จากกรณี เพจเฟซบุ๊ก "แม่ทัพลิง อินร่างทรง" ลงภาพการทำพิธีสุดแปลก โดยอ้างว่ามีการสักยันต์ แล้วใช้คมมีดทดสอบความขลังของยันต์ที่ลูกศิษย์เดินทางมายัง พร้อมกับระบุว่า "มีดมึงตัด_มอยขาดไหมวะ 555555 แล้วเอาสากกะเบือมาทุบมีดแบบนั้นจะเข้าได้ไง แน่จริงมึงเอามีดคัตเตอร์กรีดไปเลย กูเห็นมาหลายอาจารย์แล้วแบบนี้สุดท้ายเสียเวลาหมอเย็บแผล"
วันที่ 10 ส.ค. 64 ทีมข่าวเดินทางไปที่สำนักสักยันต์ในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นบ้านส่วนตัวในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ด้านหน้าสังเกตว่ามีป้ายสีแดง เขียนกำกับว่า "สำนักสักยันต์ เสือสมิง รับดูดวง" เมื่อเข้าไปด้านในพบว่ามีรูปปั้นครูอาจารย์ เป็นครูธรรมทางภาคอีสาน พระพุทธรูปเก่าโบราณ ตั้งวางบนโต๊ะหมู่บูชาจำนวนมาก บริเวณข้างฝามียันต์สาลิกาลิ้นทอง มีรูปของครูอาจารย์ และพระสงฆ์แขวนอยู่ข้างฝา
นายวริรวิทย์ รงคำ หรือ อาจารย์เปี๋ยว อายุ 41 ปี เจ้าของสำนัก นุ่งขาวส่วนบน และใส่ผ้าถุงเป็นลายผ้าเขาม้าแบบอีสานส่วนล่าง มีลูกประคำขนาดใหญ่ แต่งกายคล้ายกับผู้ปฏิบัติธรรมทางภาคอีสาน สำนักดังกล่าวไม่ใช่สำนักทรง เพียงเปิดรับการดูดวง แก้ดวง และเน้นเรื่องการสักยันต์เป็นหลัก
ทีมข่าวขอดูอุปกรณ์ที่ปรากฏในคลิปที่แชร์ อาจารย์เปี๋ยวหยิบสากกะเบือไม้ ยาวประมาณ 30 เซนติเมตร มีร่องรอยของการแตกหักพร้อมด้วยมีดสับ ยาวประมาณ 30 เซนติเมตร ให้ทีมข่าวดู มีดที่ใช้ชุบมนต์ เป็นภาษาที่ใช้ทดสอบหลังสักยันต์ จะเป็นมีดทั่วไปที่หาซื้ออได้ตามท้องตลาด มีการตีสลักข้างมีด ระบุ "สำเริง อรัญญิก" ส่วนสากกะเบืออยู่ในตำราครุอาจารย์ระบุเอาไว้เท่านั้น คือสากกะเบือแม่ฮ้าง-แม่หม้าย ผู้หญิงผัวตายผัวทิ้ง หรือ อาจใช้ไม้บันไดเก่า บ้านแม่ฮ่าง-แม่หม้าย หรือ ไม้เผาศพในเจากองฟอน ที่เผาไม่หมด ซึ่งต้องใช้ไม้ 3 สิ่งนี้เท่านั้น ในการทุบมีดสร้างมนตร์ขลังของยันต์
ทั้งนี้ มีการนำกระดาษสีขาวขึ้นมา 1 แผ่น ทำการทดสอบ พบว่ามีความคมปกติ สามารถตัดกระดาษได้ นอกจากนี้ ทีมข่าวยังได้ซื้อเนื้อหมู 3 ชั้นทำการทดสอบ ขอให้อาจารย์เปี๋ยวตัด เป็น 3 แบบ คือ วางมีดบนเนื้อหมูบริเวณด้านที่เป็นหนัง แทนตัวคนที่เคยทำพิธี ใช้สากกะเบือ ทุบด้วยน้ำหนักที่มีการตอกจริงกับลูกศิษย์ 3 ครั้ง พบว่าหนังหมูและเนื้อหมูขาดแยกออกจากกัน
สับเนื้อหมูด้านที่เป็นหนัง ยกมีดขึ้นและสับเต็มแรง พบว่าต้องมีการสับซ้ำจึงจะทำให้เนื้อหมูขาดแยกออกจากกัน และ เฉือนเนื้อหมู่ ด้านที่เป็นหนัง โดยการเชื้อไม่ว่าจะเฉือนกี่ครั้ง เนื้อหมูก็ขาดแยกออกจากกัน เพราะสังเกตว่ามีดยังคงมีความคมปกติ
