ตะลึงโครงกระดูกหนุ่มหายข้ามปี เข้าฝันบอกญาติหาศพ กู้ภัยรับเฮี้ยนช่วยรอดตาย (คลิป)

จากกรณีวันที่ 15 ก.ย. 64 เวลา 11.00 น. ร.ต.ท.อรรฆฤทธิ์ เย็นสวัสดิ์ รองสว.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุพบโครงกระดูกมนุษย์ภายในโรงสีร้าง หมู่บ้านพรสวรรค์ ต.หนองนาคำ อ.เมือง จ.อุดรธานี หลังรับแจ้งจึงออกไปตรวจสอบนั้น

วันที่ 16 ก.ย. 64 นายศักดิ์สิทธิ์ วีระสัย อายุ 29 ปี อาสากู้ภัยมูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรม กล่าวว่า วันที่ 15 ก.ย. 64 เวลา 11.00 น. ทางกู้ภัยมูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรมได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ พร้อมการประสานจาก ร.ต.ท.อรรฆฤทธิ์ เย็นสวัสดิ์ รองสว.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ว่าเกิดเหตุพบโครงกระดูกมนุษย์ภายในโรงสีร้าง หมู่บ้านพรสวรรค์ ต.หนองนาคำ อ.เมือง จ.อุดรธานี จึงร่วมรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมตำรวจพิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวร รพ.ศูนย์อุดรธานี

เมื่อที่เกิดเหตุพบเป็นโรงสีร้าง มีต้นไม้และหญ้าขึ้นปกคลุม บริเวณข้างกำแพงคอนกรีต ใต้เสาไฟฟ้าพบโครงกระดูกมนุษย์ ไร้ศีรษะ สวมเสื้อแขนยาวลายพลางสีเขียว กางเกงขาสั้นสี ดำรองเท้าแตะสีเหลือง มีเชือกไนลอนมัดท่อนเหล็กยาว 1 ฟุตติดกับรองเท้าทั้ง2 ข้าง เลื่อยตัดเหล็ก

ห่างไปประมาณ 50 เมตร พบกะโหลกมนุษย์วางอยู่บริเวณพื้นปูนลานตากข้าว จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบสายไฟสีดำถูกตัดห้อยลงจากเสาไฟ และพบโคมไฟส่องสว่างที่ติดอยู่บนเสาไฟตกลงที่พื้นใกล้กับศพ แพทย์ระบุว่าเสียชีวิตมามากกว่า 1 ปี เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงนำกระดูกไปเก็บไว้ที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี

เบื้องต้น จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจ สันนิษฐานสาเหตุการเสียชีวิตว่าผู้ตายอาจจะแอบเข้ามาโรงสีร้าง เพื่อตัดเอาสายไฟฟ้าไปช่างขาย โดยใช้ท่อนเหล็กมัดใส่รองเท้าแล้วเสียบเข้าไปในรูเสาไฟฟ้า ไต่ขึ้นไปตัดสายไฟ แต่พลาดท่าตกลงมาได้รับบาดเจ็บหมดสติ ทำให้ไม่มีคนเห็นและช่วยเหลือ เนื่องจากเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล ไม่มีใครเข้าออก ทำให้เสียชีวิตนานนับปี จนเหลือแต่โครงกระดูก ส่วนหัวกะโหลกที่อยู่ห่างออกไปน่าจะเป็นสุนัขคาบไป เมื่อมีญาติมายืนยันว่าเป็นโครงกระดูกของนายอิด บุญศรี อายุ 38 ปี ที่หายตัวไป ทางแพทย์ก็จะส่งตรวจ DNA เพื่อพิสูจน์ตัวบุคคล มอบศพให้ญาติไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป

ทั้งนี้ ตนที่เป็นอาสากู้ภัยก็เจอเรื่องแปลกเกิดขึ้นกับตัว เนื่องจากปกติทุกเคส ก่อนตนจะปฎิบัติหน้าที่จะทำการจุดธูปบอกผู้ตายก่อนทุกครั้ง แต่ในครั้งนี้ขณะกู้ศพค่อนข้างเร่งรีบจึงไม่ได้ทำการจุดธูปบอกก่อน ซึ่งหลังจากตนขับรถนำโครงกระดูกของผู้ตายส่งให้เจ้าหน้าที่ พฐ. เสร็จสิ้น ช่วงขากลับบ้านเกิดฝนตกถนนลื่น มีน้ำรวมกันเป็นแอ่ง ทำให้รถของตนที่ขับมาด้วยความเร็วเกิดเสียหลัก โชคดีที่รถไม่พลิกคว่ำอย่างน่าประหลาดใจ จึงทำให้ตนรอดชีวิตมาได้ อีกทั้งเมื่อตนขับรถถึงบ้านปรากฏว่าหมาหอน เสมือนเห็นสัมผัสอะไรได้บางอย่าง ตนจึงเชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวิญญาณของผู้เสียชีวิตคงจะตามมาด้วย และส่วนที่อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับตนน่าจะเป็นเพราะดวงวิญญาณผู้เสียชีวิตช่วยเอาไว้

ทีมข่าวเดินทางไปยังจุดเกิดเหตุบริเวณโรงสีร้าง หมู่บ้านพรสวรรค์ ต.หนองนาคำ อ.เมือง จ.อุดรธานี พบว่าจุดเกิดเหตุเป็นโรงสีร้าง มีต้นไม้ และหญ้าขึ้นปกคลุมรอบบริเวณจุดพบศพคือ ช่วงข้างกำแพงคอนกรีตใต้เสาไฟฟ้า จากการสังเกตไม่พบชิ้นส่วนโครงกระดูก หรือหลักฐานใด ๆ เหลืออยู่ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรรวจ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานลงพื้นที่เก็บรวบรวมหลักฐานไปตรวจสอบหมดแล้ว

นายโจ (นามสมมติ) อายุ 37 ปี คนหาปลา ผู้พบศพคนแรก เผยว่า ช่วงเช้าวันที่ 15 ก.ย.64 ตนและน้องชายได้ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดหาปลาที่บริเวณบ่อน้ำ ใกล้กับจุดเกิดเหตุกัน 2 คน แต่ในขณะที่เดินหาปลาอยู่นั้น ได้ไปพบโครงกระดูกมนุษย์

ซึ่งตอนแรกเข้าใจว่าเป็นเห็ดที่ขึ้นเองตามธรรมชาติ จึงหยิบขึ้นมาดูแต่ปรากฏว่าเป็นกระดูกมนุษย์ ด้วยความตกใจจึงวิ่งไปบอกน้องชายที่มาด้วยกัน ก่อนประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี เข้าทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุดังกล่าว

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนก็รู้สึกตกใจ เพราะไม่เคยเจอเหตุการณ์ในลักษณะนี้เกิดขึ้นมาก่อน ส่วนปมเหตุการเสียชีวิตนั้นก็ต้องปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอนของเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน ตรวจหาต่อไปว่าปมเหตุกาเสียชีวิตของผู้ตายในครั้งนี้ความเป็นมาอย่างไร สุดท้ายนี้ในฐานะคนเจอศพ ก็อยากแสดงความเสียใจกับทางครอบครัวผู้เสียชีวิต และขอให้ผู้เสียชีวิตได้ไปเกิดใหม่อยู่ในภพภูมิที่ดี

ทีมข่าวเดินทางไปยังบ้านของผู้เสียชีวิต ต.โพนงาม อ.หนองหาน จ.อุดรธานี ปัจจุบันเปิดเป็นร้านขายของชำ นางคำมูล บุญศรี อายุ 64 ปี แม่ผู้เสียชีวิต เผยว่า ผู้เสียชีวิตคือนายอิด บุญศรี อายุ 38 ปี อาศัยอยู่บ้านหลังเดียวกันกับตน ลูกชายหายตัวออกจากบ้านไปตั้งแต่ช่วงเดือน มี.ค. 63 หลังทราบเรื่องจากตำรวจวานนี้ว่ามีชาวบ้านไปพบโครงกระดูกปริศนาอยู่ภายในโรงสีร้าง จึงให้ลูกสาวเดินทางไปดูศพ เพราะสงสัยว่าโครงกระดูกดังกล่าวคือลูกชายของตน ปกติแล้วผู้เสียชีวิตประกอบอาชีพทำงานก่อสร้าง รับจ้างทั่วไป อีกทั้งยังรับจ้างตัดฟืนไปเผาถ่าน และชอบเดินทางไปหาเพื่อนสนิทที่มีบ้านอยู่ใน ซอย 5 บ้านพรสวรรค์ ใกล้กับโรงสีร้างที่พบโครงกระดูกเป็นประจำ

