จากกรณีนายทศพล พรบูลย์ หรือ ดิว อายุ 27 ปี หลบหนีหลังก่อเหตุฆาตกรรม ใช้สายชาร์จโทรศัพท์รัดคอนางสาวอัญรินทร์ สีสด อายุ 25 ปี จนเสียชีวิต ภายในห้องนอน ภายในบ้านพัก เป็นร้านเกมคอมพิวเตอร์ ล่าสุดมีข้อมูลรายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้กระจายกำลังและสามารถจับกุมตัวนายทศพลได้ที่ ต.พิบูล อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี
โดยนายทศพลได้จอดรถจักรยานยนต์ทิ้งไว้ที่บ้านญาติ ภายในพื้นที่ซอยโรงสี อ.สว่างวีระวงศ์ ในเวลา 06.58 น. จากนั้นในเวลา 07.16 น. นายทศพลได้ออกมาขึ้นสองแถว เพื่อเดินทางไปยัง อ.พิบูลมังสาหาร เพื่อเข้าพักในโรงแรมแห่งหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังไปจับกุมไว้ได้ในเวลาประมาณ 22.00 น. ของวันที่ 14 ก.ย. 64
ล่าสุด วันที่ 15 ก.ย. 64 พล.ต.ต.สมพจน์ ขอมปรางค์ ผบก.ภ.จว.อุบลราชธานี และพ.ต.อ.วรการ ป้องกัน ผกก.สภ.วารินชำราบ ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าวที่ สภ.วารินชำราบ พร้อมกับนายทศพล ก่อนจะพาตัวนายทศพลไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ นายทศพล ผู้ต้องหา บอกว่า ตนเคยคุยและมีความสัมพันธ์กับผู้ตายเมื่อประมาณ 4-5 ปีก่อน รู้จักกันผ่านร้านเที่ยวใน จ.อุบลราชธานี แต่ทางครอบครัวผู้ตายไม่ทราบ
จากนั้นได้แยกย้ายกันไปอยู่ต่างจังหวัด แล้วได้กลับมาเจอกันที่ร้านเกมโดยบังเอิญ ผู้ตายมาอาศัยอยู่ร้านเกมได้ประมาณ 3 เดือน เจอกับตนแอบมีความสัมพันธ์กันแบบไม่เปิดเผย หากคุยกันต้องคอยลบแชต ซึ่งในวันเกิดเหตุ ตนได้ปีนเข้าหน้าต่างห้องนอนผู้ตาย เพื่อเข้าไปหาผู้ตายตามปกติ ไม่มีการงัด เพื่อมีเพศสัมพันธ์
โดยตนเคยปีนเข้าหาผู้ตายมาแล้วไม่ต่ำกว่า 50 ครั้ง ตลอดการอาศัยอยู่ภายในร้านเกม ยอมรับว่าได้ลงมือฆาตกรรมผู้ตาย หลังจากมีเพศสัมพันธ์ เนื่องจากผู้ตายเสียงดัง ถามว่าตนมีผู้หญิงอื่นหรือไม่ ตนโมโหจึงนำหมอนปิดหน้าผู้ตายจนเสียงหายใจแผ่วลง แล้วใช้สายชาร์จรัดคอ ก่อนจะปีนหน้าต่างหนีออกมา หยิบเงินในกระเป๋าของผู้ตายไปจำนวน 1,500 บาท แล้วขับขี่รถจักรยานยนต์ของพี่เขยผู้ตายออกจากที่เกิดเหตุ เพื่อไปตั้งหลัก แต่ไม่ได้คิดจะหลบหนี
ทั้งนี้ ตนทำงานตนไม่เคยได้เงิน ได้เงินน้ำใจจากพี่เขยผู้ตายอยู่บ้าง สัปดาห์ละ 500-600 บาท ตนเล่นเกมขายของผ่านเกมได้เงินมากกว่า โดยขณะนี้ตนสำนึกผิดในสิ่งที่ทำลงไป ขอปฏิเสธว่าตนไม่เคยคบหากับเจ๊หญิง สาวประเภทสองที่อ้างว่าเคยเลี้ยงดูตน อีกฝ่ายเพียงแค่คอยช่วยเหลือตนเท่านั้น ส่วนประเด็นยาเสพติด ตนยอมรับว่าเคยเสพ แต่ขณะนี้เลิกแล้ว และไม่เคยขายบริการทางเพศ เพื่อแลกเงินนำไปซื้อยาเสพติด
