รวบแล้ว! ผัวใหม่ลักพาตัวลูก 5 ขวบหวังคืนดีแม่เด็ก ยันรักเหมือนลูกแท้ ๆ ไม่ทำร้าย (คลิป)

7 ก.ย. 64

กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก “อิจื้น แป้นแล้น” โพสต์ภาพของชายหนุ่มรายหนึ่งและเด็กชาย พร้อมข้อความว่า “ขอความช่วยเหลือจากเพื่อน ๆ ในเฟซค่ะ วันนี้ได้มีผู้ชายคนในรูป พร้อมเพื่อนมาลักพาตัวน้องภัทร อายุประมาณ 5 ปี และได้ขับรถกระบะ ไม่ติดป้ายทะเบียน มุ่งหน้าเข้าในตัวเมืองขอนแก่น ใครพบเบาะแสรบกวนติดต่อกลับเบอร์โทรศัพท์ 0807288204 (แพม)" เมื่อโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปในโซเชียลฯ ต่างมีผู้คนเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก

123694

ล่าสุดวันที่ 7 ก.ย.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยังบ้านของเด็กที่ถูกลักพาตัว ภายในพื้นที่ บ้านโสกม่วง หมู่ 4 ต.พังทุย อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น

139563

ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นางดวงจันทร์ พังทุย อายุ 50 ปี ย่าของน้องภัทร เปิดเผยว่า ผู้ก่อเหตุ คือ นายสุรพงษ์ หรือ เต้ ส่วนเด็กที่ถูกลักพาตัว คือ ด.ช.วรวัตร หรือ น้องภัทร อายุ 5 ขวบ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. ของวันที่ 6 ก.ย.64 ที่ผ่านมา ขณะนั้นน้องภัทร ได้เดินเล่นอยู่กับน้องโฟกัส พี่ชายวัย 10 ขวบ ห่างจากบ้านประมาณ 100 เมตร จู่ ๆ มีรถกระบะไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนขับมาหาน้อง ก่อนที่ชาย 2 คนจะลงมาจากรถ แล้วอุ้มน้องภัทรขึ้นรถไป แม่ของน้องภัทร หลังจากรู้เรื่องก็บอกให้คนรีบวิ่งไปช่วย แต่ก็ไม่ทัน จึงได้ไปแจ้งความที่ สภ.น้ำพอง เพื่อสกัดจับรถคันดังกล่าว

365087

กระทั่งเวลาประมาณ 21.00 น. ชายคนที่อุ้มน้องภัทร ได้โทรศัพท์เข้ามาหาจึงรู้ว่า คือ นายสุรพงษ์ เพื่อนรวมงานของแม่เด็ก ซึ่งกำชับว่าให้แม่ของเด็กออกไปรับน้องภัทร ที่ อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร โดยต้องเดินทางมาเพียงคนเดียวเท่านั้น แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจห้ามไว้ เพราะว่าเป็นเวลากลางคืน และกลัวว่าแม่เด็กจะถูกลักพาตัวไปด้วย เพราะว่าเพื่อนร่วมงานคนดังกล่าว ต้องการตัวแม่เด็ก 

กระทั่งช่วงเย็นวันนี้ (7 ก.ย.64) ตำรวจสภ.น้ำพอง สามารถจับกุมตัวนายสุรพงษ์ ผู้ก่อเหตุได้แล้ว ที่บริเวณพื้นที่นาของครอบครัวผู้ก่อเหตุ ภายในอ.วานรนิวาส จ.สกลนคร ทำให้ได้หลานชายกลับมาอยู่กับคนในครอบครัวอย่างปลอดภัย อย่างไรก็ตาม สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ช่วยเหลือ ดำเนินการเร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุ จนครอบครัวได้ตัวหลานชายกลับมา สุดท้ายนี้ ตนคิดว่าผู้ก่อเหตุก่อเหตุอุกอาจเกินไป เชื่อว่าสาเหตุมาจากอยากคืนดีกับแม่ของเด็ก แต่แม่เด็กไม่ยอมจึงลงมือก่อเหตุดังกล่าว