นายวริรวิทย์ รงคำ หรือ อาจารย์เปี๋ยว อายุ 41 ปี เจ้าของสำนักสักยันต์ เปิดเผยว่า จากกรณีคลิปดังกล่าวที่แชร์ มีลูกศิษย์เดินทางมา เพื่อสักยันต์เสริมดวงด้านการค้าขายเป็นจำนวนมาก ตนเองก็จะมีการแถมและเพิ่มให้กับลูกศิษย์ สักน้ำมันหรือลงอักขระ เพิ่มเสริมดวง 108 อย่าง คือคงกระพัน และเมตตามหานิยม การที่ตนเองสักเพิ่มให้ลูกศิษย์นั้นเพราะว่าอาจจะมีเหตุบังเอิญ ที่มีคนทำร้ายกันแล้วโดนลูกหลง ฉะนั้นการลงอักขระคงกระพัน ก็ถือเป็นการป้องกัน และช่วยเหลือให้รอดปลอดภัย
ภายหลังที่มีการสักยันต์ ตนเองก็ต้องมีการชุบมนตร์ ซึ่งเป็นไปตามหลักวิชาครูอาจารย์กำหนดเอาไว้ ไม่ได้เรียกว่าเป็นการลองของ แต่เป็นการเสริมดวง ทำให้ยันต์อักขระคงกระพันมีความสมบูรณ์ แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น การชุบมนตร์สามารถทำได้ ตั้งแต่ 3,6,9 ครั้ง ซึ่งการชุบมนตร์ เป็นการสะเดาะเคราะห์หลังจากที่ได้รับยันต์อักขระคงกระพันไปแล้ว เป็นเสมือนกุศโลบายของครู เป็นการแก้เคล็ด "การทำแบบนี้ไม่ใช่การลองของ แต่ครูอาจารย์บอกว่าเป็นการชุบมนตร์ให้เกิดความขลัง ความแข็งแกร่ง ทำให้สิ่งที่ได้รับไปแล้วมีพลังมากยิ่งขึ้น"
กรณีที่สังคมตั้งข้อสังเกตหลังถูกเผยแพร่คลิปในโลกออนไลน์ว่า ทำไมไม่เป็นการเฉือนหรือกรีด แทง แต่เป็นการนำมีดไปวางแล้วใช้สากกะเบือทุบ เพราะครูบาอาจารย์ไม่ได้สอนให้ทำด้วยหลักการแบบดังกล่าว ตนเองก็ไม่กล้าที่จะทำเกินไปกว่านั้น กังวลว่าลูกศิษย์จะได้รับอันตราย เหมือนภาษาอีสานกล่าวว่า "หัวล้านลืมครู" ตนเองจึงทำเกินครูไม่ได้ ภายหลังลูกศิษย์หลายคนที่ได้รับยันต์ หรืออักขระดังกล่าว มีหลายคนเล่าประสบการณ์ให้ฟังหลายต่อหลายครั้งว่า ประสบเหตุซึ่งหน้า แต่ยิงไม่เข้า แทงไม่เข้า เป็นความเชื่อส่วนบุคคล แต่ก็มีเหตุการณ์ที่มีลูกศิษย์ลองดี แอบแทงและเฉือนเนื้อตัวเอง สุดท้ายต้องเย็บมาก 30 เข็ม เป็นเพราะว่าไม่ปฏิบัติตามข้อตกลง เช่น ผิดลูกผิดเมียคนอื่น ไม่เคารพพ่อแม่บุพการีหรือครูอาจารย์ "การสักยันต์หรือลงอักขระก็เป็นเพียงแค่ลงสีที่ผิวหนัง ไม่ได้มีความศักดิ์สิทธิ์อะไร แต่ถ้าหากคนที่ปฏิบัติตามที่ครูอาจารย์สั่งสอน ความคมของมีดหรืออาวุธปืนก็ไม่สามารถที่จะทำร้ายอะไรตัวคนที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบได้ แต่อาจจะมีร่องรอยสีเขียวหรือรอยช้ำเล็กน้อยตามตัวเท่านั้น"
