หนุ่มเครียดกู้แอปฯ เถื่อนถูกประจานแขวนคอลาโลก นายจ้างช็อกเจอแชตตามเก็บศพ

วันที่ 9 ส.ค. 64 ช่วงเย็นที่ผ่านมา สถานีตำรวจภูธรบางน้ำเปรี้ยว รับแจ้งเหตุมีผู้ผูกคอเสียชีวิต บริเวณป่าหญ้าข้างถนนสุวินทวงศ์ ใกล้เคียงป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ ม.22 ต.ศาลาแดง อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา

ผู้เสียชีวิต คือนายมานพ อายุ 42 ปีชาว จ.ลำปาง เป็นพนักงานโรงงาน เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องปีนขึ้นไปบนต้นไม้ก่อนผูกเชือก ชักรอกนำร่างผู้เสียชีวิตลงมาด้านล่าง เจ้าหน้าที่ตรวจสอบภายในกระเป๋าสะพายของผู้เสียชีวิต พบจดหมายลาตาย ระบุว่า "ลาก่อน พอแล้ว อโหสิกรรมให้ผมด้วย มานพ ปัญญาดิษ"

ทีมข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ บริเวณป่ารก ด้านหลังป้ายโฆษณา ตั้งอยู่ใกล้กับทางเข้าบริษัท หมู่ 22 ต.ศาลาแดง อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา อยู่ห่างจากถนนใหญ่ประมาณ 50 เมตร ภายในที่เกิดเหตุมีต้นไม้สูง จุดที่ผูกคอตายอยู่ห่างจากพื้นดินประมาณ 3 เมตร

นายมานพ มาลอย อายุ 42 ปี หัวหน้างานของผู้ตาย เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ เวลา 09.45 น. ผู้ตายได้ส่งข้อความมาทางไลน์ว่า "ต้นไม้ข้างไปเนสเล่" ตนส่งสติกเกอร์กลับไป ก็ไม่ตอบกลับ จนเวลา 15.52 น. ตนได้ส่งข้อความไปบอกว่า "เกิดอะไรขึ้นครับ" แต่ผู้ตายไม่อ่านข้อความ เลยเริ่มรู้สึกเอะใจ โทรหาเพื่อนร่วมงานของผู้ตายเพื่อสอบถาม แต่เพื่อนร่วมงานบอกว่าผู้ตายออกไปข้างนอก ตนจึงนั่งประมวลผลจากข้อความที่ผูตายส่งมาให้ และบอกให้เพื่อนร่วมงานของผู้ตายเข้าไปดูสถานที่ดังกล่าว และพบว่าผู้ตายผูกคอเสียชีวิตแล้ว ซึ่งสาเหตุน่าจะมาจากเรื่องหนี้สิน

โดยเมื่อประมาณ 1 เดือนที่แล้ว ผู้ตายได้พูดทำนองเหมือนบอกลา บอกว่า "เจ้าหนี้จะตามมาถึงที่พัก อยู่ไม่ได้ จะต้องไปแล้ว" ตนเลยเปิดใจคุยกับผู้ตายว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะผู้ตายทำงานกับตนมานานแล้ว และเป็นคนที่ทำงานดี ผู้ตายได้เล่าว่ามีปัญหาเรื่องเงินกู้ เนื่องจากลงทุนเล่นพนันออนไลน์ แล้วไม่มีเงินจ่ายหนี้ ไปกู้เงินจากแอปพลิเคชันเงินกู้เพื่อจะนำมาใช้หนี้ เพราะหวังว่าจะคืนทุนได้ แต่กลายเป็นว่าจำนวนหนี้กลับเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม

ตนเลยช่วยจ่ายหนี้ประมาณ 2-3 ครั้ง จำนวนเงินที่ตนโอนให้มีหลายครั้ง 27,000 บาท และ 50,000 บาท ซึ่งรวมแล้วหนี้ของผู้ตายมีประมาณหลักแสนบาท หลังจากที่ตนโอนเงินให้ และผู้ตายนำไปจ่ายหนี้ เวลาที่จ่ายผู้ตายจะกระจายบัญชี ไม่ได้จ่ายให้คนเดียว และไม่ได้จ่ายคืนรอบเดียว แต่เงินที่กู้มามีแค่จากในแอปพลิเคชันอย่างเดียว

โดยครั้งนั้นผู้ตายก็กล่าวว่าตนได้ช่วยชีวิตเขาไว้ และหลังจากที่ตนปิดหนี้ให้ ผู้ตายให้สัญญาว่าจะไม่กู้เงินอีก และส่งหน้าบัญชีมาให้ตนดูทุกวัน เพื่อยืนยันว่าไม่ได้โอนให้ใคร แต่วันก่อนที่จะเหตุ ตนสังเกตเห็นว่าผู้ตายได้โอนเงินให้บุคคลหนึ่ง จำนวน 2,000 บาท แต่ไม่ทราบว่าเป็นเจ้าหนี้หรือไม่ ซึ่งตอนนั้นในบัญชีมีเงินแค่ 2,500 บาท ตนโอนให้ก็แทบจะไม่เหลือเงินแล้ว