866811129947

ขณะที่เฟซบุ๊กของนายสุรพงษ์ ได้โพสต์ข้อความต่าง ๆ ว่า "ชีวิตต้องแลกด้วยชีวิต ไม่จากเป็นก็จากตาย", "เป็นห่วงหรือจะซ้ำเติมเต็มที่เลยครับ ผมมันคนเทา ๆ", "ถ้าบ่เอากะสิ ตีนยันลงน้ำโลดใดครับ", "เด็กทั้งคนถ้าเป็นผมตามไปรับแล้วไม่ต้องรอตำรวจว่าแผนช่วยหรอก"

972264148639

"อย่าพยายาม ถ้างั้นจะไม่รับประกันความปลอดภัย"

"ไม่เจ็บอย่างฉันใครจะเข้าใจ ว่ารักน่ากลัวเท่าไหร่"

"ทำดีแล้วคนไม่เห็นค่า ทำชั่วดีกว่าคนรู้จักเยอะดี"

"โกหกเหนื่อยไหม คนแกล้งโง่โคตรเหนื่องเลย"

"ไฮลัก รีโว่เกิดมาเพื่อลุย สี่ประตูติดเสาสัญญาณยังตามไม่ทัน"

"ไม่ปล่อยก็คือไม่ปล่อย อย่ามาเหลี่ยมกับกู"

423329787001

เวลา 17.00 น. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ ยี่สารพัฒน์ ผกก.สภ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น กล่าวว่า จากการสอบสวนแม่ของเด็ก ยังทราบอีกว่าผู้ก่อเหตุเคยลักพาตัวลูกชายมาแล้ว 1 ครั้ง เมื่อวันที่ 29 ส.ค.64 ที่ผ่านมา แต่แม่เด็กได้ไปขอลูกชายคืน โดยผู้ก่อเหตุมีข้อแม้ว่าแม่ของเด็กต้องอยู่ด้วย 3 วัน จึงจะคืนเด็กให้อย่างปลอดภัย จากนั้นฝ่ายหญิงก็ขอเลิกและตัดขาด กระทั่งวันที่ 6 ก.ย.64 ขับรถยนต์กระบะมาที่บ้านพักฝ่ายหญิงในอ.น้ำพอง เพื่อมาขอคืนดี แต่ไม่พบฝ่ายหญิง พบแต่ลูกชายเดินเล่นอยู่ในหมู่บ้าน จึงอุ้มขึ้นรถกลับบ้านที่ จ.สกลนคร

863946

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบรายละเอียด จึงติดตามไปที่บ้านที่ จ.สกลนคร แต่ทราบว่าผู้ก่อเหตยังไม่เข้าบ้าน จึงตามไปที่บ้านเพื่อนสนิท กระทั่งพบผู้ก่อเหตุพักอยู่ในบ้านเพื่อนสนิท ซึ่งน้องภัทร ก็อยู่ด้วย จึงเข้าควบคุมตัวเอาไว้ได้สำเร็จ 

จากการสอบสวนในเบื้องต้น นายสุรพงษ์ กล่าวยอมรับว่า ตนรักฝ่ายหญิงและรักน้องภัทรเหมือนลูกชาย แต่ฝ่ายหญิงไม่ยอมมาอยู่ด้วย และขอเลิกคบ ตนไม่รู้จะทำอย่างไรให้ฝ่ายหญิงกลับมาหา จึงตัดสินใจนำตัวน้องภัทรกลับบ้านด้วย เพราะเชื่อว่าฝ่ายหญิงจะตามมาเอาลูกชายคืน ก็จะถือโอกาสขอคืนดีและอยู่ด้วยกัน และไม่คิดว่าฝ่ายหญิงจะแจ้งตำรวจจับ ส่วนการก่อเหตุครั้งนี้ มีเพื่อนอีกคนมาช่วยขับรถให้ด้วย

ภายหลังการสอบสวน ตำรวจได้แจ้งข้อหาร่วมกันพรากผู้เยาว์ ควบคุมตัวกลับมาดำเนินคดีที่สภ.น้ำพอง ส่วนเพื่อนที่ร่วมก่อเหตุอยู่ระหว่างการหลบหนี เจ้าหน้าที่กำลังตามหาตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายเช่นกัน ส่วนน้องภัทรปลอดภัยและไม่มีร่องรอยการถูกทำร้ายแต่อย่างใด จึงได้ส่งตัวคืนให้กับแม่เรียบร้อยแล้ว

advertisement

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส