จากคดีดัง ผู้กำกับโจ้ กับ 6 ตำรวจ คลุมถุงหัว นายจิระพงศ์ ธนะพัฒน์ หลังจากถูกจับคดียาเสพติดที่ สภ.เมืองนครสวรรค์ โดย พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ โจ้ ผู้กำกับ สภ.เมืองนครสวรรค์ รับสารภาพว่าใช้ถุงดำคลุมหัวจนตาย เมื่อวันที่ 5 ส.ค. 64 และสั่งให้ผู้ใต้บังคับบัญชาร่วมก่อเหตุ หลังมีคลิปวงจรปิดเผยพฤติกรรมออกมาเป็นนาทีก่อเหตุ ต่อมาเมื่อวันที่ 26 ส.ค. 64 เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาได้ทั้ง 7 รายแล้วนั้น
นางเพ็ญศรี (นามสมมติ) อายุ 55 ปี เหยื่อที่เคยถูกรีดเงินโดยชุด 05 เปิดเผยว่า ตนเองจำวันที่แน่นอนไม่ได้ แต่ตนเองถูกจับพร้อมยาเสพติดเป็นยาบ้า 35 เม็ด โดยนำตัวไปขังไว้ที่ห้อง 05 ที่อยู่ด้านหลังอยู่ราว 2 คืน ตนเองก็ทำอะไรไม่ถูก ตำรวจให้ทำอะไรตนก็ทำตาม ซึ่งยาเสพติดไม่ใช่ของตน เป็นของหลานที่เอามาฝากไว้มาขอความช่วยเหลืออยากได้เงิน จึงขอให้ตนเอายาไปให้กับคนที่เสพ เมื่อตนเองเอายาไปก็ถูกจับ หลังจากนั้นชุด 05 พยายามให้ตนเองพาไปหาหลาน ตนเองก็พาไป แต่หลานหลบหนีไปหาตัวไม่เจอ สุดท้ายตำรวจหาเจ้าของยาไม่ได้ ก็จับตนเองแทน
ระหว่างที่อยู่ในห้องทุกอย่างปกติ ตำรวจก็พูดคุยดี ไม่ได้ทำร้ายตน เพราะตนอายุเยอะแล้ว มีโรคประจำตัวเยอะ แต่ช่วงแรกมีตำรวจบางนายก็ข่มขู่ เรียกตนว่า "อีนั่น อีนี่" สุดท้ายตำรวจมีการยื่นข้อเสนอเรียกเงิน 100,000 บาท ตำรวจอนุญาตให้ตนเองก็คุยโทรศัพท์กับลูกสาว ลูกสาวก็ไม่มีเงิน จึงขอต่อรองตำรวจเสนอใหม่มาที่ 50,000 บาทเพื่อจบเรื่อง สุดท้ายลูกตนไปกู้เงินมาเพื่อจ่าย ปัจจุบันก็ยังเป็นหนี้
ตอนแรกตนเองก็ไม่อยากจ่าย ตนคิว่าเป็นเรื่องไม่สมควรต้องเสียเงิน สุดท้ายลูกสาวหาเงินมาได้ ตำรวจก็ทำเรื่องให้ตนเซ็นเอกสารว่าค้นตัวแล้วไม่พบสิ่งเสพติด ก่อนปล่อยตัวกลับ และข่มขู่ว่าห้ามไปบอกใคร อย่างหนึ่งที่ตนเองจำได้คือ ตำรวจจะอ้างว่า "นายไม่ยอม ๆ" ซึ่งตนถามว่านายคนไหน ตนเองอยากไปคุยด้วยว่าตนไม่มีเงิน แต่ตำรวจก็ไม่ยอมบอกว่าคือใคร ส่วนตัวยอมรับว่ากลัว ตนดูข่าวแล้ว ตนไม่เคยรู้ว่าชุด 05 คืออะไร จนกระทั่งมาเป็นข่าว ตนเองไม่มีความเห็นอะไร เพราะตนไม่อยากมีเรื่อง ทุกวันนี้ก็ลำบาก การใช้ชีวิตก็ลำบาก อีกอย่างหนึ่งของกลางยาเสพติดหลังตำรวจลงบันทึกว่าไม่มีของกลางจากตน ทำให้ไม่รู้ว่าของกลางที่จับมาไปที่อยู่ที่ไหน
นายอารักษ์ (นามสมมติ) หนึ่งในเหยื่อที่ถูกรีดเงิน สูญไป 30,000 บาท เปิดเผยความรู้สึกหลังจากมีการจับกุม 7 ผู้ต้องหาได้สำเร็จ เปิดเผยว่า ตนเองได้ดูการแถลงข่าวของผู้กำกับโจ้แล้ว ตนรู้สึกว่าเป็นเรื่องธรรมดา ตำรวจเป็นคนรู้กฎหมาย เขาเรียนจบมาสูง ต้องตอบให้องค์กรดูเสียหายน้อยที่สุด และไม่ให้พูดไปเพื่อโยงไปเรื่อย ส่วนคำแถลงที่มีการพูดตนเองคิดว่าไม่ได้มีความจริงทั้งหมด เพราะคนผิดก็อยากจะให้ลดความผิดลง