โดยเมื่อช่วงเดือน มี.ค.63 ลูกชายได้บอกครอบครัวว่าจะเดินทางไปที่บ้านเพื่อน และได้หายตัวไป ครอบครัวหลังเห็นความผิดปกติ จึงได้ออกตาม ทั้งตามหาที่บ้านเพื่อนหลังล่าสุด ก่อนหายตัวไปจากร้านคาราโอเกะใกล้โรงสีร้าง และสอบถามเพื่อนของลูกชายทุกคน ก็ไม่มีใครพบเห็น ลูกสาวจึงตัดสินใจโพสต์ตามหาพี่ชายลงในเฟซบุ๊ก เมื่อวันที่ 28 มี.ค. 63 อีกทั้งยังร้องไปยังมูลนิธิกระจกเงาศูนย์ดำรงธรรม จ.อุดรธานี ให้ช่วยประกาศตามหาคนหาย แต่ก็ไม่มีใครพบเห็นหรือมีความคืบหน้า จากนั้นประมาณ 1 เดือน จึงได้ไปแจ้งความคนหายที่ สภ.เมืองอุดรธานี เพื่อให้ช่วยติดตามหาตัวลูกชายที่สูญหายอีกทาง กระทั่งหลังจากลูกชายหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ติดต่อไม่ได้มาประมาณ 1 ปี 6 เดือน

นอกจากนี้ ช่วงที่ตามหาลูกชายทางครอบครัวก็ยังไม่ได้เข้าไปหาในโรงสีร้าง เพราะเป็นพื้นที่ส่วนบุคคลกระทั่งมาพบศพดังกล่าว จึงยิ่งมั่นใจ ช่วงที่ลูกชายหายไปใหม่ ๆ ตนรู้สึกใจสลายไม่เป็นอันกินอันนอน เฝ้ารอคอยให้ลูกกลับบ้าน แต่ลูกก็ไม่กลับมา จึงมีความคิดว่าหากลูกเสียชีวิตแล้วจริงก็น่าจะมาบอกอะไรให้คนในครอบครัวรับรู้บ้าง จนน้องสาวสามีของตนฝันเห็นลูกชายอยู่ในชุดก่อนเสียชีวิต มาหาบอกว่า "หนาว ออกไปไม่ได้ ให้ช่วยมารับกลับบ้าน" หลังทราบเรื่องความฝัน ตนก็ยิ่งมั่นใจว่าคงเป็นลางบอกเหตุที่ลูกจะสื่อให้รู้ว่าเสียชีวิตแล้ว กระทั่งมีคนไปพบโครงกระดูกลูกชาย

อย่างไรก็ตาม ตนยังคงติดใจการเสียชีวิตของลูกชาย เพราะมีความคิดว่าอาจเป็นการฆาตกรรม ยอมรับว่าช่วงก่อนที่ลูกจะหายไป ลูกได้ไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ตนจึงมองว่าหากจะมีการขัดผลประโยชน์อะไรกันหรือไม่ หากลูกของตนเสียชีวิตจากการฆาตกรรมจริง ตนก็อยากจะขอให้บุคคลที่ก่อเหตุดังกล่าว ได้รับเวรรับกรรมเหมือนที่ได้ทำกับลูกของตนคืนสนองกลับไป แต่หากเป็นการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ เสมือนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจคาดการว่าลูกชายแอบเข้าไปบริเวณจุดเกิดเหตุ เพื่อตัดเอาสายไฟฟ้าหวังไปช่างขาย แต่พลาดท่าตกลงมาเสียชีวิตเองก็ขอปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอนของตำรวจ หากผลชันสูตรทางแพทย์ออกว่าไม่ได้เป็นการฆาตกรรม ทางครอบครัวก็จะรับศพลูกกลับมาทำพิธีกรรมทางศาสนาที่บ้าน