ฆ่า “สิบเอกหมึก” ญาติสงสัยคนในเอี่ยวบึ้มรถ ซุกระเบิดจุดคนขับ (คลิป)

8 ต.ค. 61
กรณีรถเก๋งโตโยต้า โซลูน่า สีน้ำเงิน ทะเบียน บง 9413 นราธิวาส เกิดระเบิดขึ้นภายในบริเวณบ้านพักกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 415 บ้านบางนอน หมู่ 1 ต.บางนอน อ.เมือง จ.ระนอง ส่งผลให้ ส.อ.สุพัฒน์ธนะชัย มากประสิทธิ์ หรือ หมึก ทหารชุดปฏิบัติการรักษาความสงบเรียบร้อย มทบ.44 เสียชีวิต เมื่อวันที่ 5 ต.ค. 61 โดยญาติของผู้เสียชีวิต ไม่เชื่อว่าเป็นการฆ่าตัวตาย หรืออุบัติเหตุ แต่คิดว่ามีผู้ไม่หวังดี ตั้งใจทำให้เกิดขึ้น (อ่าน : สุดโหด “ส.อ.” สตาร์ตเก๋งบึ้มร่างเละคาค่ายทหาร แม่พุ่งเป้าแก๊งยา ฆ่าล้างแค้น)
ทางเข้าบ้านพักกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 415
วันที่ 7 ต.ค. 61 ทีมข่าวเดินทางมาที่บ้านพักกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 415 อ.เมือง จ.ระนอง โดยเจ้าหน้าที่ทหารไม่อนุญาตให้เข้าด้านใน จุดเกิดเหตุ โดยอยู่ในระหว่างการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน
สภ.เมืองระนอง
ทีมข่าวเดินทางมาที่ สภ.เมืองระนอง โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ข้อมูลว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. ของวันศุกร์ที่ผ่านมา ขณะที่ ส.อ.สุพัฒน์ธนะชัย มากประสิทธิ์ กำลังติดเครื่องรถ ออกจากจุดเกิดเหตุ แต่รถเกิดระเบิดขึ้น ซึ่งตอนนี้เจ้าหน้าที่ยังอยู่ระหว่างการเร่งรัดติดตามคดี โดยเจ้าหน้าที่ได้รวบรวมหลักฐาน วัตถุพยานในที่เกิดเหตุ เตรียมส่งไปตรวจพิสูจน์หลักฐานในวันพรุ่งนี้ (8 ต.ค. 61) คาดว่าจะทราบผลการตรวจพิสูจน์ชนิดของวัตถุระเบิดในเร็ว ๆ นี้ สำหรับปมประเด็นของการระเบิดรถยนต์ เจ้าหน้าที่ยังไม่ยืนยันว่าเป็นปมความขัดแย้งส่วนตัว หรือเกี่ยวกับประเด็นความมั่นคง โดยตอนนี้ ยังไม่พุ่งเป้าไปที่ประเด็นใด แต่ได้เรียกสอบปากคำทั้งพยานในที่เกิดเหตุ และพยานบุคคลใกล้ชิดแล้วประมาณ 20 ปาก ซึ่งในวันพรุ่งนี้ ทางเจ้าหน้าที่จะมีการประชุมร่วมกัน โดยมีผู้บังคับบัญชาระดับสูงเข้าร่วมติดตามคดีด้วย
สภาพรถยนต์ที่ระเบิด
สภาพรถยนต์ที่ระเบิด
นอกจากนี้ พบว่ารถเก๋งซึ่งเป็นรถของผู้ตาย ได้มีการนำรถมาจอดไว้ภายในโรงพัก โดยสภาพรถ หลังถูกแรงระเบิด ค่อนข้างยับเยิน บริเวณกระจกหน้ามีรอยร้าว ภายในรถ มีร่องรอยการไหม้จากแรงระเบิด โดยฝั่งคนขับ พบว่าแรงระเบิดได้เผาไหม้ทั้งบริเวณคอนโซลหน้า พวงมาลัยคนขับ และเบาะคนขับฉีกขาด คาดว่าแรงระเบิดมาจากส่วนบริเวณของคนขับ เนื่องจากมีรอยไหม้มากกว่าส่วนอื่น ๆ ภายในรถยนต์ ส่วนล้อรถยนต์ทั้ง 4 ล้อ เจ้าหน้าที่ได้ถอดออกไปแล้ว
นางสาวชญาน์นันท์ และนางสาวจินตนา มากประสิทธิ์ พี่สาวและน้องสาวผู้เสียชีวิต
