จากเหตุการณ์หายตัวไปของ "น้องจีน่า" ด.ญ.พรศิริ วงศิลารุ่ง วัย 1 ขวบ 11 เดือน ช่วงเย็นวันที่ 5 ก.ย. 64 ขณะเล่นกับแมวอยู่หน้าบ้าน ในพื้นที่บ้านห้วยฝักดาบ ต.อินทขิล อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ระดมการค้นหาทั้งภาคพื้นดิน ทางน้ำ ทางอากาศ กระทั่ง วันที่ 8 ก.ย. 64 พบตัวน้องจีน่าแล้วอย่างปลอดภัยที่กระท่อมในสวน เบื้องต้น นายอาผะ หรือ เสี่ยว เพื่อนบ้าน รับสารภาพว่านำน้องจีน่าไปทิ้งหน้าถ้ำ อ้างว่าทำไปเพื่อถวายเจ้าป่าเจ้าเขานั้น
วันที่ 9 ก.ย. 64 พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล หรือ ผู้การแต้ม มือปราบหูดำ กล่าวว่า ต้องดูว่าผู้ก่อเหตุมีเหตุอันใดที่ลักพาตัวเด็กไป หรือเอาไปขายให้ต่างชาติ พาไปเป็นขอทาน ซึ่งต้องดูพื้นเพขอหมู่บ้านว่าเคยเกิดเหตุแบบนี้หรือไม่ แต่ปัจจุบันนี้การนำเด็กไปขายให้ต่างชาติก็ไม่นิยมแล้ว ส่วนมากยกตัวอย่างเช่นคนจีนจะจ้างให้คนอุ้มบุญให้ แต่วิธีการนี้ก็ไม่ค่อยทำแล้ว ต่อมาอาจเป็นการเรียกค่าไถ่ แต่ต้องดูองค์ประกอบว่าพ่อของเด็กมีเงินหรือไม่ หากมีบ้างอาจจะเรียกไม่มากนัก นอกจากนี้เป็นการกลั่นแกล้งกันหรือไม่ และสุดท้ายนำน้องไปทำพิธีกรรม ซึ่งบางคนอาจจะมีความเชื่อว่าเอาเด็กที่บริสุทธิ์ไปถวาย
ดังนั้นคดีของน้องจีน่า ตนคาดว่าน่าจะมีคนร่วมมือกับนายอาผะ โดยไม่ได้หมายเอาชีวิต คาดว่าน่าจะเป็นคนใกล้ตัวที่อาจนับถือพิธีกรรมเดียวกัน หรืออาจจะมีเป้าหมายและผลประโยชน์ร่วมกัน โดยนายอาผะอาจจะเป็นลูกมือหรืออาจจะเป็นคนคิดลักพาตัวไป พอนายอาผะถูกจับกุม ก็ให้คนที่ร่วมมือดูแลเด็ก มองว่าหากไม่ดูแลเด็กจะปัสสาวะอุจาระได้อย่างไร เพราะเด็กอายุเพียง 1 ขวบ 11 เดือนต้องเลอะบ้าง ประกอบกับสังเกตว่าเด็กหายไป 4 วัน ไม่มีรอยยุงกัดหรือมีรอยขูดขีดจากหนาม หากเด็กอยู่ในป่าคนเดียวก็อาจจะได้รับอันตรายจากงู หรืออื่น ๆ
ขณะเดียวกันพอข่าวโด่งดัง คนร้ายอาจกลัวถูกดำเนินคดี และหากเด็กเสียชีวิตก็กลัวว่าจะได้รับโทษหนัก จึงตัดสินใจอุ้มเด็กมาคืน โดยจุดที่พบเด็กคาดว่าเป็นจุดที่คนร้ายเอามาปล่อยไว้ เพื่อจะให้ใกล้บ้าน คนอื่นมาเจอได้ง่าย ประกอบกับคนร้ายก็กลัวว่าจะถูกดำเนินคดี จึงตัดสินใจพาเด็กเมื่อคืน อย่างไรก็ตามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่จะต้องนำตัวคนใกล้ชิดของนายอาผะ พ่อแม่ของเด็ก รวมไปถึงคนที่พบเด็กคนแรกทั้งหมดมาสอบปากคำว่ามีปมบาดหมางอะไรกัน และได้ประโยชน์อะไรร่วมกันหรือไม่
