ตะลึงพระดิ้นพล่านกลางวัดเชื่อปอบผัวเมียสิง หลวงพี่ได้ยินจริงเสียงเปลี่ยนเป็นยาย (คลิป)

จากกรณี นางอร่าม แก้วประทุม อายุ 44 ปี ชาวบ้าน จ.หนองคาย ร้องเรียนมายังทีมข่าวอมรินทร์ว่า ผู้เป็นลูกชายคือ นายไพรพนา กลางวิชัย หรือ แซงค์ อายุ 23 ปี มีอาการประหลาดคล้ายถูกผีเข้า มานานเกือบ 1 ปี โดยอาการก่อนผีเข้าจะเริ่มจาก แขนขาเริ่มชา ไม่มีแรง ปวดเหมื่อยตามร่างกาย กลายเป็นคนผวา เวลาที่เสมือนถูกวิญญาณแฝงร่าง หนักสุดจากลูกที่เสียงพูดเป็นผู้ชายก็จะพูดเป็นเสียงผู้หญิงอย่างน่าประหลาด ทางครอบครัวพาไปรักษาอาการลักษณะดังกล่าวมาแล้วหลาครั้ง ทั้งพระ หมอผีที่นับถือ แต่อาการก็ยังไม่ดีขึ้น ซึ่งสอบถามเชื่อว่า วิญญาณดังกล่าวคือผีปอบที่มาแฝงร่าง

วันนี้ 11 ก.ย. 64 ทีมข่าวอมรินทร์ เดินทางไปยังบ้านของคนที่ถูกผีเข้าบริเวณบ้านท่าหลวง หมู่ 6 ต.วังหลวง อ.เฝ้าไร้ จ.หนองคาย นางอร่าม แก้วประทุม อายุ 44 ปี แม่ของพระที่ถูกผีเข้า เผยว่า ลูกชายของตนเป็นคนนิสัยดี ร่าเริง ไม่เคยมีพฤติกรรมดังกล่าวแสดงให้เห็น แต่ช่วงที่ลูกชายอายุประมาณ 18 ปี ลูกชายก็เริ่มตามเพื่อน และไปยุ่งเกี่ยงกับยาเสพติด จนเกิดอาการหลอนทางประสาท ซึ่งทางครอบครัวเคยพาลูกชายไปเข้ารักษาอาการกับแพทย์ทางจิตเวชที่ รพ.เฝ้าไร่ มาแล้วครั้งหนึ่ง โดยทางแพย์ก็ได้ให้ยารักษาอาการจิตเวชมากิน กระทั่งลูกชายก็กลับมาเป็นปกติ

ก่อนไปเข้าเกณฑ์ทหาร ช่วงปี 2562 และปลดประจำการกลับบ้านมาเมื่อ ช่วงเดือน พ.ค.64 ที่ผ่านมา ลูกก็เกิดอาการประหลาดขึ้น ลักษณะคล้ายถูกผีเข้า โดยลูกจะมีอาการลักษณะ แขนขาเริ่มชา ไม่มีแรง ปวดเหมื่อยตามร่างกาย กลายเป็นคนผวา เวลาที่เสมือนถูกวิญญาณแฝงร่าง หนักสุดจากลูกที่เสียงพูดเป็นผู้ชายก็จะพูดเป็นเสียงผู้หญิง ทางครอบครัวเคยพาไปรักษาอาการลักษณะดังกล่าวมาแล้วหลายครั้ง แต่อาการก็ยังไม่ดีขึ้น

ซึ่งสอบถามพระกับหมอผีที่นับถือก็เชื่อว่าวิญญาณดังกล่าวคือผีปอบที่มาแฝงร่างลูกชาย เพราะต้องการส่วนบุญสวนกุศล จนเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา จึงต้องยอมให้ลูกชายทำการบวชให้ เพื่อหวังจะดีขึ้น แต่ก็ยังคงเหมือนเดิม อีกทั้งกลับแย่ลง ขณะลูกทำวัดสวดมนต์ฟังเทศน์ กลับได้ยินเสียงผู้หญิงแก่มาสวดมนต์เทศนาแข่งกับลูกชายของตน ทำให้ลูกชายเกิดความไม่สบายใจเป็นอย่างมาก เพราะไม่รู้จะแก้ไขอย่างไร

อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะนี้ทางครอบครัวมีความกังวลเป็นอย่างมาก เกรงว่าหากยังปล่อยให้มีวิญญาณดังกล่าวอยู่ในร่างของลูกชาย ก็อาจจะทำให้ลูกชายได้รับอันตรายถึงขั้นเสียชีวิต จึงอยากวอนขอหมอปลา มือปราบสัมภเวสี เข้าช่วยเหลือรักษาอาการลูก