ทั้งนี้ ตนทราบว่า ผู้ตายเล่นการพนันออนไลน์ แต่ไม่คิดว่าจะเล่นหนักขนาดนี้ ไม่เคยมีเจ้าหนี้มาทวงถึงที่พัก มีแค่เมื่อวานนี้ ช่วงเวลาประมาณ 15.00 น. ที่ตนรวมถึงเพื่อนร่วมงานของผู้ตายได้รับข้อมูลความทวงหนี้จากบุคคลปริศนา อ้างว่า ผู้ตายติดหนี้ 6,021 บาท และด่าทอด้วยคำหยาบคาย

โดยก่อนเกิดเหตุ ช่วงวันที่ 29 ก.ค. ตนได้พาไปฉีดวัคซีน แอสตร้าเซเนกา หลังจากที่ฉีดแล้ว ผู้ตายมีอาการเพลีย เพื่อนร่วมงานเข้าใจว่าอาจจะเป็นผลข้างเคียงจากฤทธิ์ยา เพราะผู้ตายบ่นปวดหัว นตก็พยายามถามว่าอาการหนักไหม ถ้าเป็นเยอะจะพาไปหาหมอ แต่ผู้ตายก็ปฏิเสธ อีกทั้งช่วง 2-3 วันมานี้ ผู้ตายซึม อ่อนเพลีย และไม่มีแรงทำงาน แต่ตนก็ยังเข้าใจว่าเป็นฤทธิ์ยา จากเหตุที่เกิดขึ้น ตนอยากจะฝากให้เป็นอุทาหรณ์ว่าการพนันไม่ได้ทำให้ใครรวย มีแต่จะทำให้แย่ลง นอกจากจะส่งผลให้กับตัวเองแล้ว อาจจะกระทบถึงคนรอบข้างด้วย

เวลาประมาณ 13.45 น. ญาติพี่น้องได้จัดพิธีทางศาสนาที่วัดหนามแดง จ.ฉะเชิงเทรา จัดพิธีฌาปนกิจ เพื่อที่จะนำกระดูกไปประกอบพิธีที่บ้านเกิด เนื่องจากญาติพี่น้องส่วนใหญ่อยู่ที่ จ.ลำปาง ไม่สะดวกที่จะเดินทางมาร่วมพิธีที่ต่างจังหวัด เวลาประมาณ 15.00 น. ได้จัดพิธีประชุมเพลิง

นายทวีศักดิ์ ชมพู อายุ 25 ปี น้องชายของผู้ตาย เปิดเผยว่า ครั้งล่าสุดที่เจอกันคือเมื่อ 3-4 ปีที่แล้ว ซึ่งผู้ตายมาทำงานที่ จ.ฉะเชิงเทรา ประมาณ 3-4 ปี ส่วนใหญ่ตนจะไม่ค่อยได้เจอกัน เวลาคุยจะถามสารทุกข์สุขดิบมากกว่า อีกทั้งผู้ตายเคยทักมาขอยืมเงินบ้าง แต่ไม่ได้ขอเยอะ และขอเพื่อนำเงินไปกินข้าว และไม่เคยเล่าปัญหาให้ฟัง ทั้งนี้ ผู้ตายจะติดต่อกับแม่ทุกวัน และจะเล่าเรื่องส่วนตัวให้แม่ฟังมากกว่า แต่ก่อนเกิดเรื่องไม่ได้โทรมาหาแม่ประมาณ 2 วัน โดยแม่เคยช่วยจ่ายหนี้ให้ครั้งหนึ่ง จำนวนหนี้สินประมาณหลักหมื่นบาท แต่ตนไม่ทราบระยะเวลา โดยเมื่อก่อนผู้ตายเป็นหนี้บัครเครดิต ซึ่งครั้งนั้นจ่ายหนี้คืนแล้ว แต่ไม่เคยทราบเรื่องหนี้นอกระบบ

หลังจากเกิดเรื่อง ผู้ตายได้สั่งลาด้วยข้อความสั้น ๆ ทางจดหมายแต่ไม่ได้สั่งเสียเรื่องหนี้สิน ในส่วนของหนี้สิน ตนไม่ทราบจริง ๆ เพราะไม่ได้มากู้ยืมกับเขา และคงจะไม่ได้ชดใช้ให้ เพราะตนมีภาระต้องดูแลเหมือนกันคือดูแลทางแม่ และครอบครัว อย่างไรก็ตาม ทางครอบครัวไม่ได้ติดใจกับเหตุที่เกิดขึ้น เพราะจากผลชันสูตรไม่มีบาดแผลที่เกิดจากการขัดขืน หรือการทำร่ายร่างกาย และสาเหตุน่าจะมาจากเรื่องหนี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนอยากจะฝากเป็นอุทาหรณ์ด้วย