นางสาวชญาน์นันท์ มากประสิทธิ์ และ นางสาวจินตนา มากประสิทธิ์ พี่สาวและน้องสาวผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ตนมาทราบจากหลานว่า ทางผู้บังคับบัญชาได้โทรศัพท์มาแจ้งผู้ใหญ่บ้านว่า นายหมึกเสียชีวิตแล้ว ซึ่งทางครอบครัวก็ไม่ทราบว่าเกิดจากสาเหตุใด และรู้สึกสงสัยเคลือบแคลงใจ ว่าระเบิดในรถยนต์นั้นมาได้อย่างไร เพราะน้องชายตนไม่เคยพกพาระเบิด หรือ อาวุธปืนไว้ติดตัว ส่วนตัวไม่เคยรู้มาก่อนว่าน้องชายทำงานเป็นอย่างไร เพราะน้องจะไม่เล่าให้ฟัง แต่นิสัยส่วนตัวของเขาเป็นคนตรงไปตรงมา พูดจาโผงผาง และไม่พูดอ้อมค้อม ซึ่งเวลาทำงานเขาก็จะทำอย่างตรงไปตรงมา ตนจึงไม่แน่ใจว่าเขามีปัญหาขัดแย้งกับใครบ้างหรือไม่ ทั้งนี้ ก่อนที่น้องชายจะมาปฏิบัติหน้าที่ใน จ.ระนอง เคยปฏิบัติหน้าที่เป็นทหารชุดปฏิบัติการรักษาความสงบเรียบร้อย มทบ.48 ใน จ.นราธิวาส โดยเมื่อต้นปีที่ผ่านมา น้องตนเคยถูกลอบยิงขณะขับขี่รถยนต์ 1 ครั้ง ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนั้น คาดว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุอาจเป็นกลุ่มผู้ก่อการไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ ส่งผลให้ครอบครัวรู้สึกเป็นกังวล และน้องชายรู้สึกหวาดกลัว ประกอบกับต้องมาดูแลแม่ที่ยังอยู่ในอาการป่วย จึงขอย้ายมาปฏิบัติหน้าที่ช่วยราชการใกล้บ้าน เพื่อขอดูแลแม่ด้วย ทำให้ขณะนี้ น้องชายมาปฏิบัติหน้าที่ช่วยราชการได้ประมาณ 4-5 เดือนแล้ว ส่วนตัวมองว่าจากเหตุการณ์ถูกลอบยิงในครั้งนั้น ไม่น่าเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดเหตุระเบิดในรถยนต์ของน้องชาย เพราะเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นในจังหวัดอื่น อีกทั้งเกิดขึ้นมาหลายเดือนแล้ว ทางครอบครัวจึงยังติดใจว่าครั้งนี้ถูกลอบวางระเบิดได้อย่างไร
รูปหน้าศพ ส.อ.สุพัฒน์ธนะชัย
สำหรับเรื่องที่ก่อนหน้านี้ มีข่าวว่าน้องพยายามติดเครื่องรถ แต่รถไม่ติดนั้น ตนขอชี้แจงว่า ขณะนั้นรถของน้องชายจอดไว้ที่บ้านเพื่อน และเตรียมที่จะกลับ จ.ระนอง ไปปฏิบัติหน้าที่ตามเดิม แต่รถไม่ติด กระทั่งรถติดแล้วจึงเดินทางกลับ โดยที่เขาไม่ได้มีการเรียกช่างมาซ่อมแต่อย่างใด เพราะหากเรียกช่างมาซ่อม ตนก็ต้องรับรู้ว่าเรียกมาซ่อมเสียค่าใช้จ่ายไปกี่บาท ตนยอมรับว่า รถของน้องชายเป็นรถมือสอง และค่อนข้างเก่า ทำให้มีปัญหาบ่อย แล้วเพิ่งมามีปัญหารถเครื่องยนต์ไม่ติด ก็ตอนที่กำลังจะกลับ จ.ระนอง แต่ยืนยันว่าเรื่องของรถ ไม่ใช่สาเหตุที่จะทำให้เกิดระเบิดได้ ส่วนการซ่อมรถนั้น มีการซ่อมครั้งใหญ่ ตอนถูกลอบยิงที่ จ.นราธิวาส ไม่ใช่เพิ่งเรียกช่างซ่อมตามที่เป็นข่าว นางสาวชญาน์นันท์ กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตนรู้สึกทำใจไม่ได้ และไม่อยากทำใจยอมรับ ตนอยากให้เจ้าหน้าที่ช่วยคลี่คลายคดี ขอความเป็นธรรมให้กับน้องชายด้วย เพราะเขารักการเป็นทหารอย่างมาก และทำงานราชการทหารมากว่า 10 ปี เวลาปฏิบัติหน้าที่ก็จะทำด้วยความตั้งใจ ขณะปฏิบัติหน้าที่ที่ จ.นราธิวาส ตนก็เคยเตือนน้องว่าเป็นทหารนั้นอันตราย อยากให้ลาออก แต่น้องกลับตอบตนว่า “ผมอยู่ที่ไหน ผมก็ตาย แต่ถ้าผมตายขณะปฏิบัติหน้าที่ ธงชาติก็คลุมร่างผม” ซึ่งน้องจะพูดแบบนี้กับตนทุกครั้ง แต่ไม่เคยบอกว่าเรื่องงานขัดแย้งกับใครหรือไม่ ทำให้ตนเชื่อว่ามีคนตั้งใจลอบทำร้ายน้องชายตน