นายไพรพนา กลางวิชัย หรือ แซงค์ อายุ 23 ปี พระที่ถูกผีเข้า เผยว่า อาตมายอมรับว่าเคยยุ่งเกี่ยวกับการเสพยาเสพติดจริง แต่ก็เลิกมานานแล้วกระทั่งไปเป็นทหาร และปลดประจำการทหารเกณฑ์ กลับมาอยู่บ้านก็เกิดอาการประหลาดขึ้นกับตัว ก็รู้สึกกลัวว่าหากมีวิญญาณมาแฝงร่างของอาตมาจริง อาตมาจะได้รับอันตรายถึงขึ้นเสียชีวิต หากร่างกายรับไม่ไหว

โดยอาการของอาตมาเวลาจะถูกวิญญาณแฝงร่าง จะมีลักษณะแขนขาเริ่มชาไม่มีแรง ปวดเหมื่อยตามร่างกาย กลายเป็นคนผวา เวลาที่เสมือนถูกวิญญาณแฝงร่าง หนักสุดจากที่เสียงอาตมาเป็นผู้ชาย ก็จะพูดเป็นเสียงผู้หญิงอย่าน่าประหลาด นอกจากนี้ เวลาทำวัด สวดมนต์ฟังเทศน์ อาตมากลับได้ยินเสียง ผู้หญิงแก่บ้าง ผู้ชายแก่บ้าง มาสวดมนต์เทศนาแข่งกับอาตมา ทำให้อาตมาเกิดความไม่สบายใจเป็นอย่างมาก เพราะไม่รู้จะแก้ไขอย่างไร ทั้งนี้ จากการไปพบพระ หมอธรรมที่นับถือที่คาดว่าจะช่วยอาตมาได้ ก็ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าวิญญาณดังกล่าวคือผีปอบ ซึ่งในส่วนนี้อาตมาก็ไม่ทราบว่าจริงหรือไม่

แต่หากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอาตมาเคยสัญญา หรือเป็นสิ่งที่เคยกระทำไว้ร่วมกับวิญญาณดังกล่าวมาตั้งแต่ชาติก่อน ในชาตินี้อาตมาบวชทดแทนให้แล้ว ก็อยากให้บุญกุศลส่งถึงแล้วจบสิ้นกัน ต่างคนต่างอยู่ อย่ามายุ่งเกี่ยวกันอีก เนื่องจากอาตมาจะได้ใช้ชีวิตตามปกติ จึงอยากวอนขอหมอปลาให้เข้ามาช่วยเหลือรักษาอาการดังกล่าว

ด้านพระชัยณรงค์ แก้วประทุม อายุ 21 ปี พระเพื่อนของพระที่ถูกผีเข้า กล่าวว่า ช่วงแรกที่พระแซงค์มาบวชพระ อาตมาก็เห็นว่าเจ้าตัวเป็นร่าเริง แต่ช่วงหลังจากเกิดอาการประหลาด พระแซงค์ก็เริ่มมีนิสัยเปลี่ยนไป กลายเป็นไม่ค่อยร่าเริง นิ่งเงียบ คล้ายคนเป็นโรคซึมเศร้า โดยครั้งหนัก ๆ ที่ตนเคยเจอคือขณะทำวัดอยู่ด้วยกันกับพระแซงค์ เจ้าตัวก็เริ่มมีอาการตัวสั่น และหันมาบอกกับอาตมาว่า เหมือนมีดวงวิญญาณพยายามจะมาเข้าร่าง กระทั่งกลายเป็นภาพที่เห็นตามคลิปที่ปรากฏ

นอกจากนี้ ขณะนั้งทำวัดสวดมนต์ด้วยกันผ่านไมค์ขยายเสียง จู่ ๆ จากเสียงของพระแซงค์ที่เป็นผู้ชายหนุ่ม ก็เริ่มเปลี่ยนเป็นเสียง ผู้หญิงแก่ ผู้ชายแก่ ก่อนจะสติหลุดไปก็มี สร้างความแตกตื่นให้กับอาตมาเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ กรณีที่เกิดขึ้นอาตมามองว่าปมเหตุไม่น่าเกิดจากพระแซงค์เคยยุ่งเกี่ยวยาเสพติด แต่เป็นเพราะพระแซงค์เคยสติหลุดไปแล้ว ทำให้ดวงวิญญาณที่วนเวียนอยู่รอบตัว สามารถแฝงมาเข้าร่างของพระแซงค์ได้โดยง่าย อย่างไรก็ตาม เรื่องที่เกิดขึ้น ก็เป็นความเชื่อสวนบุคคลก็อยากจะให้ใช้วิจารณญาณในการเสพข่าวด้วย