เรื่องที่ผู้กำกับบอกว่ารับผิดคนเดียว ผู้กำกับเป็นคนสั่ง ซึ่งตนว่าสิ่งนั้นมันอ้างไม่ได้ การกระทำในคลิปมันชัดเจน ทุกคนโตแล้ว หากจะไม่ทำไม่ช่วย ก็เดินหนีไปไหนก็ได้ การที่พวกคุณปั๊มหัวใจคนตาย แล้วไม่ยอมแจ้งตำรวจ แบบนี้โดนข้อหาปิดบังอำพรางศพไหม ตนอยากถามว่าหากเป็นประชาชนคนธรรมดา อย่างตนนั่งเสพยากันอยู่ 3 คน ของกลางอยู่ครบ หากจะให้ตนเองรับผิดคนเดียว ตนอ้างได้หรือไม่ ตำรวจก็จับรวมทั้งหมดอยู่ดี
การที่บอกว่าไม่ตั้งใจทำ ตนคิดว่าไม่จริง การคลุมถุง 6 ชั้นมันอ้างไม่ได้ ในคลิปคนตายต้องมีคนจูงเข้ามา เขามองไม่เห็นอยู่แล้ว จะอ้างได้อย่างไรว่ากลัวคนตายเห็นหน้า หากพวกตนกระทำผิดบ้าง แล้วบอกว่าไม่ตั้งใจค้ายา ไม่ตั้งใจเสพยา ตำรวจจะเชื่อหรือไม่ "แต่อย่างว่า มันคนละชนชั้น พวกตนคนธรรมดา" มีเรื่องจริงเรื่องเดียวที่ตนเองเชื่อคือการที่ผู้กำกับบอกว่าพลาด เพราะไม่มีใครกล้าทำแบบนั้นได้ หากไม่เกิดจากความพลาด
กรณีเคยเรียกรับเงินจากประชาชน ตนเองไม่รู้ว่าผู้กำกับโจ้เรียกรับเงินเองหรือไม่ แต่อย่างหนึ่งลูกน้องของผู้กำกับโจ้เรียกรับเงินแน่นอน ตนก็ยังงงว่าผู้กำกับพูดแบบนี้ออกมาได้อย่างไร การเรียกรับเงินมันเกิดขึ้นก่อนที่ผู้กำกับโจ้จะมาอยู่แล้ว แต่ตอนที่ผู้กำกับโจ้มา มันโหดกว่ายุคอื่น ที่มีทั้งการไล่ล่า ด่านลอยเยอะมาก เรื่องกล้องวงจรปิด ตนเองอยากออกความเห็นว่า การที่ลบวงจรปิดนั้นไม่รู้ว่าต้องการลบเฉพาะคลิปของกรณีนี้หรือกลัวว่าจะเห็นการกระทำแบบนี้กับผู้เสียหายคนอื่น ๆ หรือไม่ ผู้กำกับจะอ้างว่าไม่เคยทำมาก่อนก็ได้ แต่ลูกน้องของผู้กำกับทำมาตลอด ตอนที่ตนเองถูกจับ ตนเองเคยบอกกับตำรวจที่จับว่า "อย่าไปทำกับใครอีก มันเหมือนการปล้น" สุดท้ายตำรวจก็ยังทำไม่หยุด
ตนเองรับว่ารู้สึกสบายใจที่ตำรวจจับทุกคนได้ สบายใจที่ได้รับโทษ แต่เสียใจที่ได้เงินภาพผู้กำกับโจ้ใส่สายเคเบิลไทป์แทนกุญแจมือ หากเป็นชาวบ้านเชื่อว่าโดนขังเหมือนหมูเหมือนหมา แต่ตำรวจคงอยู่สบาย การที่ตำรวจมีการเค้นสอบเพื่ออยากได้ของกลางตามคลิปวงจรปิด เป็นการหาของกลางเพื่อให้ได้มาซึ่งผลประโยชน์ ที่ทุกคนในคลิปก็จะมีส่วนแบ่งด้วย ดังนั้นอ้างไม่ได้ว่ามีคนสั่งให้ทำ
นอกจากนี้ หากนำตัวทั้ง 7 คนเข้าห้องขัง ก็อาจจะเจอโจท์เก่าที่ก่อคดีไว้นานแล้ว หรืออาจถูกรับน้องก็ได้
สำหรับความรู้สึกของเหยื่อแก๊งตำรวจชุด 05 เผยว่ารู้สึกดีใจที่ถูกเปิดความจริงและตำรวจกลุ่มนี้ถูกจับ และพูดเป็นทางเดียวกันว่าเวรกรรมมีจริง