นายวินัย มากประสิทธิ์ พี่ชายของผู้เสียชีวิต
ขณะที่นายวินัย มากประสิทธิ์ พี่ชายของผู้เสียชีวิต เล่าว่า น้องชายกลับมาเยี่ยมบ้านที่ จ.ชุมพร เป็นประจำ แต่จะไม่ค่อยเล่าเรื่องงานให้ฟัง โดยก่อนเกิดเหตุ เขาก็มีท่าทีปกติ ไม่ได้ดูมีปัญหาใด ๆ ส่วนรถยนต์ที่เขาใช้ขับขี่ ตนก็เห็นสตาร์ตติดดีเป็นปกติ แต่ไม่แน่ใจว่านำไปซ่อมบ้างหรือไม่ ทั้งนี้ นิสัยของน้องชายเป็นคนที่ดีมาก ตั้งใจทำงาน ชอบช่วยเหลือคน และรักการเป็นทหารมาก ตอนเขาไปปฏิบัติหน้าที่ จ.นราธิวาส ตนก็มองว่าค่อนข้างมีความเสี่ยง แต่เขาไม่เล่าเรื่องโดนลอบยิงให้ฟัง นายวินัย กล่าวต่อว่า หลังจากตนทราบว่าน้องชายเสียชีวิต ก็รีบไปที่โรงพยาบาลระนอง โดยพบว่าสภาพศพไม่ได้สวมใส่เสื้อผ้า แทนที่จะมีผ้าคลุมร่าง โดยขณะนั้นไม่มีเจ้าหน้าที่ทหารเข้ามาดูแล คล้ายกับคนไม่มีญาติ ตนจึงไปที่จุดเกิดเหตุภายในบ้านพักทหาร พบสภาพรถพังยับเยิน พื้นดินมีรอยหลุมขนาดใหญ่ เพราะแรงปะทุของระเบิด ทำให้ตนเชื่อว่าระเบิดอยู่ภายใต้ท้องรถ หรือช่วงเบาะรถฝั่งคนขับ เพราะร่างน้องชายถูกแรงระเบิดช่วงหว่างขา ทั้งนี้ ตนไม่ทราบว่าระเบิดถูกบรรจุไว้อย่างไร แต่เชื่อว่ามีการลอบวางระเบิดไว้ภายในรถยนต์น้องชาย ส่วนตัวไม่ทราบว่าเขามีปัญหากับคนในค่ายทหารหรือไม่ แต่ตนตั้งข้อสังเกตว่า อาจมีคนข้างในรู้เห็น เพราะสถานที่บ้านพักทหารก็เป็นสถานที่ปิด ไม่อนุญาตให้คนภายนอกเข้าไป ซึ่งตนยังไม่ได้พูดคุยกับผู้บังคับบัญชาของน้อง ที่ผ่านมา น้องชายก็ทำงานจริงจัง ส่วนที่เร่งแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการจับสารเสพติดนั้น ตนไม่ทราบว่าจะเกี่ยวข้องหรือไม่ หรือไปขัดแย้งกับใครหรือไม่ อย่างไรก็ตาม วอนให้เจ้าหน้าที่ช่วยจับคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็ว เพราะเหตุการณ์เสียชีวิตในค่ายทหาร หากจับคนทำผิดมาลงโทษไม่ได้ ก็ถือว่าไม่มีประโยชน์ ไม่มีความหมาย
บรรยากาศงานสวดอภิธรรมศพ ส.อ.สุพัฒน์ธนะชัย
บรรยากาศงานสวดอภิธรรมศพ ส.อ.สุพัฒน์ธนะชัย
สำหรับบรรยากาศงานสวดอภิธรรมศพ ส.อ.สุพัฒน์ธนะชัย ที่จัดขึ้นที่บ้านเกิด ณ วัดบ่ออิฐ อำเภอปะทิว จ.ชุมพร โดยมีบรรดาญาติคนสนิทมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก ในช่วงเวลาประมาณ 20.00 น. มีตัวแทนเจ้าหน้าที่ทหาร พร้อมด้วยผู้บังคับบัญชา จาก มทบ.44 มาร่วมฟังสวดอภิธรรม โดยมี ร้อยเอกมนตรี อาจหาญ เป็นประธานในพิธี จากนั้นพระสงฆ์จากวัดบ่ออิฐ และวัดดอนตะเคียน รวม 8 รูป ทำการสวดอภิธรรม ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า มีทั้งญาติและเพื่อนสนิทของสิบเอกสุพัฒน์ธนะชัยเข้าร่วมฟังสวดอภิธรรม ทั้งนี้ กำหนดการงานสวดอภิธรรมศพ จะมีไปจนถึงวันที่ 12 ต.ค. 61 จากนั้นทางญาติจะเคลื่อนศพไปที่วัดดอนตะเคียน เพื่อส่งดวงวิญญาณ และทำพิธีฌาปนกิจ ในวันที่ 14 ต.ค. เวลา 13.00 น.

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