จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก Suratthani Exclusive โพสต์ข้อความพร้อมภาพระบุ "มาเฟียในคราบตำรวจ สภ.เกาะพงัน ปล่อยกู้ให้ชาวบ้านดอกเบี้ยร้อยละ 20 ต่อวัน ใครเซ็นสัญญาเงินกู้ไป และถ้าหากจ่ายไม่ไหวทบต้นทบดอกที่ส่งมาไม่คิดให้ ชอบบุกรุกบ้านคนอื่น ทั้งๆ ที่ร้านปิด และที่สำคัญ ทำคดีอันเป็นเท็จ ให้คนที่กู้เงินได้รับโทษทางอาญา กลั่นแกล้งประชาชนข้อหาฉ้อโกงทรัพย์ โดยสร้างเอกสารเท็จขึ้นมา"
ล่าสุด วันที่ 2 ก.ย. 64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ไปยังร้านผลไม้ ที่เกิดเหตุตามกล้องวงจรปิดใน อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี นางจันทนา ประสิทธิ์กุล อายุ 58 ปี แม่ของผู้ร้องเรียน อ้างว่าถูกตำรวจที่ชื่อหมวดกอบ มาทวงเงินกู้ที่ร้าน
นางจันทนา บอกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตามกล้องวงจรปิด เป็นช่วงเวลาที่ตำรวจที่ชื่อหมวดกอบ มาทวงถามเงินที่ร้านเพื่อข่มขู่ จะให้ ตนกับลูกสาวที่ชื่ออรวรรณ รับผิดชอบเงินกู้พร้อมดอกเบี้ย จำนวน 45,000 บาท ซึ่งเรื่องเงินที่หมวดกอบมาทวง คือเงินที่หมวดกอบ พาลูกค้าที่ชื่อเอ (นามสมมติ) มาขอเซ็นสัญญาเงินกู้กันที่ร้าน จำนวน 20,000 บาท ในช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยบอกให้ตนกับลูกสาวเซ็นเป็นพยานในการกู้ ตนกับลูกสาวก็เซ็นไปเพราะนายเอคือคนที่มาขอกู้กับหมวดกอบก็รู้จักกัน และหมวดกอบก็พาคนมาเซ็นสัญญากู้เงินที่ร้านหลายคนแล้วด้วย
จนกระทั่งเวลาผ่านมาถึงวันที่ 17 ก.ค.64 ตามเวลาในกล้องวงจรปิดก็คือ ช่วง 09.43 น. คนในกล้องวงจรปิดที่ใส่เสื้อกีฬาสีม่วง ก็คือหมวดกอบ มาทวงถามหนี้ บอกว่าตนกับลูกสาวเป็นคนค้ำประกันเงินให้กับนายเอ ตอนนี้นายเอไม่ส่งเงิน ตนก็โวยหมวดกอบไปว่า จะมาทวงเงินกับตนได้อย่างไร ตนไม่ได้กู้ ทำไมไม่ไปทวงกับนายเอ หมวดกอบก็บอกว่าตอนนี้นายเอหนีไปแล้ว ที่มาทวงเพราะตนกับลูกสาวเป็นคนค้ำ แล้วหมวดกอบก็ชี้หน้าแล้วก็บอกว่า "อีแก่ มึงอย่ามาพูด"
จากนั้นตนก็ถามหมวดกอบว่าแล้วยอดเงินตอนนี้เหลือเท่าไร หมวดกอบบอกว่าทั้งต้นทั้งดอกเบี้ยรวม 45,000 บาท เพราะที่ผ่านมาที่นายเอส่งเงินมาให้คิดเป็นดอกเบี่ย ถ้าไม่ส่งดอกเบี้ย ยอดก็ทบดอกทุกวัน
หลังจากนั้นพอมาทวงบ่อย ๆ ตัวเองก็เลยปรึกษากับลูก ตัดสินใจไปร้องเรียนกับผู้บังคับการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ถึงพฤติกรรมของตำรวจ สภ.เกาะพะงัน และยิ่งไปกว่านั้น พฤติกรรมของหมวดกอบมักจะหยิบผลไม้ออกไปจากร้าน โดยไม่ได้จ่ายเงิน และทำแบบนี้บ่อย ๆ เวลามาที่ร้าน พอตนถามว่าทำไมไม่จ่ายเงิน หมวดกอบก็บอกว่าเขาเป็นตำรวจจะทำอะไรก็ได้
ด้านนายภัทร (นามสมมติ) อายุ 23 ปี พ่อค้าที่อยู่ร้านติดกันกับนางจันทนา บอกว่า ที่ผ่านมาเคยเห็นหมวดกอบพาคนนอกพื้นที่มาเซ็นสัญญากู้เงินกันที่ร้านนางจันทนาอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งตนก็ไม่เคยรู้จักคนที่หมวดกอบพามากู้ รู้แต่ตัวหมวดกอบ เพราะว่าหมวดกอบ เป็นตำรวจในพื้นที่ สำหรับยอดเงิน ตนก็ไม่รู้ว่าเขาจะมากู้เงินกันเท่าไร เห็นแต่ว่าเวลาเขาพามาเซ็นสัญญากันตอนที่มาทวงเงินกันเท่านั้น
ส่วนพฤติกรรม ที่นางจันทนาบอกว่าหมวดกอบมักจะมาหยิบผลไม้ไปโดยไม่จ่ายเงินคือเรื่องจริง แต่ทุกครั้งที่หมวดกอบมาที่ร้าน ไม่เคยทวงเงินกันถึงขั้นลงไม้ลงมือ จะมีก็แค่ยืนด่ากันไปมาเท่านั้น ซึ่งคนที่เกาะพะงันจะรู้จักกับหมวดกอบดีว่าหมวดกอบเป็นคนอย่างไร ส่วนเรื่องที่หมวดกอบจะปล่อยเงินกู้ให้กับใครตนไม่รู้ เพราะว่าตนไม่เคยกู้เงินกับหมวดกอบ
พ.ต.อ.ปัญญา นิรัตน์มานนท์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเกาะพะงัน กล่าวว่า บุคคลในกล้องวงจรปิดที่มี 2 แม่ลูกไปร้องเรียนว่าถูกข่มขู่เรื่องเงินกู้ เป็นตำรวจของ สภ.เกาะพะงัน เป็นผู้กอง ทำหน้าที่รองสารวัตรสอบสวน สภ.เกาะพะงัน ซึ่งในขณะนี้อยู่ระหว่างตั้งคณะกรรมการสอบสวน แต่ยังไม่ได้พูดคุยกับหมวดกอบว่าข้อเท็จจริงมันเป็นอย่างไร เพราะขณะนี้อยู่ระหว่างช่วงวันลาของหมวดกอบ
โดยเรื่องเงินกู้ หมวดกอบยังไม่ขอตอบ และจะขอให้การกับคณะกรรมการสอบสวนวินัยเท่านั้น หลังจากนี้ทางคณะกรรมการที่ตั้งไว้ กำลังอยู่ในระหว่างรวบรวมหลักฐานว่าหมวดกอบจะมีส่วนเกี่ยวข้องมากน้อยแค่ไหน และยืนยันว่าทางสถานีตำรวจภูธรเกาะพะงัน จะให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย และไม่ทำคดีเข้าข้างใครอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม เรื่องการปล่อยเงินกู้ในพื้นที่ ทางโรงพักจะประสานให้ทางหมวดกอบออกมาชี้แจงด้วยตัวเองในวันพรุ่งนี้ (3 ก.ย.64)
