คดี 5 เดนนรก จากกรณี เหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 เม.ย. 64 สาวอายุ 18 ปี ผู้เสียหาย พร้อมแม่ เดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์กับ พ.ต.ท.ธีรวุฒิ สมสุข สารวัตร (สอบสวน) สภ.แม่วงก์ โดยแจ้งว่าถูกผู้ชายข่มขืนจำนวน 4 คน ช่วงเวลา 03.00 น. ของคืนวันเดียวกัน ภายในในบ้าน อ.แม่วงก์ จ.นครสวรรค์ ซึ่งได้ทำการส่งตัวผู้เสียหายไปให้แพทย์ตรวจตั้งแต่แรกแล้ว พบถูกล่วงละเมิดจริง ส่วนเหตุที่ล่าช้าจะเอาผิดทางร้อยเวรด้วยที่ไม่เอาใจใส่ในคดี จนกระทั่งวันที่ 28 ส.ค.64 ทวิตเตอร์ขึ้นเทรนอันดับ 1 #5เดนนรก เป็นเรื่องราวที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมนั้น
ล่าสุด วันที่ 30 ส.ค. 64 ที่สภ.แม่วงก์ จ.นครสวรรค์ พล.ต.ต.พีระพงษ์ สุขไพบูลย์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครสวรรค์ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและติดตามความคืบหน้า กรณีกลุ่มวัยรุ่น อาทิ นายเอกราช แข็งแขตการ หรือ ป้าย อายุ 26 ปี และเยาวชนคือ นายปีเตอร์ นายโอม และ นายเติ้ล เจ้าของบ้าน
เมื่อเวลาประมาณ 08.30 น. นายเอกราช แข็งแขตการ หรือ ป้าย อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับคดี ขืนใจผู้อื่นลักษณะรุมโทรมผู้หญิง ได้เดินทางมาพร้อมกับครอบครัว ซึ่งเจ้าตัวทำงานอยู่ที่ไซต์งานก่อสร้างในกรุงเทพมหานคร หลังจากทราบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการออกหมายจับ และต้องการติดตามตัว จึงได้พากันเดินทางมาพร้อมกับรถกระบะที่ใช้ในวันเกิดเหตุ คันที่ขับไปรับนางสาวต่าย ผู้เสียหายมาที่บ้าน ขึ้นมามอบตัวที่โรงพักแม่วงก์ จ.นครสวรรค์
ทันทีที่มาถึงเจ้าตัวได้เดินลงจากรถไปพูดคุยกับชุดสืบสวนของโรงพักที่รออยู่ และก่อนหน้าที่จะเดินทางมาได้มีการประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเอาไว้ โดยเบื้องต้นว่าจะมีการมอบตัวในวันนี้ แต่ในระหว่างการที่ตัวของนายเอกราช มีการมอบตัวกับชุดสืบสวน เจ้าตัวได้ถูกออกหมายจับไปแล้ว จึงได้มีการควบคุมตัวสอบปากคำโดยทันที
นายธง (นามสมมติ) พ่อของนายเอกราช หรือ ป้าย ผู้ต้องหา เปิดเผยว่า ตนเองตั้งใจที่จะพาลูกชายมามอบตัว และแสดงความบริสุทธิ์ใจ พร้อมต้องการให้เจ้าตัวออกมาแก้ข่าว เล่าความจริงให้สังคมได้รับรู้ว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น เพราะลูกชายของตนเองไม่ได้มีการล่อลวงผู้หญิงมารุมโทรมตามที่ถูกกล่าวหา จึงได้พากันเดินทางมาจากกรุงเทพฯ เพื่อจะให้ลูกชายได้พูดความจริง แต่ก็ไม่คิดว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีการล็อกตัวไปสอบปากคำ ส่งเข้าห้องขัง เนื่องจากมีการออกหมายจับไปแล้ว
ซึ่งตนเองได้มีโอกาสพูดคุยกับลูกชาย เล่าความจริงให้ฟังว่าวันที่เดินทางมาเที่ยวบ้านใน จ.นครสวรรค์ มีการนัดกลุ่มเพื่อนมานั่งดื่มสังสรรค์กัน ขอให้นัดหญิงสาวบริการมาที่บ้าน ลูกชายก็ทราบมาโดยตลอดว่าเหมือนผู้ขายบริการทั่วไป หลังจบงานแล้วจ่ายเงิน รับเงินก็จบ และที่สำคัญตัวของลูกชายมีการจ่ายเงินให้กับนายมาร์ค และนายเวฟ จำนวน 1,000 บาท ไม่คิดว่าเจ้าตัวจะไม่นำเงินไปจ่ายให้กับผู้หญิง แต่ตอนที่ลูกชายมีโอกาสเจอกับนางสาวต่ายครั้งแรก ฝ่ายของผู้หญิงไม่ได้บอกว่าเป็นผู้หญิงขายบริการหรือไม่ มีเพียงนายมาร์คและนายเวฟที่รู้ว่าผู้หญิงมาจากไหน โดยในวันที่ลูกชายตัดสินใจบอกให้ทั้ง 2 คน ไปหาหญิงระบุเงื่อนไขเพียงว่าหาเด็กที่ปลอดภัยและแน่นอน ที่สำคัญก็ไม่รู้ว่าผู้หญิงที่มาที่บ้านหลังดังกล่าวรู้ว่าเป็นการว่าจ้างหรือไม่ เพราะคนที่รับเงินและรับรู้ก็คือตัวของนายมาร์คกับนายเวฟ
ส่วนตัวในฐานะพ่อของผู้ต้องหา ยอมรับว่าช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา ลูกชายของตนเองไม่ได้หลบหนี แค่หลังจากกลับมาเที่ยวบ้านในช่วงเมษายน กินเหล้ากับเพื่อนในบ้านหลังดังกล่าว ก็คิดว่าเป็นการจ่ายเงินเพื่อซื้อเด็กเท่านั้น กรณีที่โซเชียลได้มีการติดแฮชแท็ก พร้อมทั้งมีการรุมด่าการกระทำของลูกชายของตนเอง ส่วนตัวก็มองว่าอยากให้ฟังเหตุผล และเรื่องราวที่เกิดขึ้นจากปากของเจ้าตัวก่อน บางอย่างก็ไม่ได้เป็นไปตามสิ่งที่สังคมรับรู้ และที่สำคัญไม่มีการรุมโทรม เป็นการกระทำเพียงลำพังรายคน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- คืบคดี 5 เดนนรก ผบช.ภ.6 สั่งย้าย ผู้กำกับ สภ.แม่วงก์ และ รองผกก.สภ. สืบสวนล่าช้า
- คดี 5 เดนนรก ผกก.แม่วงก์ ออกหมายจับแล้ว เตรียมเอาผิดร้อยเวร ไม่ใส่ใจทำคดี