ส่วนกระแสสังคมที่มองว่าการใช้มีดตอกบนเนื้อคนหลังได้รับการสักยันต์ลงอักขระคงกระพันนั้น ไม่ใช่มายากล ถ้าใครอยากลองก็สามารถลองได้ ไม่ว่าจะตอกหรือเฉือน ถ้าเกิดคนไม่มีของ แค่ใช้มีดสะกิดนิดหน่อยก็เข้าเนื้อแล้ว ทั้งนี้ การสักยนต์ขึ้นอยู่กับลวดลาย ซึ่งราคาตั้งแต่ 999 บาท ไปจนถึง 9,999 บาท บางลายก็มีการตั้งราคามาจากครูอาจารย์ที่ตนเองเรียนมากกว่า 10 ท่าน ส่วนในเล่มการสักยันต์ มีราคา 2 แบบ คือสำหรับชาวไทยไม่แพง สำหรับต่างชาติราคาแบบเหรียญ เช่น 299, 599, 1599 เหรียญ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม กรณีเพจแม่ทัพลิงมีการแชร์คลิป ส่วนตัวไม่ได้มีความกังวล เนื่องจากการทำพิธีดังกล่าวเกิดขึ้นจริง ไม่ได้มีการหลอกลวงใคร ถ้าหากออกข่าวไปแล้วมีลูกศิษย์คนไหนตกเป็นเหยื่อหรือถูกหลอกลวง ก็สามารถที่จะแจ้งดำเนินการได้ทันที เมื่อตนเองคือของจริง ไม่เคยหลอกลวงใคร ก็พร้อมที่จะพิสูจน์ความจริงให้เห็น หลังจากนี้หากจะมีหน่วยงานราชการหรือใครเข้ามาตรวจสอบตนเองก็พร้อมที่จะพิสูจน์ความจริง
นายอดุลย์ ศรีราชา อายุ 30 ปี ลูกศิษย์ของอาจารย์เปี๋ยว เปิดเผยว่า ตนเองมีความเชื่อเรื่องการสักยันต์ว่าจะช่วยให้อยู่ยงคงกระพัน แคล้วคลาดปลอดภัย และมีเมตตามหานิยม จึงได้พยายามหาข้อมูลเกี่ยวกับอาจารย์ที่มีความเก่ง มีความน่าเชื่อถือ จนกระทั่งมารู้จักกับอาจารย์เปี๋ยว หลังจากที่มีการสักยันต์ ตนเองก็ได้ขอให้มีการทดสอบแต่ไม่ใช่เป็นการลองของ อาจารย์ให้เหตุผลว่าเป็นการชุบมนตร์ เพิ่มความแข็งแกร่งและพลังให้กับยันต์ที่สัก ทั้งนี้ ส่วนตัวไม่ได้มีความกังวล เพราะทุกอย่างขึ้นอยู่กับการตั้งใจของแต่ละบุคคล ขอเพียงแค่ทำใจให้นิ่ง เชื่อมั่น และมีศรัทธา การทำพิธีชุบมนตร์ก็จะไม่สามารถทำให้ผิวกายมีบาดแผลได้ "หากเราเชื่อมั่นและมีศรัทธา ลูกปืนก็แค่ดินเหนียว"
นายอดุลย์ กล่าวว่า หลังจากที่ลูกศิษย์ทุกคนได้รับการสักยันต์คงกระพันจากอาจารย์เปี๋ยว วันพระทุกคนจะต้องจุดธูปเทียนบูชาขัน 5 ขัน 8 พร้อมทั้งมีการชุบมนตร์ด้วยตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการแทงหรือการกรีด ไม่ใช่เพียงแค่นำมีดมาวางแล้วตอกด้วยสากกะเบือ แต่การทำพิธีดังกล่าวก็ไม่สามารถที่ทำให้ผิวหนังมีรอยแผลหรือเลือดออกได้
