อย่างที่แฟนๆ “วงเสียงอิสาน” ทราบกันดีว่า ในวันที่ 9 กันยายนนี้ เรามีนัดกันกับคอนเสิร์ตออนไลน์กลุ่มปิด “เสียงอิสาน UNLOCKED 9:9” ตำนานรักอมตะของ ท้าวปาจิต-นางอรพิม สู่งานโชว์บนเวทีเสียงอิสานในรูปแบบ The Musical ที่คุณต้องตราตรึงและประทับใจ และในคอนเสิร์ตครั้งนี้ นอกจากนำโดย “แม่นกนอย อุไรพร และชาวคณะวงเสียงอิสาน” ยังมีอีกหนึ่งศิลปิน ที่เตรียมหวนคือเวทีระดับตำนาน เวทีเสียงอิสาน ในรอบ 20 ปีด้วย
ทีมข่าวของเราได้มีโอกาสพูดคุยกับ หนุ่มเต๋า ถึงเรื่องราวดี ๆ นี้ ซึ่ง หนุ่มเต๋า ก็เผยว่าพร้อมหนึ่งร้อยเปอร์เซนต์บวก ๆ เลย และฝากพี่น้องแฟนเพลงแฟนคลับ มิตรหมอแคนแฟนหมอลำ “วงเสียงอิสาน และ แฟนคลับ เต๋า ภูศิลป์” ให้เข้าไปซื้อบัตรเสียงอิสาน UNLOCKED วันที่ 9 เดือน 9 นี้ ในราคา 155 บาท และถ้าเราไม่ได้อยู่ในสถานการณ์แบบนี้ ตนมั่นใจกว่านี้ว่าเราอาจะเป็นฟรีคอนเสิร์ตหรือบัตรยี่สิบบาทก็ได้ เพราะ “แม่นกน้อย” จัดหนักจัดเต็มอยู่แล้วในวาระแบบนี้ แต่เพราะเนื่องจากสถานการณ์แบบนี้เลยต้องเป็นสตรีมแบบกลุ่มปิดเพื่อมาตรการ ก็เลยให้แฟนเพลงแฟนคลับดูออนไลน์กัน ก็ขนทัพศิลปินมาเยอะมากรวมถึงการกลับมาเยือนเวทีเสียงอีสานในรอบ 20 ปี
โดย หนุ่มเต๋า ยังเล่าย้อนถึงบรรยากาศเมื่อ 20 ปี ที่แล้ว ตอนนั้นตนอายุประมาณ 9 ขวบ ตนมีโอกาสได้ขึ้นไปร่วมทำการแสดงร้องเพลงบนเวทีระดับตำนาน เวทีเสียงอิสาน ว่า ตนคิดถึงตอนนั้น และตอนนั้นตนยังเด็ก ยังไม่รู้ว่าความอายคืออะไร มันก็เป็นการร้องเพลงทำในสิ่งที่เราชอบแล้วเราก็มีความสุข เลยทำให้เราคิดถึงบรรยากาศเมื่อ 20 ที่แล้ว ที่ได้มีโอกาสขึ้นไปอยู่บนเวทีประวัติศาสตร์ของ “คุณแม่นกน้อย อุไรพร”
ซึ่งมีทัพศิลปินทีมงานมากกว่า 500 ชีวิต เป็นรอบ 20 ปีทีได้กลับไปหา “แม่นกน้อย” แล้วก็กลับไปเจอทุก ๆ สิ่งที่เราเคยได้สัมผัส ณ ตอนนั้น ซึ่งตนก็ห่างหายจากวงการหมอลำไปนานมาก และเข้ามาอยู่ในวงการบันเทิง กับการเป็นศิลปินเป็นนักแสดง ไม่ได้ไปขึ้นหมอลำสักเวทีเลย
โดย หนุ่มเต๋า ยังเล่าอีกว่า เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ตอนนั้นตนอายุประมาณ 9 ขวบ เพื่อนของคุณย่าชื่อ “คุณยายอารีย์” ซึ่งเป็นเพื่อนกับ “แม่นกน้อย” แล้วในวันนั้น “วงเสียงอิสาน” มาแสดงที่ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ตนก็เลยได้มีโอกาสขึ้นไปทำการแสดงร้องเพลง เพราะผู้ใหญ่ก็ไปขอ “แม่นกน้อย” ว่าขอหลานให้ขึ้นไปร้องเพลงหน่อย ซึ่ง “แม่นกน้อย” ก็บอกว่าได้ ๆ แต่ให้รอก่อนเพราะวันนั้นมีบันทึกการแสดงสดพอดี ตนก็รอ ๆ จากนั้น “แม่นกน้อย” ก็มาจูงมือตนขึ้นไปร้องเพลงบนเวที
ส่วนบรรยากาศตอนนั้นตนไม่รู้จักเลยว่าความตื่นเต้นคืออะไร เพราะยังเด็กมากไม่รู้จะอายใคร ก็ขอแค่ร้องไป จากตอนนั้นถึงตอนนี้ตนก็มานั่งนึกย้อนไปว่าหลาย ๆ เพลงที่ร้อง ค่อนข้างยาว เนื้อเยอะมาก และตนสามารถจำได้อย่างไร ตอนนี้ก็พยายามท่อง ซึ่งต้องกลับไปร้องฟีเจอริ่งกับ “แม่นกน้อย” ในรอบ 20 ปี บนเวทีเสียงอิสาน ที่จะถึงในพรุ่งนี้แล้ว พูดแล้วก็ตื่นเต้น ตื่นเต้นตอนนี้ แต่ตอนเด็กไม่ตื่นเต้น
ทั้งนี้ หนุ่มเต๋า ยังเล่ามาว่าแม้ที่ผ่านมาตนไม่ได้มีโอกาสพูดคุยกับ “แม่นกน้อย” เป็นการส่วนตัว แต่ตนก็ขอส่งกำลังใจผ่านสื่อผ่านพี่น้องแฟนเพลงแฟนคลับ ในช่วงหนึ่ง ที่ “แม่นกน้อย และ วงเสียงอิสาน” เจอวิกฤต ตนก็ช่วยแชร์ข่าวให้ “แม่นกน้อยและคณะ” ได้กลับมาฟื้นตัวได้อย่างสง่างาม โดยตนพยายามให้กำลังใจ “แม่นกน้อย” ตนรู้สึกว่า “แม่นกน้อย” คือบุคคลตัวอย่าง บุคคลในประวัติศาสตร์ในเรื่องของการขับเคลื่อนความเป็นหมอลำให้พัฒนาสู่สากล ซึ่งหากพูดถึง “วงเสียงอิสาน” ชาวอีสานในยุค 80 – 90 จะทราบดีว่า “วงเสียงอิสาน” เป็นระดับตำนานจริง ๆ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ความเจ็บปวดที่เก็บอยู่ในใจ ติ๊ก กลิ่นสี หลังสูญเสียภรรยาคนแรกอย่างไม่ทันตั้งตัว
- อ้วน รังสิต น้ำตาไหลทั้งวัน จากครอบครัวกลับไทยคนเดียว เผยคลิปลูกเรียกพ่อไม่หยุด
- เห็นแล้วอึ้ง! ออม สุชาร์ เปิดลิสต์อาหารที่กินแล้วแพ้ กว่า 21 อย่าง
