับใหญ่ อ.ซับใหญ่ จ.ชัยภูมิ เวลา 10.00 น. พ.ต.ต.สุทัศน์ ชัยสูงเนิน สว.(สอบสวน) สภ.ซับใหญ่ ได้ทำการสอบสวนนายทนุศักดิ์ คำพรม ผู้ก่อเหตุ อายุ 26 ปี ภายในห้องสอบสวน
เวลา 11.00 น. ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะคุมตัวนายทนุศักดิ์ เดินทางไปทำการตรวจร่างกายที่ รพ.ซับใหญ่ เพื่อตรวจสอบผลตรวจจากทางแพทย์ว่าตรงกับวัตุถุที่เด็กหญิงผู้เสียหายสวมใส่หรือไม่ และเป็นธรรมกับคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่าย อีกทั้งเป็นการยืนยันว่าขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนไม่ได้มีการทำร้ายร่างกายผู้ก่อเหตุหรือบังคับให้ยอมรับสารภาพการกระทำผิดแต่อย่างใด
เวลา 12.00 น. ตำรวจได้คุมตัวนายทนุศักดิ์เดินทางทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ชี้จุดเกิดเหตุจี้สาว 17 ปีเข้าป่ายูคาข่มขืน
บริเวณป่ายูคา ภายในพื้นที่ ต.ท่ากูบ อ.ซับใหญ่ จ.ชัยภูมิ ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านพักของผู้เสียหายประมาณ 160 เมตร
จุดเกิดเหตุเป็นป่ารกทึบ จุดก่อเหตุห่างจากถนนที่เป็นเส้นทางสัญจรเข้าหมู่บ้านท่ากูบ ประมาณ 100 เมตร ตำรวจให้ผู้ก่อเหตุทำการชี้จุดเพียง 2 จุด คือจุดที่กระทำการข่มขืน และจุดทึ่จอดรถจักรยานยนต์ ห่างกัน 20 เมตร ก่อนรีบนำตัวผู้ก่อเหตุขึ้นรถกลับโรงพัก เนื่องจากเริ่มมีชาวบ้านที่ทราบข่าวการทำแผนฯ ทยอยเดินทางมาดูกว่า 20 คน พร้อมตะโกนด่าผู้ต้องหาด้วยความโกรธแค้น
ระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวนายทนุศักดิ์ขึ้นรถ เจ้าตัวเผยความรู้สึกกับทีมข่าวสั้น ๆ ว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนยังคงยืนยันว่า ตนไม่ได้เป็นผู้ข่มขืน แต่หญิงผู้เสียหายเป็นฝ่ายสมยอม แต่รายละเอียดว่าคบหากันมานานแค่ไหน ไม่ขอตอบ แต่ในส่วนเรื่องรู้ผิดสึกหรือไม่ ตนอยากบอกกับครอบครัวของผู้เสียหายว่าตนอยากที่จะรับผิดชอบทุกอย่างกับการกระทำในครั้งนี้ หากทางครอบครัวผู้เสียหายยืนดี
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งข้อหาความผิดฐาน กระทำการขืนใจหญิงที่ไม่ใช่ภรรยาของตนเองและเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี, บังคับข่มขู่ขืนใจโดยใช้กำลัง ก่อนจะส่งตัวผู้ก่อเหตุฝากขังที่ศาล จ.ชัยภูมิ ต่อไป
นอกจากนี้ จากการตรวจสอบเฟซบุ๊กของผู้ต้องหา พบว่าหลังจากที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวมายัง สภ.ซับใหญ่ เมื่อวานนี้นายทนุศักดิ์ ได้มีการโพสต์ข้อความพร้อมโพสต์รูปขณะเจ้าตัวถูกสวมกุญแจมือหลายข้อความว่า ทุกวันนี้คนเราไว้ใจยากเนอะ ตอนนี้กับตอนนั้นปานหนังคนละม้วน ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย #พี่บ่คิดเลยว่า น้องจะทำได้ขนาดนี้, ผมทำผิดผมยอมรับ แต่ปากคน ก็พูดไปไม่คิดถึงชีวิตกันเลย ไม่ต้องเป็นห่วงผม ผมอยู่ได้ แต่ก็ไม่น่าทำกันขนาดนี้หรอก "จบเพราะรัก", ไม่เคยเลยว่าจะทำกันได้
ด้านนางระเบียบ เคียนทอง อายุ 62 ปี ชาวบ้านที่มาร่วมดูทำแผน เผยว่า ในวันนี้ที่ตนเห็นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัวผู้ก่อเหตุมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพภายในจุดเกิดเหตุ ตนรวมไปถึงชาวบ้านทุกคนต่างพากันดีใจและโล่งอก เนื่องจากหากผู้ก่อเหตุยังคงลอยนวลชาวบ้านก็คงต้องอยู่กันอย่างหวาดระแวง เกรงจะเกิดเหตุดังกล่าวซ้ำ
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนรวมไปถึงชาวบ้านอยากวอนขอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีเอาผิดกับผู้ก่อเหตุให้ถึงที่สุด เนื่องจากเป็นเคสกรณีที่อุกอาจและเกรงว่าหากผู้ก่อเหตุพ้นผิด อาจจะย้อนกลับมาก่อเหตุดังกล่าวซ้ำอีก