อย่างไรก็ตาม กรณีที่โลกออนไลน์ออกมาตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับวิธีดังกล่าวว่าเป็นการหลวงโลก ตนเองไม่ได้สนใจ ใครจะคิดอะไรก็แล้วแต่ หากไปบังคับคนที่ไม่เชื่อให้มาเชื่อเรื่องที่ตนเองกระทำอยู่ก็คงไม่มีใครฟัง ดังนั้นเป็นไปได้ก็ต่างคนต่างอยู่ ไม่ต้องยุ่งกันจะดีกว่า ไม่ต้องพูดมากจะดีกว่า "ดูแต่ตา ปากอย่าพูด ไม่เชื่อก็จงเก็บมันเอาไว้" ถ้าหากใครไม่เชื่อก็ลองมาทดสอบกับตัวของตนเองได้ พร้อมที่จะพิสูจน์
ระหว่างนั้น อาจารย์ได้บอกให้ลูกศิษย์มีการทดสอบให้ทีมข่าวดู การชุบมนตร์ทดสอบจะต้องมีการไหว้บูชาครูอาจารย์ อาจารย์เปี๋ยว ได้มีการจุดธูปเทียน บอกกล่าวครูอาจารย์อยู่ที่สำนักสักยันต์ จากนั้น ช่วงที่วิดีโอคอล นายอดุลย์ได้ลุกขึ้นไปหยิบอุปกรณ์มีดทำครัวออกมา 1 เล่ม พร้อมกับสากกะเบือ ออกมาเพื่อพิสูจน์ให้ดู
หลังจากมีการไหว้บูชาครูเสร็จ นายอดุลย์ได้นำมีดทำครัวปลายแหลม มาวางที่ขาขวา ใช้ไม้สากกะเบือตีหน้าขา 3 ครั้ง ฝั่งซ้ายอีก 3 ครั้ง ทีมข่าวถามว่ามีแผลหรือเลือดไหลหรือไม่ เจ้าตัวบอกว่ามีดไม่สามารถทำอะไรได้ ไม่มีแผล ไม่มีเลือด มีแค่รอยแดง ทีมข่าวถามว่าทำไมไม่เฉือนหรือแทง เจ้าตังอ้างว่าแค่นี้ก็พอพิสูจน์ได้แล้ว
ทีมข่าวเดินทางมาที่โรงเรียนฟิลิปมายากล เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ พูดคุยกับนักมายากลระดับแนวหน้าของประเทศไทย อาจารย์ฟิลิป มายากล สาธิตวิธีการนำมีดวางบนหน้าขาแล้วใช้ไม้ทุบตรงสันมีด มีดที่นำมาสาธิตให้ดูนั้นเป็นมีดที่มีความคม อาจารย์ฟิลิปได้ใช้มีดเล่มดังกล่าวฟันไม้ให้ดู จากนั้นอาจารย์ฟิลิปได้วางมีดลักษณะที่วางตรงไว้บนหน้าขาและแขนของผู้สื่อข่าวตามปกติ แล้วใช้ไม้ทุบสันมีดลงไป พบว่ามีเพียงรอยแดงเท่านั้น
อาจารย์ฟิลิป เปิดเผยว่า สำหรับการนำมีดมาวางบนหน้าขาแล้วใช้ไม้ทุบตรงสันมีด ไม่เกิดบาดแผลนั้น ไม่ได้ใช้เทคนิคอะไรเป็นพิเศษ ไม่เกี่ยวกับว่ามีคาถาอาคมหรือไม่ และไม่ใช่มายากลแต่อย่างใด ส่วนที่หน้าขาไม่มีบาดแผลนั้น เป็นเพราะหน้าขาของคนเรามีการยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อ
ประกอบกับหน้าขามีความนิ่ม ต่อให้ฟันไปกี่ครั้งก็ไม่มีบาดแผล และมีดที่จะนำมาฟันนั้น สามารถนำมีดที่คมหรือไม่คมก็ได้ บางคนอาจไปลบคมมีด เพื่อลดความเสี่ยงเกิดอันตราย คนทั่วไปก็สามารถทำได้
แต่ถ้าหากอยากทราบว่ามีคาถาอาคมจริง ให้นำมีดมาเฉือนดูว่าจะเข้าเนื้อหรือไม่ ปกติแล้วหากคนเรานำมีดมาเฉือนตรงบริเวณร่างกายจุดไหนก็จะมีเลือดออก อย่างไรก็ตาม ตนไม่ได้หบหลู่ แต่ตนอยากให้คนดูมีวิจารณญาณในการรับชม มองว่าการกระทำของอาจาย์ที่สักยันต์นั้น ไม่ได้วิเศษวิโสอะไร เหมือนเป็นการแสดงเด็กที่เล่นเท่านั้น