รศ.พ.ต.ท.ดร.กฤษณพงค์ พูตระกูล ผู้ช่วยอธิการบดี และประธานกรรมการคณะอาชญวิทยาฯ มหาวิทยาลัยรังสิต เปิดเผยว่า กรณีน้องจีน่าประเด็นแรกที่น่าสงสัย คือมูลเหตุและแรงจูงใจของคนร้ายในการนำตัวเด็กไป มองว่าคนร้ายไม่ได้ประสงค์ต่อชีวิตของเด็ก เพราะเด็กยังมีชีวิตอย่างปลอดภัย ไม่บาดเจ็บ ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ประการต่อมาผู้กระทำจะกระทำเพียงคนเดียวหรือมากกว่า 1 คน เป็นจุดที่น่าสังเกต ก่อนหน้านี้มีการไปค้นหาบริเวณจุดที่พบน้องแล้ว แต่ไม่เจอตัวเด็ก หลังจากนั้นตำรวจทำการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยไว้ได้ และกลับไปเจอเด็กที่บริเวณกระท่อมเดิม แสดงให้เห็นว่า ตั้งแต่วันแรกที่เด็กถูกนำตัวไป เด็กไม่ได้ไปอยู่บริเวณนั้นตั้งแต่วันแรก
ประเด็นต่อมา คือวัตถุประสงค์ของคนร้ายในการนำตัวเด็กมาเพื่อเป้าประสงค์ใด ต้องการต่อรองใด ๆ กับพ่อของแม่เด็กหรือไม่ เป็นขบวนการที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์หรือไม่ ต้องการนำเด็กไปเพื่อบังคับข่มขู่ขอทานหรือไม่ หรือมีความลับระหว่างครอบครัวเด็กกับผู้กระทำความผิดหรือไม่
ส่วนการที่เด็กสามารถมีชีวิตอยู่ได้โดยไม่อิดโรยจนเกินไป ไม่ร้องไห้งอแง เพราะเด็กต้องรับประทานนม น้ำ อาหาร จึงต้องมีการไปตรวจสอบอีกครั้ง ตั้งแต่วันแรกที่เด็กหายไปว่ารับประทานอาหารชนิดใดเป็นมื้อสุดท้าย ให้พลังงานกี่กิโลแคลลอรี่ จากที่ติดตามข่าวทราบว่าเด็กรับประทานเพียงกล้วยลูกเดียว จนกระทั่งถึงวันที่พบตัว จึงเชื่อได้ว่าให้พลังงานไม่เพียงพอแน่นอน เวลาผ่านล่วงเลยไป น่าจะต้องมีการให้อาหารเด็กระหว่างนั้น ต้องมาตรวจสอบต่อว่าเป็นใคร น่าสังเกตว่าผู้ต้องสงสัยถูกควบคุมตัวไปก่อนพบเด็ก จึงต้องสืบสวนต่อว่าใครนำอาหารมาให้เด็ก และตรวจสอบด้วยว่ามีอุจจาระของเด็กบริเวณจุดที่พบเด็กด้วยหรือไม่
ทั้งนี้ อยากฝากเป็นอุทาหรณ์ในแง่ของการมีบุตรหลาน เฉพาะเด็กเล็กที่ต้องสนใจ ใส่ใจ ดูแลเป็นพิเศษ บางครั้งอาจจะไม่คาดคิดว่าจะเกิดอันตรายขึ้น โดยเฉพาะเด็กเล็กควรอยู่ในสายตาตลอดเวลา โดยเฉพาะบ้านที่ไม่มีรั้วรอบขอบชิด อาจจะเป็นช่องโหว่ให้คนร้ายมานำตัวเด็กไป ส่วนประเด็นคำให้การของคนร้ายนั้น จริง ๆ จะให้การอย่างไรก็ได้ ตำรวจจึงต้องรวบรวมพยานหลักฐาน และต้องตรวจสอบว่ามีการใช้สารเสพติดร่วมด้วยหรือไม่ สภาพจิตปกติหรือไม่
อย่างไรก็ตาม เท่าที่ประเมินหากผู้ต้องสงสัยถูกควบคุมตัวตั้งแต่วันแรกที่นำตัวไปสอบสวน แล้วเด็กอยู่ที่กระท่อมตั้งแต่วันนั้น เด็กต้องมีสภาพอิดโรยมากกว่านี้ แสดงให้เห็นว่าต้องมีผู้ที่กระทำมากกว่า 1 คน
สำหรับคำให้การของเมียกับลูกเลี้ยงนายอาผะที่พูดไม่ตรงกันทั้งเรื่องวันเกิดเหตุที่น้องจีน่าหายตัวไป เมียไม่ทราบว่านายอาผะหายออกจากบ้านไปไหนบางช่วง แต่ลูกเลี้ยงบอกว่านายอาผะอยู่บ้านทั้งวัน รวมถึงเรื่องเรื่องแกลลอนนมในบ้านเมียบอกว่าไม่รู้เรื่อง แต่ลูกเลี้ยงบอกว่าแม่เก็บขวดเข้ามาเอง ไว้ใช้ใส่น้ำนั้น
นอกจากนี้ พยานที่พบเห็นนายอาผะ วันเกิดเหตุ 5 ก.ย. 64 จากข้อมูลที่พ่อน้องจีน่าบอกว่าเจอนายอาผะก่อนที่ลูกสาวจะหายตัวไป ส่วนายอาผะบอกว่า หลังจากทราบเรื่องน้องจีน่าหายก็ออกมาช่วยตามหา แต่ชาวบ้านไม่มีใครที่พบเจอนายอาผะออกมาช่วยค้นหานั้น