นางบัวหา อายุ 76 ปี หมอธรรมประจำหมู่บ้าน กล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นที่เห็นว่า พระแซงค์มีอาการทุกข์ทรมาน ร้องโวยวายคล้ายถูกผีเข้าตามคลิปที่ปรากฏเกิดจากวิญญาณผีปอบที่แฝงเข้ามาอาศัยอยู่ในร่าง ถึง 2 ดวงวิญญาณด้วยกัน เป็นผัวเมียกัน ซึ่งจากการที่ตนเป็นหมอธรรมสายญาณของพระศรีอริยเมตไตร จับญาณสามารถสัมผัสได้ จึงรู้ได้ว่าวิญญาณทั้ง 2 คือ ดวงวิญญาณของ นายทิศ อายุ 70 ปี กับนางศร อายุ 70 ปี ที่เคยผูกพันกับพระแซงค์มาตั้งแต่ชาติปางก่อน บอกกับตนว่าชาติที่แล้ว ดวงวิญญาณทั้ง 2
กับพระแซงค์เคยพูดสัญญากันไว้ว่า หากพระแซงค์ตายไปแล้วได้มาเกิดใหม่ ดวงวิญญาณก็จะขอตามมาแฝงร่าง เสมือนคอยเป็นทรง ให้พระแซงค์คอยช่วยเหลือคน เพื่อสร้างบุญสร้างกุศล

แต่ที่พระแซงค์เกิดอาการดังกล่าว เป็นเพราะพระแซงค์ไม่ยอมรับ และไม่อยากให้ดวงวิญญาณดังกล่าวอยู่ด้วย ทำให้ดวงวิญญาณไม่พอใจ เลยอยากทำให้พระแซงค์ทรมาน ถึงขั้นสื่อสารบอกกับตนเลยว่าหากครอบครัวพระแซงค์หาคนมาช่วย ทำให้ดวงวิญญาณทั้งสองออกจากร่างพระแซงค์ ดวงวิญญาณทั้งสองก็จะขอเอาชีวิตของพระแซงค์ไปอยู่ด้วย เสมือนผิดสัญญาที่เคยให้ไว้ต่อกัน

ด้านหมอปลา มือปราบสัมภเวสี กล่าวว่า จากกรณีดังกล่าวที่เกิดอาการประหลาด ลักษณะคล้ายถูกผีเข้า มีอาการแขน-ขาเริ่มชา ไม่มีแรง ปวดเหมื่อยตามร่างกาย กลายเป็นคนผวา เวลาที่เสมือนถูกวิญญาณแฝงร่าง หนักสุดจากลูกที่เสียงพูดเป็นผู้ชาย ก็จะพูดเป็นเสียงผู้หญิง ซึ่งเชื่อว่าวิญญาณดังกล่าวที่มาแฝงร่างคือผีปอบเพราะหวังส่วนบุญสวนกุศล จนเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา นายไพรพนาจึงตัองยอมทำการบวชให้ เพื่อหวังจะดีขึ้นแต่ก็ยังคงเหมือนเดิม ในส่วนนี้ตนยังคงยืนยันไม่ได้ว่า อาการดังกล่าวเกิดขึ้นจากอาถรรพ์ถูกผีเข้าจริง หรือเกิดจากทางวิทยาศาสตร์ ดังนั้นตนจึงอยากขอเดินทางลงพื้นที่ไปพิสูจน์ช่วยเหลือ เพื่อทางครอบครัวจะได้กลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ

นพ.สิทธา ลิขิตนุกูล เจ้าของเพจคุณหมอสตอรี่ ระบุว่า กรณีที่เกิดขึ้นที่พระดังกล่าวมีอาการหูแว่ว ประสาทหลอน แสดงอาการลักษณะคล้ายถูกผีเข้า อาจจะเกิดจากสภาวะทางจิตหรือที่เรียกว่า "สภาวะจิตเวช" ยิ่งรวมผสมกับสภาวะที่มีความผิดปกติทางด้านอารมณ์ของบุคคลนั้น ๆ อาการในลักษณะดังกล่าว ควรต้องรีบเข้ารับการรักษาจากแพทย์ทางด้านจิตเวชโดยทันที

ทั้งนี้ ตนอยากให้แยกแยะในส่วนของเรื่องการเสพสารเสพติด หากมีการยุ่งเกี่ยวอยู่ ต้องหยุดการเสพยาเสพติดทันที และรีบเข้าทำการรักษาอาการติดยาเสพติดให้หายขาด หรือหากเข้ารับการรักษากับแพทย์ทางจิตเวชแล้ว ควรรักษาอย่างต่อเนื่อง กินยาตามแพทย์สั้งอย่างสม่ำเสมอ เพื่อทำจิตบำบัด และทางครอบครัวช่วยบำบัด คาดว่าอาการดังกล่าวน่าจะดีขึ้นได้