ด.ต.ยุทธพล ศรีสมพงษ์ ผบ.หมู่กองกำกับการสืบสวนภูธรจังหวัดอุบลราชธานี หรือ จอนนี่ มือปราบอินดี้ บอกว่าเมื่อคืนที่ผ่านมาตนไม่ได้นอนทั้งคืน เนื่องจากตนพยายามเร่งขยายผลและติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุ เกรงว่าจะหนีออกนอกพื้นที่ไปไกล ทั้งนี้ จากประสบการณ์งานสืบสวนและข้อมูลจากสายข่าวเกี่ยวกับผู้ก่อเหตุทำให้ตนสามารถติดตามไปจนเจอผู้ก่อเหตุ ขอยกความดีความชอบให้ฝ่ายสืบสวนจังหวัดอุบลราชธานี สภ.วารินชำราบ และ สภ.สว่างวีระวงศ์
ขณะที่ตนเดินทางไปถึงโรงแรมที่ผู้ก่อเหตุหลบซ่อนตัวอยู่นั้น ตอนแรกตนยังไม่มั่นใจว่าผู้ก่อเหตุหลบซ่อนอยู่หรือไม่ เนื่องจากตนค้นหามามากกว่า 10 โรงแรมแล้ว แต่ไม่พบตัวผู้ก่อเหตุ ตนยอมรับว่าตนพบเจอผู้ก่อเหตุแบบไม่ตั้งตัว ผู้ก่อเหตุออกมาสูบบุหรี่ แล้วเจ้าของโรงแรมส่งสัญญาณบอก อีกทั้งยังไม่ได้เตรียมกำลังเข้าจับกุม ตนเข้าไปตรวจสอบและพูดคุยกับผู้ก่อเหตุ อีกฝ่ายยื่นบัตรประชาชนของบุคคลอื่นให้ตนดู ตนมองแล้วหน้าไม่เหมือนกัน จำรูปพรรณสันฐานของผู้ก่อเหตุได้ เช่น รอยสัก
นอกจากนี้ ตรวจค้นกระเป๋าของผู้ก่อเหตุพบสมุดบัญชีธนาคารของผู้ก่อเหตุ พบเงินจำนวน 1,500 บาท บัตรและเอกสารต่าง ๆ ของผู้ตายที่ผู้ก่อเหตุขโมยมา ตนรีบล็อกตัวผู้ก่อเหตุทันที ตนอยากจะบอกว่า สิ่งที่ผู้ก่อเหตุพูดแถลงกับสื่อนั้นไม่ตรงกับที่ผู้ก่อเหตุสารภาพกับตน สุดท้ายตนอยากให้ประชาชนรับรู้ว่า แม้ขณะนี้จะมีข่าวเสียหายในวงการตำรวจ แต่ยังมีตำรวจอีกหลายท่านที่ตั้งใจพิทักษ์รับใช้ประชาชน
นอกจากนี้ จากการสืบสวนชาวบ้านที่พบเห็นผู้ก่อเหตุ ทราบว่าเวลา 06.58 น. นายทศพลได้จอดรถจักรยานยนต์ทิ้งไว้ที่บ้านญาติ ภายในพื้นที่ซอยโรงสี อ.สว่างวีระวงศ์ จากนั้นในเวลา 07.16 น. นายทศพลได้ออกมาขึ้นสองแถว เพื่อเดินทางไปยัง อ.พิบูลมังสาหาร เพื่อเข้าพักในโรงแรม เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังไปจับกุมไว้ได้ในเวลาประมาณ 22.00 น. ของวันที่ 14 ก.ย. 64
โดยขณะที่ ด.ต.ยุทธพล ได้แสดงตัวเข้าจับกุมตัวนายทศพล ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 50 กิโลเมตร ได้ขอเข้าไปตรวจบัตรประชาชนของผู้ก่อเหตุ ซึ่งผู้ก่อเหตุได้ส่งบัตรของผู้อื่นให้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจจำลักษณะของผู้ก่อเหตุได้ จึงได้ทำการล็อกตัวไว้ พร้อมเรียกกำลังเสริมให้มาควบคุมตัว
